วิจารณ์หนัง นาคปรก

วิจารณ์หนัง นาคปรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
การที่จะทำภาพยนตร์สักเรื่องที่เกี่ยวกับความศรัทธา ความเชื่อ ความเคารพ หรือแม้แต่กระทั่งเรื่องของ ความรัก ของคนในชาติหรือของคนในประเทศที่มีจำนวนมากๆ หรือทั้งประเทศเลย มันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก โดยเฉพาะเรื่องของ ศาสนา จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่ภาพยนตร์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของพระพุทธศาสนา จะต้องถูกเข้มงวดทางสังคม หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างมาก นาคปรก เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เสนอในด้านมืดของจิตใจคน ที่เอาศาสนามาเป็นตัวกำบังในสิ่งไม่ดีของตน ภาพยนตร์เรื่องนี้แรงตั้งแต่เป็นรูปโปสเตอร์หน้าหน้าแล้ว ที่มีชายหัวโล้นเหมือนพระใส่สบงของพระแต่ถือปืน หรือภาพยนตร์ตัวอย่างที่มีฉากเอาปืนจ่อหัวพระ ซึ่งเป็นความแรงที่ชาวพุทธรับไม่ได้แน่นอน ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ในตอนแรกจะถ่ายทำและตัดต่อเสร็จแล้วทั้งเรื่อง แต่ก็ไม่สามารถนำมาฉายได้ เพราะถูกองค์กรที่เกี่ยวข้องออกมาท้วงติงมากมาย ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงถูกระงับในการฉายไว้ก่อน เป็นเวลาถึง 3 ปีด้วยกัน ก็ต้องขอชมเชยคุณภวัต พนังคศิริ ซึ่งเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ที่ได้พยายามแสดงให้เห็นว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ได้เป็นภาพยนตร์ที่มาทำลายศาสนา แต่เป็นภาพยนตร์ที่มาช่วยส่งเสริมศาสนาด้วยซ้ำ มีการหอบหนังเรื่องนี้ไปให้องค์กรที่เกี่ยวข้องดูแล้วดูอีก อธิบายที่มาที่ไปของทุกฉากทุกตอนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และในที่สุดภาพยนตร์เรื่องนี้จึงถูกนำมาออกฉายได้ ผมว่าเรื่องของคนไม่ดีที่แทรกตัวอยู่ในหมู่คนดีนั้น มีทุกวงการไม่ว่าจะเป็นวงการตำรวจ (ซึ่งเรื่องนี้ก็มีแสดงให้เห็นเช่นกัน) วงการแพทย์ วงการครู ในวงการข้าราชการต่างๆ ในวงการนักการเมือง หรือแม้กระทั่งวงการที่เราคิดว่าดีที่สุดอย่างวงการสงฆ์ ก็มักมีคนที่ไม่ดีปะปนมาด้วยอยู่เสมอ อย่างที่เป็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์อยู่ทุกวัน ขอชมเชยคุณภวัตอีกครั้ง ที่กล้ามาก กล้าที่นำมุมมองตรงนี้มาเสนอ แม้จะเป็นสิ่งล่อแหลมและละเอียดอ่อนก็ตาม คุณภวัตนำเสนอในมุมมองที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แถมแทรกแง่คิดในทางพุทธศาสนาอีกมากมายเลยทีเดียว แต่ขอติสักนิดนะครับ คุณภวัต เสนอแง่มุมในด้านมืดแล้ว แต่ไม่ได้เสนอในแง่สว่างด้วย อย่างเช่น ถ้าเกิดเหตุการณ์ในเรื่องอย่างนี้จริงๆ วงการสงฆ์จะมีทางแก้ไขอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้บุคคลไม่ดีเหล่านี้ เข้ามาใช้ประโยชน์จากพระพุทธศาสนาได้อีก นาคปรก เป็นเรื่องของ โจร 3 คน ที่ไปปล้นเงินจำนวนมากมาแล้วได้นำไปซ่อนไว้ที่บ่อร้างแห่งหนึ่ง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปพวกโจรต้องการไปนำเงินนั้นกลับมา ปรากฏว่าบ่อร้างแห่งนั้นได้ถูกโบสถ์สร้างทับไปแล้ว พวกเขาจึงจำเป็นต้อง "ปล้นผ้าเหลือง" แฝงตัวมาเป็นพระ เพื่อขุดเอาเงินที่ซ้อนไว้คืนมาให้ได้ ฉากที่คิดว่าแรงๆ นั้น เมื่อดูตามเหตุและผลแล้ว ก็เป็นฉากที่ไม่ค่อยแรงเท่าไหร่นัก ซึ่งเป็นฉากที่สมเหตุและสมผลดีแล้ว ในด้านการแสดงก็ต้องยกย่องให้นักแสดงทั้ง 3 คน แสดงได้ดีมากๆ อย่างไม่มีที่ติ ถ้าคิดตามหลักศาสนาที่เกี่ยวกับเรื่องของ "บัวสี่เหล่า" แล้ว บัวที่อยู่ใต้โคลนตม ต้องยกให้บทของคุณ เรย์ แมคโดนัลด์ ที่เล่นเป็นตัว สิงห์ ขอโทษนะครับที่ต้องใช้คำหยาบหน่อย เพราะในบทของสิงห์นั้นเป็นคนที่เลวมาก มากชนิดที่ว่าไม่มีที่ติเลยเลวจริงๆ ไม่น่าเชื่อว่า คุณเรย์ ที่มักสวมบทพระเอกมาแล้วหลายเรื่อง ก็มีความสามารถเล่นบทคนเลวๆ อย่างนี้ซะแตกกระจุย ส่วนบัวใต้น้ำก็ต้องยกให้คุณเต๋า สมชาย เข็มกลัด เพราะบท ป่าน ที่เขาได้รับ แม้ว่าจิตใจเขาจะมีด้านมืดอยู่มาก แต่เขาก็พ้นจากโคลนตมมาแล้ว เขายังนึกถึงแม่ที่เป็นผู้มีพระคุณกับเขาสูงสุด เขายังนึกถึงบุพการีในบางครั้ง ส่วนบัวปริมน้ำก็ต้องเป็นบทของ ปอ ที่คุณเต้ ปิติศักดิ์ เยาวนานนท์ รับไว้ แม้ว่าจะมีส่วนหนึ่งที่อยู่ในน้ำตลอดเวลา แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่พ้นน้ำแล้ว ปอแม้จะมีหลงทางไปบ้างบางครั้ง แต่ก็เป็นคนเดียวที่รู้เรื่องของความผิดชอบชั่วดีเป็นอย่างดี และมีปอเพียงคนเดียวที่จะพัฒนาไปเป็นบัวที่พ้นน้ำได้ อ่อ..ยังมีบัวใต้โคลนตมอีกคนในบทของ "น้ำผึ้ง" ที่แสดงโดยคุณทราย อินทิรา เจริญปุระ พอดีผมเป็นแฟนคลับของเธอด้วย เธอจึงเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้ที่ผมอยากดู และเธอก็แสดงเป็นบัวใต้โคลนตมได้ดีจริงๆ ยังมีบัวใต้น้ำอีกคนที่หลุดออกมาจากโคลนตมแล้ว แต่ก็ยังมีความละโมมโลภมากในสิ่งที่ไม่ควรอยู่ เขาคนนี้เป็นใคร คนที่ดูเรื่องนี้จบแล้วคงรู้ดี เพราะตอนจบจะเป็นการเฉลยให้ทราบ ใครจะไปรู้ล่ะว่า คนที่เราคิดว่าเขาดีที่สุด ในส่วนลึกๆ แล้ว เขาก็แค่บัวใต้น้ำคนหนึ่งนั่นเอง ตรงนี้แหละที่กล่าวได้ว่า "คนชั่วที่แฝงอยู่ในหมู่คนดีได้อย่างแนบเนียน..." และภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า จุดจบของผู้ที่ทำไม่ดีแต่ละคนก็ได้รับผลกรรมตามที่ตัวเองได้ก่อไว้ สุดท้ายตรงนี้กับคำถามที่ว่า "พุทธศาสนาจะสอนคนให้เป็นคนดีได้จริงหรือ" ตรงนี้หลายคนคงได้คำตอบจากการดูภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว คนที่จะดีหรือไม่ดีนั้น อยู่ที่ส่วนลึกของจิตใจจริงๆ คนที่มีจิตใจไม่ดี ไปอยู่ในหมู่คนดี เขาก็ยังคงเป็นคนที่ไม่ดีอยู่วันยังค่ำ ผมก็หวังว่าพุทธศาสนาจะเป็นตัวช่วยขัดเกลาจิตใจของคนที่มีจิตไม่ดี(ไม่ใช่คนบ้านะ) ให้มีสติและกลับมาเป็นคนดีของสังคมได้ ไปดูเถอะครับเรื่องนี้ แล้วจะได้อะไรกลับมาอีกหลายๆ อย่างเลยทีเดียว...

บทวิจารณ์โดย : TCK E-mail :TCK05@sanook.com

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง นาคปรก

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook