วิจารณ์หนัง My Best BodyGuard

วิจารณ์หนัง My Best BodyGuard

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ผมไม่ลังเลเลยที่จะได้เข้าไปชมภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นเรื่องใหม่ล่าสุดของคนไทย เหตุเพราะว่าหนังบู๊หรือภาพยนตร์แอ็คชั่นของไทยเรานั้น ขึ้นชื่อเรื่อง บทภาพยนตร์มาก บทจะไม่ดี บทน้อย จะเน้นแต่ฉากแอ็คชั่นอย่างเดียว แต่กับเรื่องนี้ "มาย เบสท์ บอดี้การ์ด" ( My Best BodyGuard ) ภาพยนตร์ในทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ผมว่าทุกอย่างต้องคุณภาพแน่ๆ ในฐานะนักแสดง ผมติดใจฝีมือการแสดงของ ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ มาตั้งแต่ท่านทรงแสดงภาพยนตร์เรื่อง "หนึ่งใจ เดียวกัน" แล้ว และได้เห็นพระปรีชาสามารถทางด้านการแสดงเป็นอย่างดี แต่สำหรับเรื่อนี้ท่านได้ยกระดับตัวท่านมาอีกเท่าตัว คือเป็นแนวบู๊ ท่านต้องเล่นบทบู๊ แค่คิดก็อยากดูแล้วครับ My Best BodyGuard เป็น เรื่องของ "นิชา" นักข่าวสาวที่มีชื่อเสียงในประเทศไทย ได้รับข่าวสารลับเกี่ยวกับเชื้อไวรัสตัวใหม่ตัวหนึ่ง ที่สามารถจะฆ่าคนทั้งประเทศไทยเพียงพริบตาเดียว เธอตามสืบข่าวนี้ทันที แต่ยิ่งเธอใกล้หาข้อมูลได้มากขึ้นเท่าไร ชีวิตของเธอก็ตกอยู่ในอันตรายมากขึ้น ต่อมาเธอพบว่า มีบริษัทยาต่างชาติอยู่เบื้องหลังการผลิตเชื้อไวรัสนี้ บริษัทดังกล่าวได้ใช้คนเป็นๆ จำนวน 7 คน เพื่อทดลองยานี้ แทนที่จะใช้หนูตะเภา นิชาต้องการหยุดการกระทำอันเลวร้ายนี้ เธอต้องการปล่อยข่าวนี้ให้ประชาชนรับทราบ และหยุดการกระทำอันผิดมนุษย์นี้ เธอเริ่มตามหาเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย 7 คนนี้ และพบว่าเลือดของเหยื่อเหล่านี้คนหนึ่ง สามารถช่วยรักษาคนที่เหลือได้ ขณะเดียวกันมีคำสั่งลับให้สั่งฆ่า "หนูห้องแล็บ" 7 คนนี้ "นิชา" พยายามออกตามหาพวก เขา และปกป้องพวกเขาจากองค์กรชั่วร้ายนี้

