ฟ้าหลังฝนของหนังเกาหลี

ฟ้าหลังฝนของหนังเกาหลี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ตลาดหนังของเกาหลีใต้ก็ไม่แตกต่างไปจากประเทศอื่นๆ ที่เวลาถึงช่วงซัมเมอร์ทีไร ต้องชนกับหนังฟอร์มยักษ์จากฮอลลีวูดเป็นเรื่องปรกติ และถ้าหนังสัญชาติบ้านเกิดตัวเองไม่แน่จริง ก็คงต้องหลีกทางให้กันเป็นแถบๆ อย่าไปท้าชนด้วยเป็นดีที่สุด ไม่อย่างนั้นอาจจะลงเอยเหมือนกับหนังหายนะบางเรื่องแถวๆ นี้ แต่ด้วยความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในประเทศ ที่ถึงแม้อาจจะดูเป๋ๆ ไปบ้างในช่วงปีสองปีที่ผ่านมา แต่หลายฝ่ายก็ยังมั่นใจในศักยภาพของหนังบ้านเกิดตัวเอง “การแข่งขันกันระหว่างหนังชาติตัวเองกับหนังต่างชาติเป็นเรื่องปรกติไปแล้ว แต่มีไม่กี่ประเทศบนโลกที่ผลผลิตจากประเทศตัวเองจะกล้าแข่งขันกับหนังจากฮอลลีวูด” ฮัน ซุง-ฮี นักวิเคราะห์ของสภาภาพยนตร์แห่งเกาหลีกล่าว สำหรับสถานการณ์ของหนังเกาหลีตั้งแต่เริ่มเข้าสู่ปี 2009 ค่อนข้างจะสดใส เพราะมีหนังฮิตอยู่หลายเรื่องอย่างหนังรักสามเส้า (เกย์) ย้อนยุค A Frozen Flower, หนังคุณพ่อจำเป็นฉบับนายเจี๋ยมเจี้ยม Speedy Scandal, Mr. and Mrs. Smith ฉบับกิมจิ My Girlfriend is an Agent ที่เข้าฉายช่วงต้นปี แล้วยังมีหนังทริลเลอร์เข้าฉายอีกเป็นชุดอย่างหนังตลาดหุ้น The Scam, หนังนักกู้ภัยทางทะเล Marine Boy และหนังนักสืบย้อนยุค Private Eye ที่ทำให้ตลาดหนังเกาหลีมีหนังหลากหลายแนวมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีหนังอินดี้เซอร์ไพรส์ฮิตอย่าง Breathless และ Old Partner ซึ่งเรื่องหลังเป็นหนังสารคดีเกี่ยวกับคุณปู่กับวัวคู่ใจ ที่เป็นหนังอินดี้ที่ทำกำไรมากที่สุดในประวัติศาสตร์หนังเกาหลี เข้าฉายครั้งแรกเพียง 20 โรง แต่ด้วยกระแสปากต่อปากที่ทำให้ยอดคนดูพุ่งไปสูงถึง 2.9 ล้านคน พิสูจน์ให้เห็นว่า ยังมีพื้นที่ว่างสำหรับหนังเล็กๆ ในตลาดหนังแดนกิมจิเสมอ แม้ว่าจะฉายท่ามกลางหนังฮอลลีวูดฟอร์มใหญ่ทั้งหลาย “ผลลัพธ์ของ Old Partner เป็นกรณีที่ไม่ธรรมดา แต่ฉันไม่คิดว่าผู้สร้างหนังจะหันมาทำหนังอิสระเล็กๆ กันมากขึ้นหรอก แต่มันจะเป็นลู่ทางที่ดีสำหรับหนังประเภทนี้ที่หลายคนเคยมองข้ามไป” ฮัน ซุง-ฮี ให้ความเห็น

ส่วนหนังของ 2 ผู้กำกับดังอย่าง พัก ชาน-วุก กับหนังแวมไพร์ Thirst และ บง จุน-โฮ ในหนังดราม่า Mothers ที่ได้ไปฉายในคานส์ทั้งคู่ ก็กลับมาเรียกคนดูในบ้านเกิดได้ไม่น้อยคือ 2 ล้านคนสำหรับเรื่องแรก และเกือบ 3 ล้านคนสำหรับเรื่องหลัง ทั้งหมดทำให้ส่วนแบ่งของหนังเกาหลีของตลาดในประเทศช่วงครึ่งปีแรก เพิ่มขึ้นเป็น 44 เปอร์เซ็นต์ จาก 37 เปอร์เซ็นต์ในปี 2008 ส่วนหนังฮอลลีวูดลดลงเหลือ 45 เปอร์เซ็นต์ จาก 54 เปอร์เซ็นต์ในปีก่อน สำหรับหนังที่กำลังถล่มบ็อกซ์ออฟฟิศเกาหลีในซัมเมอร์ปีนี้ คงไม่ต้องย้ำอีกครั้งว่าคือ Transformers: Revenge of the Fallen ที่ทำสถิติยอดผู้ชมสูงถึง 3.4 ล้านคนภายในสัปดาห์เดียว แต่ฮัน ซุง-ฮียังมองว่ามันเป็นสัญญาณที่ดี “นี่จะเป็นผลดีต่อตลาดหนังในประเทศ เพราะไม่ว่าจะเป็นหนังของชาติไหน แต่มันจะส่งผลเป็นลูกโซ่ในการดึงผู้ชมมาเข้าโรงหนัง” ส่วนหนังฟอร์มใหญ่ของเกาหลีเองที่จะเข้าฉายชนกับหนังฮอลลีวูดในช่วงซัมเมอร์นี้ ก็มีอยู่ด้วยกันหลายเรื่อง เช่นในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีหนังหมูป่าอาละวาด Chaw และหนังสึนามิถล่มเมือง Haeundae (อ่านรายละเอียดของ 2 เรื่องนี้ได้ในคอลัมน์ East is East) ถัดมาในเดือนสิงหาคมก็จะมี A Million มีดารานำชุดใหญ่คือ พักแฮอิล, ชินมินอา, พักแฮซุน และ อีมินกิ ทั้งหมดต้องเอาตัวรอดในพื้นที่ทุรกันดารในออสเตรเลียเพื่อเอาชนะเงินล้าน ต่อด้วยหนังสกีผาดโผน Ski Jump ของ ฮาแจงอู เห็นหนังของเพื่อนร่วมทวีปต่อกรกับหนังฮอลลีวูดอย่างถึงพริกถึงขิงแบบนี้ หนังไทยเราเองก็คงต้องพยายามต่อไป (ถึงไหนก็ไม่รู้)

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ ฟ้าหลังฝนของหนังเกาหลี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook