วิจารณ์ภาพยนตร์ Stardust

วิจารณ์ภาพยนตร์ Stardust

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงหรรษาปาตี้ที่ครอบครัวจะได้อยู่ด้วยกันมากซักหน่อย เพราะเป็นการปิดเทอมของน้องๆหนูๆ ทั้งหลาย รวมทั้งคนอีกหลายๆคนที่ แสวงหาความเพลิดเพลินในช่วง ปลายฝนต้นหนาวรับปิดเทอมแบบนี้ ยังไงถือว่าเป็นการสร้างกิจกรรมในครอบครัวก็แล้วกันนะครับสำหรับ ใครที่จะพาลูกๆหลานๆหรือคนที่เรารักไปดูหนังสักเรื่องหนึ่ง ยังไงผมขอแนะนำเรื่องนี้เลยครับ Stardust ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่ผ่านสายตาเข้ามา ยอมรับตรงๆ ว่าแรกที่เห็นหนังตัวอย่าง จะสนุกไหมนะ เพราะเคยผิดหวังกับหนังแนวนี้มาหลายครั้ง เพราะถึงแม้จะมีจุดขัดใจเล็กๆ น้อยๆ อยู่บ้าง แต่ Stardust ก็เป็นหนังแฟนตาซีเรื่องหนึ่งที่ผสานโลกแห่งจินตนาการและความเป็นจริงได้อย่างกลมกล่อมลงตัว หนังดัดแปลงจากนิยายขายดีของ นีล ไกแมน ซึ่งได้รับการชื่นชมในเรื่องความอบอุ่นในตัวเรื่อง และจินตนาการที่น่าตื่นเต้น ถึงผมจะไม่ได้เคยผ่านตาตันฉบับที่เป็นนิยายที่ว่า แต่บทหนังของ เจน โกลด์แมน ซึ่งยึดคำแนะนำของไกแมน ก็คงจะเดินรอยตามนิยายต้นฉบับอย่างแน่แท้ เพราะได้ ไกแมน เป็นเหมือนที่ปรึกษา ในขณะที่ผู้กำกับ แมทธิว วอร์น ที่มีงานกำกับที่ได้รับการยกย่องมากๆ อย่าง Layer Cake ซึ่งเป็นหนังที่ผลักดันให้ แดเนียล เคร็ก ได้รับบทบาท เป็น เจมส์ บอนด์ คนใหม่ กำกับและดำเนินเรื่องราวได้แบบรื่นไหลและดูเพลิน ถึงบางคนจะคิดว่าหนังเดินเรื่องช้าไปนิดก็เถอะ ซึ่งข้อนี้ผมไม่เถียง เพราะหนังจะใช้เวลาเล่าเรื่องอยู่พอสมควรเหมือนกัน แต่ในฉากเล่าเรื่องเหล่านั้นหนังก็แทรกด้วยอมรมณ์ขัน อาจจะขำมาก ขำน้อย หรือแค่ยิ้มๆ แต่ก็ทำให้หนังดูเพลินและไม่ได้ทำให้เกิดอาการง่วงแต่อย่างใด สำหรับผมจึงไม่ได้ซีเรียสในข้อนี้ ถึงแม้หนังจะไม่ได้เดินตามรอยหนังแฟนตาซี ซึ่งฮิตกันสุดๆ ในยุคนี้ คือหนังไม่ได้เล่นกับความเป็นดราม่าแบบเอาจริงเอาจัง หรืออาจจะเอาเป็นเอาตาย แต่เล่นกับอามณ์ขันแบบเบาสมอง เหมือนหนังครอบครัวเสียมากกว่า แถมความอลังการก็อาจจะดูด้อยกว่าหนังอย่าง Harry Potter, Narnia ไม่อยากจะบอกเลยว่า STARDUST ไม่มีสัตว์ประหลาดออกมาอาละวาด หรืออาจจะมีก็ไม่ใช่สัตว์ประหลาดที่ให้ความตื่นตาตื่นใจแต่อย่างใด แต่ก็เอาเถอะบอกไว้ให้ทำใจกันก่อนดูก็ดีเหมือนกัน แต่หนังก็ยังให้ความรู้สึกดีๆ บางทีหนังอาจจะดูสนุกมากกว่าหนังแฟนตาซีบางเรื่องเสียอีก จุดเด่นของ Stardust นอกจากจะอยู่ตรงที่ความเป็นเทพนิยายสมัยใหม่ที่มีความคลาสสิคผสานอยู่ และเป็นความคลาสสิคที่สง่างามละมุนละไมจริงๆ ไม่ใช่ใช้คำว่าคลาสสิคมาสวมทับคำว่าเชยอย่างบางเรื่องที่เคยเห็นแล้วยังมีความฮาสอดแทรกอย่างไม่น่าเชื่ออยู่แทบทั้งเรื่อง เรียกรอยยิ้มได้ตลอดเวลา และส่วนใหญ่จะเป็นความขำที่มาจากลักษณะเฉพาะของตัวละครแต่ละตัว ซึ่งต้องขอปรบมือให้ความสามารถของนักแสดงแต่ละคน เพราะแทบทุกคนสามารถดึงคาแร็กเตอร์ตัวเองออกมาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะโจรสลัดหน้าโหด กัปตันเช็คสเปียร์ ที่เวลาเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงทีไร ทำเอาท้องคัดท้องแข็งด้วยความน่ารักทุกที ส่วนปีเตอร์ โอทูล ถึงจะออกมาแค่ไม่ถึง 10 นาที แต่คุณปู่ก็เล่นขโมยซีนกันเห็นๆ ที่สำคัญต้องยกให้คนนี้ มิเชลล์ ไฟฟ์เฟอร์ ทั้งที่เป็นตัวต้นเหตุของเรื่องราว แต่เกลียดเธอไม่ลงเลยจริงๆ เพราะกิริยาท่าทางและเสน่ห์ดึงดูดที่มีลูกเล่น จึงดึงความสนใจไปทุกครั้งที่ปรากฏตัว งานวิชวล เอฟเฟกต์ ดูดีเนียนแต่ยังขาดความอลังการถ้าหากเปรียบเทียบกับหนังแฟนตาซีเรื่องอื่นๆ ก่อนหน้านี้ แต่ถ้าไม่เอาไปเปรียบหนังก็ดูอลังการได้พอสมควร แต่การฉีกแนวเป็นแฟนตาซีแบบเบาสมอง คือดูแล้วไม่เครียด ทำให้หนังดูแตกต่างและน่าจะเป็นเสน่ห์ได้มากกว่างาน สเปเชียล เอฟเฟกต์ ต่างๆ หรือการขายดราม่าแบบเอาเป็นเอาตาย งานด้านการกำกับภาพอยู่ในระดับเยี่ยมซึ่งช่วยให้หนังดูเพลิน เมื่อตลอดเวลาที่ชมุณได้ดูภาพสวย..และได้งานดนตรีที่เหมาะกับภาพที่เห็นอยู่ตรงหน้าถือว่าทำออกมาได้ประทับใจมาก และที่สำคัญคือ บท ผมชอบบทที่เขียนออกมาซึ่งตอนแรกมันจะออกน้ำเน่าๆเล็กๆน้อยๆอย่าง ผู้ชายอ่อนแอต้องการได้ผู้หญิงสวยรวยเสน่ห์มาครอบครองแต่ต้อง มีศึกชิงนางกับหนุ่มหล่อการเรียนดีฐานะร่ำรวยมา จ๋ออยู่ตรงหน้าทำให้พระเอกของเราหายซ่า เลยต้องไปตามหาสิ่งที่พิชิตใจหญิงสาวคนนั้น โดยบอกว่าจะเก็บดาวตก แต่สุดท้ายเจ้ากรรม พระเอกเราได้ผจญภัยจนเกิดรักแท้ไปรักกับดาวที่ตกลงมาเป็นสาวงามไปซะยังงั้น นี่ล่ะหนา รักแท้แพ้ใกล้ชิด สรุป สำหรับเรื่องนี้ผมคงไม่อยากพูดอะไรมากมายกับหนังแฟนตาซีที่เชื่อว่าทุกคนดู แล้วก็ต้องชอบ ไม่มีพิษมีภัยไม่มีฉากที่ โหดเลือดสาดและทารุณ เด็กดูได้ผู้ใหญ่ดูดี ไม่เสียแรงและทรมานสายตา ครับสำหรับเรื่อง Stardust เป็นหนังแอ็คชั่น แฟนตาซีที่ ดูเพลินหัวใจจริงๆ อาจมีฉากบางฉากที่เราคาดไม่ถึงและฉากที่เราคาดไว้สามารถเดาไดด้ล่วงหน้า แต่สรุปสุดท้าย ทุกคนที่เข้าไปดูและออกจากโรงมา คงมีรอยยิ้ม และ ต้องยกนิ้วโป้ง แน่นอนครับ 5 ดาวไป เลย ครับกับหนังแฟนตาซี ดีๆ ที่น่าชมอีกเรื่องหนึ่งในตอนนี้เลยครับ " บทวิจารณ์ภาพยนตร์เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล กรุณาตัดสินจากการชมภาพยนตร์ด้วยตัวเอง " วิจารณ์ภาพยนตร์ โดย Tendama

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ วิจารณ์ภาพยนตร์ Stardust

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook