3นักแสดงกับ3บทบาทลึกซึ้งที่สุดในชีวิตใน "ชั่วฟ้าดินสลาย"

3นักแสดงกับ3บทบาทลึกซึ้งที่สุดในชีวิตใน "ชั่วฟ้าดินสลาย"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากนี้คือ 3 คาแร็คเตอร์หลักจากภพยนตร์เรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย ผ่านมุมมองของผู้กำกับ หม่อมน้อย จากวรรณกรรมอมตะของ "เรียมเอง" หรือ "มาลัย ชูพินิจ" บรมครูแห่งวงการวรรณกรรมสมัยใหม่ของไทย สู่การถ่ายทอดผ่านจินตนาการอันประณีตละเอียดอ่อนและลึกซึ้งโดยผู้กำกับภาพยนตร์อารมณ์ละเมียด "หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล" ที่จะพาผู้ชมย้อนยุคเข้าไปสู่ความรักอันน่าพิศวงและสะเทือนอารมณ์ของ "ส่างหม่อง" หนุ่มหล่อสูงศักดิ์ชาวพม่า, "ยุพดี" สาวสวยหัวสมัยใหม่ชาวพระนคร และ "พะโป้" มหาเศรษฐีสูงวัยผู้ทรงอิทธิพล ท่ามกลางฉากหลังธรรมชาติอันงดงามของป่าเขาลำเนาไพร ธารน้ำตก และสายหมอกในดินแดนชวนฝันอันไกลโพ้นที่ห่างไกลจากเปลวเพลิงอันร้อนระอุของการเปลี่ยนแปลงการปกครองของสยามประเทศในปี พ.ศ. 2475 เพื่อตีแผ่ ชำแหละ และพิสูจน์ให้เห็นว่า "ความรักอันแท้จริงของมนุษย์นั้นเป็นเช่นไร" ในภาพยนตร์เรื่อง ชั่วฟ้าดินสลาย จากนี้คือ 3 คาแร็คเตอร์หลักจากภพยนตร์เรื่อง "ชั่วฟ้าดินสลาย" ผ่านมุมมองของผู้กำกับ "หม่อมน้อย ม.ล.พันธุ์เทวนพ เทวกุล"

ส่างหม่อง (อนันดา เอเวอริงแฮม) - หนุ่มชาวพม่า หลานชายของ "พะโป้" คหบดีใหญ่เจ้าของสัมปทานป่าไม้ผู้ทรงอิทธิพล ส่างหม่องกำพร้าบิดามารดาตั้งแต่ยังเด็ก และได้รับการอุปถัมภ์เลี้ยงดูเป็นอย่างดีจากพะโป้ผู้เป็นอา ทำให้เขาเคารพรักและบูชาพะโป้ประดุจบิดาบังเกิดเกล้า แต่แล้วเมื่อชายหนุ่มต้องตกหลุมพรางแห่งกิเลสตัณหาที่มาในร่างของอาสะใภ้อย่าง "ยุพดี" กรอบแห่งประเพณีและศีลธรรมอันดีที่เคยเคร่งครัดก็มิอาจหยุดยั้งเขาไว้ได้ "ไอ้ความง่ายของบทไม่รู้มันมีหรือเปล่า แต่เรื่องยากน่ะมีเพียบเลย (หัวเราะ) ตัวละครของส่างหม่อง สำหรับผมมันอาจจะยากเป็นพิเศษหน่อย เพราะว่ามันจะเริ่มจากคนที่ใสเป็นผ้าขาวมาก และพอคาแร็คเตอร์มันดำเนินไป มันก็จะค่อยๆ มืดขึ้น เมื่อมันโดนดึงเข้าไปด้านมืด สิ่งที่มันยากก็คือพัฒนาการจากคนไร้เดียงสากลายเป็นคนที่เต็มไปด้วยกิเลส ความใคร่หรือตัณหาราคะ การพัฒนาคาแร็คเตอร์ตรงนี้ค่อนข้างยากหน่อย และนี่ยังไม่พูดถึงฉากดราม่าต่างๆ มีอะไรยากๆ เต็มไปหมดเลย คือทั้งส่างหม่องกับยุพดีอยากจะอยู่ใกล้ชิดกันมาก พะโป้ก็เลยทำให้สมหวังล่ามโซ่ให้อยู่ด้วยกันตลอดเลย ซึ่งผมรู้สึกว่า มนุษย์มันเกิดมาเพื่อให้อยู่เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ การที่จะโดนผูกติดกับมนุษย์อีกคนหนึ่งมันผิดธรรมชาติมาก ทุกคนต้องการความเป็นอิสระ คือถ้าดูผิวเผิน มันก็ดูเป็นสิ่งโรแมนติก เรารักกัน จะได้อยู่เคียงข้างกันตลอดไป แต่บางทีเราไม่ได้คำนึงถึงเรื่องอื่นๆ มันมีความลำบากอยู่ตรงนั้น ในที่สุดการที่ถูกผูกติดกันอย่างนี้มันก็เป็นสูตรสำหรับหายนะอยู่แล้ว" นักแสดงหนุ่มมากความสามารถ "อนันดา เอเวอริงแฮม" มีผลงานการแสดงอันเป็นที่ยอมรับระดับแถวหน้าของวงการ หลังจากแจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่องแรก "อันดากับฟ้าใส" ผลงานการกำกับของหม่อมน้อยเมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ล่าสุดทั้งคู่กลับมาร่วมงานกันอีกครั้งในเรื่องนี้ ซึ่งอนันดาบอกว่าสุดเกร็งเหมือนต้องทำงานกับครูและพ่อของตัวเอง แต่ถึงที่สุดแล้ว เขาก็ทุ่มเททั้งตัวและหัวใจให้กับการแสดงเรื่องนี้อย่างสุดฝีมือ ผลงานภาพยนตร์ : อันดากับฟ้าใส (2540), 303 กลัว กล้า อาฆาต (2541), คนสั่งผี (2546), ชัตเตอร์ กดติดวิญญาณ (2547), Twelve Twenty (หนังสั้น-2549), MeMyself ขอให้รักจงเจริญ (2550), พลอย (2550), โรงงานอารมณ์ (Pleasure Factory - 2550), ดึกแล้วคุขา (2550), เมมโมรี่...รักหลอน (2551), The Leap Years หยุดหัวใจไว้รอเธอ (February 29 - ฉายไทย 2551), สะบายดีหลวงพะบาง (2551), โลงต่อตาย (The Coffin - 2551), ปืนใหญ่จอมสลัด (2551), แฮปปี้เบิร์ธเดย์ (2551), สวัสดีบางกอก ตอน Bangkok Blues (หนังสั้น-2552), ชั่วฟ้าดินสลาย (2553), อินทรีแดง (2553), Hi-So (2554) ------------------------------------------------------------------------------------

ยุพดี (เฌอมาลย์ บุญยศักดิ์) - สาวชาวพระนครผู้เลอโฉมผู้รักการอ่านหนังสือ รักดนตรี และศิลปะร่วมสมัยเป็นอย่างยิ่ง และจากอาชีพเลขาที่ทำให้เธอสมาคมกับชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย ทำให้ความคิดความอ่านของเธอล้ำสมัยไปกว่าสตรีชาวสยามในยุคสมัยนั้น เธอรักเสรีภาพและความเป็นปัจเจกชนประดุจลมหายใจ ยุพดีกำพร้าทั้งบิดามารดา เธอต้องใช้ชีวิตอยู่อย่างโดดเดี่ยวตั้งแต่วัยเยาว์ ทำให้ส่วนลึกในใจของเธอนั้นแสวงหาซึ่งความรัก และ "พะโป้" ก็ปรากฏกายให้เธอได้ยึดเหนี่ยวและน่าจะเติมเต็มความรักครั้งใหม่นี้ให้สมบูรณแบบได้ ถ้าหากว่า "ส่างหม่อง" ไม่แฝงร่างมาในเงาแห่งรักนั้นให้หัวใจของเธอหวั่นไหวเสียก่อน "ถือว่าเป็นตัวแทนผู้หญิงยุคใหม่ในสมัยนั้นเลยนะ คือยุพดีจะเป็นคนที่กล้าฉีกม่านประเพณีออก กล้าฉีกทุกอย่าง และก็ซื่อตรงกับความคิดความรู้สึกของตนเองมาก คือไม่ใช่ปากอย่างใจอย่าง ใจอยากทำอย่างนี้แต่ว่าประเพณีบ้านเมืองและสังคมกรอบมันเป็นแบบนี้ แต่เธอเป็นคนแบบไม่สนใจ ไม่แคร์ ก็คล้ายๆ พลอยตรงที่ว่ารักอิสระ เป็นคนที่รักอิสระมากๆ ไม่ชอบอยู่ในกรอบเหมือนกัน จริงๆ แล้ว 'ชั่วฟ้าดินสลาย' นี่ โดดเด่นมาตั้งแต่บทประพันธ์แล้ว เป็นบทประพันธ์ที่พูดได้ว่า พลอยไม่เคยอ่านบทประพันธ์ไหนที่แบบว่าทำให้เฌอมาลย์ร้องไห้ได้ทันควันมากมายขนาดนี้ เป็นบทประพันธ์ที่ดีมาก ตัวหนังก็ให้แง่คิดได้หลายมุมมอง แต่ที่แน่ๆ ก็คือ ถ้าคนเราทำอะไรที่ตามความรู้สึกมากจนเกินไป ก็อาจจะนำผลเสียมาให้ตัวเองได้ และมันก็จะมีมุมมองความรักอันสวยงามที่สะท้อนออกมาในบทพูดของตัวแสดงแต่ละประโยค ซึ่งพลอยเอง พลอยอ่านแล้วก็เออ...จริง มุมมองความรักแบบนี้ จริงนะ ทำไมเราไม่คิดแบบนี้บ้าง" ด้วยความสามารถที่หลากหลาย "พลอย เฌอมาลย์" ผ่านงานในวงการบันเทิงมาอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นละคร, ภาพยนตร์, ถ่ายแบบ, พิธีกร และดีเจ จนปัจจุบันชื่อชั้นของเธอก็สามารถขึ้นแท่น "นักแสดงหญิงแถวหน้า" ของไทยได้อย่างสมศักดิ์ศรี และโดยเฉพาะกับภาพยนตร์เรื่องนี้ การทุ่มเทพลังการแสดงอย่างสุดหัวใจของเธอที่จะต้องครองใจผู้ชมตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ย่อมให้ผลลัพธ์ที่สุดคุ้มค่าแก่การชมอย่างแน่นอน ผลงานภาพยนตร์: Goodbye Summer เอ้อเหอเทอมเดียว (2539), สตางค์ (2543), แมนเกินร้อย แอ้มเกินพิกัด (2546), เรื่องรักน้อยนิดมหาศาล (2546), บุปผาราตรี (2546), The Park สวนสนุกผี (2546), บุปผาราตรี เฟส 2 (2548), รักแห่งสยาม (2550), สี่แพร่ง ตอน Last Fright (2551), บุปผาราตรี 3.1 (2552), บุปผาราตรี 3.2 (2552), ชั่วฟ้าดินสลาย (2553) -----------------------------------------------------------------------------------

พะโป้ (ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์) มหาเศรษฐีหม้ายชาวพม่าผู้สืบเชื้อสายมาจากเจ้านายชั้นสูงในรัฐฉาน ทำให้เขาภาคภูมิและหยิ่งทะนงในเกียรติภูมิของตนจนเหนือสิ่งอื่นใด เขาเป็นคนสองบุคลิก ด้านหนึ่งเป็นผู้มีเมตตากรุณายึดมั่นในพระพุทธศาสนา ส่วนอีกด้านกลับเป็นเพลย์บอยอย่างหาตัวจับยาก และมีนางบำเรอหลายสิบนางอยู่ในอาณาจักรแห่งเขาท่ากระดานของเขา พะโป้ให้ความรักและเมตตาอย่างลึกซึ้งต่อ "ส่างหม่อง" หลานชายของเขา แต่เมื่อหม้ายสาวหัวสมัยใหม่อย่าง "ยุพดี" ผู้จุดประกายแห่งรักแท้แก่เขา และทำลายมันลงอย่างไม่ใยดีเดินเข้ามาในชีวิต โศกนาฏกรรมรักครั้งใหญ่จึงบังเกิดอย่างไม่คาดฝัน "คาแร็คเตอร์พะโป้แตกต่างไหม ในชีวิตจริงพี่ก็ไม่มีนางบริวาร อิทธิพลก็คงไม่มีด้วย ก็น่าจะแตกต่างมาก (หัวเราะ) แต่ว่าโอเค อารมณ์แกว่งก็ทุกคนคงเป็นอาร์ติส พูดถึงมีบ้าง มีโกรธ มีดีใจสุดขีด มีโกรธสุดขีด ไม่เถียง อาร์ติสทุกคนเป็นอย่างนี้ ก็คิดว่ามันก็ไม่เหมือนเลยทีเดียว แต่ว่าถามว่าเล่นตัวพะโป้ได้ไหม ได้เพราะว่าได้ศึกษามาก่อนว่าคาแร็คเตอร์เขาเป็นยังไง เพราะหม่อมได้บรีฟมาแล้วว่าโอเค เอาอารมณ์ดีของคนนี้มา เอาอารมณ์เจ้าชู้ของคนนี้มา แล้วเอามารวมกันเป็นพะโป้และลองเล่นดู ก็โอเคครับ ความน่าสนใจของภาพยนตร์เรื่อง 'ชั่วฟ้าดินสลาย' ผมคิดว่าน่าจับตาดูมากครับ เพราะยุคนี้ก็มีแต่ถ้าไม่ใช่หนังผี ก็เป็นหนังคอเมดี้ เป็นหนังตลกหรือไม่ก็หนังวัยรุ่น นี่เป็นหนังราม่าค่อนข้างที่จะหนักเป็น Tragedy อย่างหนึ่ง ที่อยู่ในหนังเรื่องนี้ที่ยังไม่อยากเปิดเผยตอนนี้ แต่ว่ามันเป็นอะไรที่แปลกใหม่ รวมถึงทีมนักแสดงแต่ละคนก็เล่นกันอย่างเต็มที่ นักแสดงมีไม่กี่คน แต่ว่าแต่ละคนก็ได้บทดราม่าหนักๆ กันทั้งนั้น เนื้อหาก็สะท้อนความเป็นมนุษย์ที่มีทั้งรัก โลภ โกรธ หลง สะท้อนสังคมไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคกี่สมัยมนุษย์ก็ยังเป็นมนุษย์ที่ยังมีกิเลสตัณหากันอยู่ และนี่ก็เป็นการกลับมาอีกครั้งหนึ่งในการกำกับหนังของหม่อมน้อย เป็นแนวทางของหม่อมน้อยเองเลยซึ่งมันก็ไม่ได้ถูกสร้างมานานแล้วเหมือนกันครับ" เป็นอีกหนึ่งนักแสดงเจ้าบทบาทที่ดูมีพลังอำนาจแฝงอยู่ในตัวอย่างเงียบๆ นั่นทำให้ "ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์" ถูกเลือกให้มารับบทบาทที่อาจกล่าวได้ว่าโดดเด่นที่สุดในชีวิตการแสดงของเขานี้ และเขาเองก็ปล่อยพลังการแสดงสุดเชือดเฉือนบาดลึกทางอารมณ์ได้อย่างลงตัวทีเดียว ผลงานภาพยนตร์ (บางส่วน): ล่าข้ามโลก (2526), สงครามเพลง (2526), แตก 4 รัก โลภ โกรธ เลว (2542), After School วิ่งสู่ฝัน (2553), Who Are You? ใคร...ในห้อง (2553), ชั่วฟ้าดินสลาย (2553)

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ

อัลบั้มภาพ 5 ภาพ ของ 3นักแสดงกับ3บทบาทลึกซึ้งที่สุดในชีวิตใน "ชั่วฟ้าดินสลาย"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook