องค์บาก ขึ้นบ๊อกซ์ออฟฟิศ กวาดเงิน 50 ล้านบาท

เสี่ยเจียง-สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ ปลื้มหนัง องก์บาก ขึ้นบ๊อกซ์ออฟฟิศ ทำรายได้ฉายในอเมริกา 3 วันแรก กวาดรายได้กว่า 50 ล้านบาท ฉายแค่เพียง 3 วันแรก คือตั้งแต่วันที่ 11-13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แค่ 387 โรง หนังไทย องค์บาก ของสหมงคลฟิล์ม ที่มี จา-พนม ยีรัมย์ หรือ โทนี่ จา สร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าให้กับหนังไทย ด้วยการไต่ลำดับขึ้นไปอยู่ที่ลำดับที่ 17 ของหนังทำเงินในสหรัฐอเมริกา กวาดรายได้ไปทั้งสิ้น 1,334,869 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 50,700,000 บาท สำหรับผมหนังไทยมาได้ขนาดนี้ ก็ถือว่าดีใจจะแย่แล้ว เพราะผมคลุกคลี และทำหนังมา 60 กว่าปี ชีวิตอยู่กับหนังมาตลอด ไม่เคยไปทำอย่างอื่น ผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย ไม่เคยคิดว่าหนังไทยจะได้ไปติด 1 ใน 20 ของฝรั่ง ผมกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ยังไม่มีหนังไทยเรื่องไหนทำได้เท่านี้ ใครจะไปเชื่อว่า เราจะทำได้ ผมคิดว่ารัฐบาลควรจะมอบโล่ให้กับจาด้วยซ้ำ เพราะมันยิ่งกว่าเหรียญทองเสียอีก นอกจากนี้ เสี่ยงเจียงยังกล่าวด้วยว่า ในความรู้สึกของผมในตอนนี้นั้น ภูมิใจอย่างมาก ถึงตายก็ถือว่าคุ้มแล้วกับชีวิตนี้ ที่หนังสามารถไปฉายต่างประเทศได้อย่างสมศักดิ์ศรี มันเป็นสิ่งที่คนไทยอยากจะเห็น พูดแล้วน้ำตาจะไหล เป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นให้คนทำหนังไทย อยกอินเตอร์ไปด้วย แต่ทั้งนี้ก็ต้องกล้าลงทุนด้วย ถามว่าอะไรเป็นปัจจัยที่ทำให้หนังไทยเรื่อง องค์บาก มีชื่อเสียงขจรขจายไปได้ถึงขนาดนี้ เสี่ยเจียง กล่าวว่า อาจจะเพราะสิ่งแรกที่ต้องการนำเสนอเลย คือความเป็นไทย ผมตั้งใจอยากโชว์ความเป็นไทย ให้กับเมืองนอกได้ดู เอกลักษณ์การต่อสู้ของคนไทย ก็คือมวยไทย ก็เหมือนกับเฉินหลง ก็มีเอกลักษณ์คือกังฟู เวลาปราบผู้ร้ายก็ใช้กังฟูปราบ แต่นี่เราปราบผู้ร้ายด้วยมวยไทย บวกกับความสนุกก็พาไปด้วย ตรงนี้เลยทำให้ฝรั่งอยากจะดู และที่สำคัญเราไม่ได้ใช้สแตนด์อิน ไม่ใช้คอมพิวเตอร์กราฟฟิก เล่นจริงทุกซีน ฝรั่งเขาเลยตกใจว่าทำไมถึงทำได้ เขาไม่เคยเห็นลีลามวยไทย ซึ่งจริงๆ แล้วมวยไทยของเราร้ายกาจกว่ากังฟูเสียอีก สำหรับกำไรจากหนังเรื่อง องค์บาก หลังจากที่ไปฉายมาแล้วทั่วโลก เสี่ยเจียง กล่าวว่า ทำกำไรไป 100 กว่าล้านแล้ว ถ้าเราขายแค่ในประเทศ ก็ได้ไม่กี่ตังค์ หากว่าเราทำหนังบางเรื่อง ขายในเมืองไทยแล้วขาดทุน เราก็จะไปขายต่างประเทศ ซึ่งก็จะไม่ขาดทุน หนำซ้ำยังได้กำไรด้วย ซึ่งเดี๋ยวนี้เวลาผมทำหนัง 70% ก็มุ่งเน้นขายต่างประเทศ และก็อยากให้คนทำหนังทุกคนคิดแบบนี้ด้วย ส่วนหนังเรื่องต่อไปของ โทนี่ จา กับเรื่อง ต้มยำกุ้ง นั้น เสี่ยเจียงหวังเอาไว้ว่า จะได้ลตอบรับที่มากกว่าองค์บาก เนื่องจากตอนช่วงที่ทำ องค์บาก นั้นยังไม่เข้าใจตลาดต่างประเทศดีพอ ที่เราได้จาก องค์บาก เหมือนกับเป็นผลบุญ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่าเราต้องทำยังไง ซึ่งครั้งนี้ เราลงทุนไปมหาศาลกว่า องค์บาก ถึง 150 ล้าน ซึ่งตอนนี้ก็มีหลายประเทศสนใจซื้อแล้ว อย่างญี่ปุ่นนี่แทบไม่ต้องดูหนังเลย เขาเชื่อมือเรามาก เขาก็ซื้อหนังเลย ซึ่งผมก็ได้ติดต่อให้ ทาทา ยัง มาร้องเพลงประกอบ เพราะเขาอินเตอร์ จาก็อินเตอร์ เราเลยเอาความเป็นอินเตอร์มาช่วยกัน เพื่อให้คนทั้งโลกได้รู้จักประเทศไทยมากกว่านี้ เพราะเราเป็นคนไทยต้องไม่เสียชาติเกิด สนับสนุนเนื้อหาข่าวโดย