10 หนังดีที่ไม่ควรพลาดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2550
10 หนังดีที่ไม่ควรพลาดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2550
1. The Rebel (Vietnam) ภาพยนตร์แอ็คชั่นลงทุนสร้างมหาศาลของประเทศเวียดนาม เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในยุคล่าอาณานิคมของฝรั่งเศส แม้ฉากต่อสู้จะละม้ายคล้ายกับต้มยำกุ้งไปบ้าง แต่ต้องถือว่าเป็นหนังที่ดูสนุกมากๆ
2. Love For Share (Indonesia) เรื่องราวของผู้หญิงในโลกมุสลิม 3 รุ่น เป็นเรื่องราวของการเรียกร้องสิทธิที่เท่าเทียมกันของผู้หญิงและผู้ชาย
3. Belle de jour (France/Italy) หนังในหมวดของ Luis Buñuel Retrospective (Luis Buñuel เป็นผู้กำกับภาพยนตร์แนวเซอร์เรียลลิสต์ชาวสเปน แม้ว่าผลงานส่วนใหญ่ที่โดดเด่นของเขาจะถ่ายทำในเม็กซิโกและฝรั่งเศส แต่ก็ยังมีที่ถ่ายทำในสเปนและอเมริกาด้วย Buñuel ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้กำกับที่มีบทบาทสำคัญมากในประวัติศาสตร์ภาพยนตร์)
4. Belle Toujours (Portugal) หนัง Remake ผลงานของ Luis Buñuel โดยผู้กำกับดังอย่างโอลิเวียร่า (หนังภาคต่อของ Belle de jour)
5. Renaissance (UK) Animation อีกเรื่องที่ถือว่าดู นอกจากเนื้อหาแนว Sci-fi ที่เซ็ทฉากในปารีส ปี 2054 ยังได้เสียงของดาราชื่อดังมาให้เสียงพากย์ อาทิ Jonathan Pryce จาก Pirates of the Caribbean และ Daniel Craig เจมส์บอนด์ คนล่าสุด Craig รับบทเป็น ผู้กอง Karas ตำรวจจอมอึดที่มาร่วมกับน้องสาวของ นักวิจัยที่ถูกลักพาตัวไป ซึ่งรับบทโดย Romala Garai
6. ไชยา (Thai) หนังไทยที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับมวยคาดเชือกเป็นมวยคาดเชือกสายหนึ่งของไทย เป็นศิลปะการต่อสู้ซึ่งมีประวัติสืบทอดมาโดย ไฟว์สตาร์ และได้เป็นภาพยนตร์สำหรับฉายปิดในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติกรุงเทพฯ ปี 2550 นี้ด้วย
7. Shortbus (USA) ภาพยนตร์ที่เรียกได้ว่าเป็นที่ฮือฮาของหนังแนวอินดี้ เนื้อหาของเรื่องนำเสนอเกี่ยวกับเรื่อง SEX (สำหรับเทศกาลฯ ไม่อนุญาตให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า18ปีเข้าชม)
8. The Competition (USA) สารคดีที่จะทำให้คุณได้รับรู้ถึงเส้นทางสู่ความเป็นหนึ่งระดับโลก
9. Sholay (India) หนังคลาสสิค ตลอดกาลของวงการ Bollywood ผลงานแสดงของ Hema Malini
10. Edge of the Heaven (Germany/Turkey) หนังดราม่าโดย Fatih Akin ผู้กำกับรุ่นใหม่ที่น่าจับตามองอีกทั้งภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับรางวัล Best Screenplay จากเทศกาลหนังเมืองคานส์ที่ผ่านมา
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ
.jpg?ip/crop/w350h197/q80/jpg)