ผู้กำกับเรื่องนี้ คือ คุณสิริปปกรณ์ วงศ์จริยวัตร เป็นผู้กำกับคนเดียวกับเรื่องที่แล้วคือ หนึ่งใจ...เดียวกัน ตอนแรกที่ดูจากงานเรื่องที่แล้วกับงานเรื่องนี้แทบไม่เชื่อเลยว่าเป็นผู้ กำกับคนเดียวกัน อาจจะเป็นเพราะเรื่องที่แล้วเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับวิถีชีวิตของชาวชนบทเลย ทำให้ดูเรียบง่าย แต่พอมากำกับหนังบู๊ดูรายละเอียดหรือสเกลของหนังมันใหญ่ขึ้น ก็เลยดูแล้วทำให้แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ได้ข่าวมาว่านอกจากนี้ ทางทีมงานยังได้เสริมทีมงานมืออาชีพจากต่างประเทศเข้ามาอีกหลายคน โดยเฉพาะกับฉากแอ็คชั่นได้อาจารย์ดีฝีมือระดับฮอลลีวู้ดเลยทีเดียว สำหรับบทรวมๆ ของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว การเรียงเนื้อเรื่องหรือการตัดต่อภาพและบทภาพยนตร์ ดูจะเร็วไปสักหน่อย อาจจะเป็นเพราะว่าต้องให้กระชับรวดเร็วหรือเปล่าก็ไม่ทราบได้ แต่มันทำให้ดูบางฉากบางตอนไม่รู้ที่มาที่ไป นี่อาจจะเป็นปัญหาอีกข้อหนึ่งก็ได้สำหรับผู้กำกับมือใหม่คนนี้ บางฉากน่าจะมีก็ไม่มี อย่างเช่น ฉากคนที่ติดเชื้อไวรัสแล้ว จากโครงการแรกหรือโครงการสองก็ได้ เอาแบบติดเชื้อแล้วเดินเหมือนซอมบี้เลย แต่ไม่ทำร้ายคนเหมือนซอมบี้ อาจจะเป็นแค่ฉากในห้องทดลองก็ได้ มันจะทำให้หนังน่าดูขึ้น เพราะจะได้เห็นผลของการทดลองที่แท้จริง ไม่ใช่ให้แค่ดูแต่รูปภาพอย่างเดียว ในส่วนของฉากแอ็คชั่นดีแล้วครับ แม้ว่าดูแล้วจะยังสู้หนังต่างประเทศไม่ได้ แต่ก็เรียกว่าหายใจลดต้นคอกันเลยทีเดียว ในส่วนของใจความสำคัญของเรื่อง ชอบครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับการใช้ชีวิตให้มีค่าที่สุด ทุกชีวิตมีค่า ใครคนใดคนหนึ่งไม่สามารถไปกำหนดชีวิตให้ใครได้ แม้ว่าคนนั้นเขาจะมีชีวิต อย่างไรก็ตาม เพราะฉะนั้นเราควรทำชีวิตที่มีค่าของเรา ให้มีประโยชน์สูงสุด อย่าปล่อยชีวิตให้อยู่ไปวันๆ อย่างไม่มีค่าเลย

ด้านการแสดง ชาคริต แย้มนาม ที่แสดงเป็นมือปืนรับจ้างในภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ได้บอกที่มาที่ไปว่าเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้หัวนอนปลายเท้า รู้แต่เพียงว่า พ่อของนิชาเคยช่วยชีวิตเขาไว้ในสนามรบเท่านั้น กับบทบาทการต่อสู้ ผมว่า ชาคริต แย้มนาม เหมาะกับภาพยนตร์แอ็คชั่นมากที่สุด หุ่นให้ แอ็กชั่นดี ผมดูแล้วยังคิดไปเพลินๆ เลยว่า ถ้ามีภาพยนตร์สักเรื่องให้ ชาคริต แย้มนาม มาต่อสู้กับ จา พนม จะเกิดอะไรขึ้น ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญาฯ ในบท นิชา นักข่าวสาวที่ต้องการเปิดเผยข้อมูลความจริง ในด้านการแสดงทรงพระปรีชาสามารถอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นบทแน่วแน่ยึดมั่นในจรรยาบรรณของนักข่าว ที่ต้องการความจริงของสังคมมาตีแผ่เปิดเผย กับบทเครียดๆ ที่ได้รับรู้ถึงข่าวขององค์กรชั่วร้าย กับบทดราม่าที่ต้องสูญเสียพ่อของตัวเองไป และบทบู๊ที่ต้องจับปืนยิงศัตรูให้สิ้นซากไปจากแผ่นดิน ไม่ว่าจะเป็นบทไหน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เล่นได้เป็นธรรมชาติมากครับ ในส่วนของบทของ คุณตุ้ย ธีรภัทร สัจจกุล นายตำรวจที่ออกตามล่าผู้ติดเชื้อ และออกตามล่าองค์กรที่จับมนุษย์มาทดลอง เพิ่งเคยเห็นคุณตุ้ยใส่ชุดตำรวจ ดูเท่มาก เห็นแล้วอยากเป็นตำรวจอย่างคุณตุ้ยบ้าง กับบทนายตำรวจที่ไม่ยอมก้มห้วให้ใคร แม้ว่าองค์กรนั้นจะมีอิทธิพลมากมายก็ตามในบทตำรวจที่ดูเท่ๆ อย่างนี้บวกกับมุมกล้องสวยๆ ของเรื่องนี้จึงทำให้คุณตุ้ยดูเด่นขึ้นมาอย่างมหัศจรรย์เลยทีเดียว กับอีกสองคนที่คิด ว่าน่าจะมีบทเด่นอย่าง สงกรานต์ เตชะณรงค์ และ เจมส์ แม็กกี้ ลูกน้องคนสำคัญของคุณตุ้ย แต่กลับเด่นไม่เท่าบทของน้องโอ๋ หทัยรัตน์ เจริญชัยชนะ ที่รับบทเป็นหนึ่งในทีมงานนักข่าว และ คุณบ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ ที่รับบทเป็นตากล้องนักข่าว ดูจะมีบทเด่นกว่าเสียอีก

มีนักแสดงอีกคนที่ ต้องยกนิ้วหัวแม่โป้งให้กับทีมงานที่คัดเลือกตัวแสดง คือ ซอร์น หยู (Shawn Yue) นักแสดงอีกคนที่กำลัง โด่งดังสุดขีดในเอเชีย ถ้าจะให้กล่าวถึงผลงานของคุณซอร์น หยู อย่างเรื่องล่าสุดที่เข้ามาฉายในไทย เรื่อง Reign fo Assassins ชื่อภาษาไทยว่า นักฆ่าดาบเทวดา คุณซอร์น หยู ก็เล่นเป็นพระเอกเชียวนะ หรืออีกเรื่องอย่าง ปะฉะดะ คนเหนือยุทธ์ คุณซอร์น หยู ก็ฝากฝีมือการแสดงจนนักดูหนังบ้านเราหลงใหลในการแสดงของเขามาแล้ว กับบทบาทในเรื่องนี้ที่ต้องปะทะฝีมือการต่อสู้กับ ชาคริต และคุณตุ้ย ก็เป็นฉากที่ดูแล้วคุ้มค่าเงินสุดๆ ครับ แม้ว่าการชม ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่มีเสียงหัวเราะ เพราะไม่ใช่หนังตลก แต่เมื่อดูจบแล้วก็ได้อะไรมาเยอะเลย โดยเฉพาะ "คุณค่าชีวิต"ของแต่ล่ะคน ที่มีค่ามาก อย่าทำให้ชีวิตเราหมดคุณค่าเลย และกับฉากเบื้อหลังการแสดง โดยเฉพาะฉากที่เกิดอุบัติเหตุด้านการแสดกับบุคคลที่คนทั้งประเทศรักอย่าง ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญาฯ เป็นฉากที่ดูแล้วน้ำตาซึมเลยทีเดียว แต่ท่านก็ยังมีใจสู้อยู่ the show must go on สุดยอดเลยครับ ปักษ์นี้ขอเชียร์ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็แล้วกันนะครับ เพราะว่านอกจากความสนุกที่ได้รับจากภาพยนตร์แล้ว รายได้ส่วนหนึ่ง จากการซื้อบัตรชมภาพยนตร์เรื่องนี้ จะนำเข้าสู่ มูลนิธิ Miracle of Life เพื่อ เข้าโครงการ หนึ่งใจให้ร้อยใจรับ และ หนึ่งใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ที่กำลังเกิดกับพี่น้องชาวไทยในหลายจังหวัด เรียกว่าดูหนังเรื่องนี้ ได้ทั้งความสนุกและยังได้บุญอีกด้วยครับ.....

บทวิจารณ์โดย TCK tck05@sanook.com

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์หนัง My Best BodyGuard

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook