หลอนสมองปนปรัชญา ใน Love, Death+Robots โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

หลอนสมองปนปรัชญา ใน Love, Death+Robots โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

หลอนสมองปนปรัชญา ใน Love, Death+Robots โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ในหมวดของซีรีส์น้ำดีนั้น นอกจากเป็นซีรีส์ขนาดยาว ที่มีเรื่องราวสลับซับซ้อนและเข้มข้นแล้ว ซีรีส์ในอีกรูปแบบหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน ก็คือการเล่าแบบเป็นคอนเซปต์ นำเรื่องสั้นหลายๆเรื่องมาเรียงร้อยต่อกันแต่เล่าผ่านคอนเซปต์เดียวกัน และสัปดาห์นี้ เทยอยากจะแวะเวียนพาไปเยี่ยมชมซีรีส์แนวคอนเซปต์อีกเรื่องใน Netflix ที่เป็นที่พูดถึงอย่างมากในช่วงนี้ 

Love,Death+Robots กลไก หัวใจ ดับสูญ

Original Series เรื่องนี้จาก Netflix นำเสนอเป็นรูปแบบแอนิเมชั่น และภาพยนตร์สั้นในบางตอน ตอนละไม่เกิน 15 นาที ซึ่งดำเนินเรื่องราวตามคอนเซปต์ของชื่อเรื่องที่เกี่ยวข้องกัน ความรัก ความตาย และหุ่นยนต์ ทำให้ตัวซีรีส์โดยรวมคือการเล่าเรื่องความเป็นมนุษย์ผ่านกลิ่นสยองขวัญน่ากลัวแบบไซไฟ และสิ่งที่มันส่งผลร้ายต่อมนุษย์ รวมถึงการเล่าเรื่องเขย่าขวัญแบบสัตว์ประหลาด หรือความน่ากลัวในรูปแบบอื่นๆปะปน

โดยซีรีส์ได้เดินทางมาถึงซีซั่นที่ 3 แล้ว โดยซีซั่นนี้จะมีเรื่องสั้นทั้งสิ้น 9 เรื่อง เล่าผ่านคอนเซปต์เดิมเช่นเคย พร้อมด้วยผู้กำกับมือรางวัลหลายคนที่มาร่วมนำเสนอเรื่องราวของกลไก หัวใจ และดับสูญ

 

โดยเรื่องแรก คือ Three Robots : Exit Strategies

สามหุ่นเยนต์เพื่อนซี้ที่เคยปรากฏตัวในซีซั่นแรกไปแล้ว ด้วยความนิยมและน่ารัก พวกเขากลับมาอีกครั้ง และครั้งนี้ การเดินทางทัศนศึกษาโลกที่มนุษย์สูญพันธ์ไปหมดแล้ว ทิ้งไว้เพียงร่องรอยอารยธรรมให้สามหุ่นได้ศึกษาดูว่าพวกมนุษย์มีหลักคิดยังไง และเพราะอะไรถึงพาตัวเองมาสูญพันธ์ได้ ผ่านมุมมองของหุ่นยนต์ ซึ่งตอนต่อนี้ กลับมาขยี้ประเด็นของการพยายามดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อเอาชีวิตรอด เป็นตอนที่ขำขัน และจิกกัดความเป็นมนุษย์ได้ดี บ่งบอกถึงคอนเซปต์หลักของซีรีส์ได้ครบถ้วนตอนหนึ่งเลยล่ะ

 

ตามมาด้วยตอน Bad Travelling

การเดินเรือของชาวเรือในน่านน้ำที่เต็มไปด้วยตำนานและสัตว์ร้าย เมื่อเรือลำหนึ่งถูกโจมตีโดยปีศาจทะเลยักษ์ ที่ขึ้นเรือมาและเขมือบคนบนเรือไปและลงไปยึดใต้ท้องเรือไว้ เหล่ากะลาสีผู้รอดชีวิต ต้องหาวิธีเอาตัวรอดกับสัตว์ยักษ์ที่ฆ่าไม่ตาย ด้วยระบบความคิดแบบมนุษย์ ที่ยังคงเต็มไปด้วยความชั่วร้าย ฉ้อฉล กับการหาทางเลือกบนเรือเพื่อเอาตัวรอด วิธีการแต่ละวิธี ก็สะท้อนสิ่งที่มนุษย์นำพาตัวเองไปจนถึงจุดจบอย่างน่าสะพรึงกลัว

ซึ่งความน่าสนใจของตอนนี้คือการได้ผู้กำกับชื่อดังอย่าง David Finsher และมือเขียนบทคู่ใจจากภาพยนตร์เรื่อง Se7en มาร่วมด้วย ทำให้งานแอนิเมชั่นที่น่ากลัวเรื่องนี้ ได้กลิ่นอายความสยองขวัญในแบบ Finsher ไปเต็มๆเลย

เรื่องที่ 3 ตอน The Very Pulse of the Machine 

เมื่อสองนักสำรวจอวกาศหญิง ออกสำรวจดวงจันทร์ไอโอของดาวพฤหัส แต่ภารกิจเกิดผิดพลาด เกิดกำมะถันจากดาวพุ่งปะทุ ทำให้รถสำรวจเกิดอุบัติเหตุ นักบินอวกาศผู้ช่วยเสียชีวิตไป ขณะที่นักบินหญิงที่เหลืออีกคน ต้องออกเดินเท้าไปยังฐานที่อยู่ไกลออกไปเพื่อเอาชีวิตรอดก่อนที่ออกซิเจนจะหมด ทว่าด้วยอาการบาดเจ็บ ทำให้เธอต้องใช้ยากระตุ้นที่มีผลต่อระบบประสาท การเดินทางด้วยการอัปยาของเธอ ทำให้เกิดภาพหลอนที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศน์ของดวงดาว ภาพหลอนที่ชวนให้ตั้งคำถามว่า สิ่งนี้เป็นความจริงหรือไม่

ซึ่งถือเป็นตอนที่มีความเป็นซีรีส์เรื่องนี้อีกหนึ่งตอน กับการนำเสนอไซไฟในรูปแบบของสยองขวัญในอวกาศ ทว่านำเสนอออกมาในรูปแบบของการ์ตูนลายเส้นสองมิติ 

 

เรื่องที่ 4 กับ Kill Team Kill

แอนิเมชั่นสองมิติเช่นกัน กับการเล่าเรื่องสุดบ้าระห่ำ ของกองกำลังทหารสหรัฐที่ต้องเข้าไปทำภารกิจและเผชิญกับอาวุธลับของ CIA ที่ผลิตเครื่องจักรสังหารในร่างของสัตว์ร้ายอันตราย ภารกิจแมนๆ สู้กันแบบแมนๆ บ้าระห่ำ เอามัน แบบไม่ต้องคิดอะไร พ่นคำหยาบคายกันสนุกสนานในบทพากย์ไทยของตอนนี้ ทำให้นึกถึงหนังแอคชั่นเอามันที่พบเจอได้ทั่วไป และเต็มไปกลิ่นของผู้ชายคละคลุ้งเรื่องไปหมด แต่ทว่าเรื่องนี้ กำกับโดย Jennifer Yuh Nelson ซึ่งเป็นผู้หญิงนะเธอ

เรื่องที่ 5 Night of the Mini Dead

เป็นตอนที่สั้นที่สุดของซีรีส์ แต่กลับน่าสนใจอย่างประหลาด กับเหตุการณ์ซอมบี้ล้างโลก โดยจุดเริ่มต้นจากการที่มีคนไปมีเซ็กซ์ในสุสานและปลุกวิญญาณขึ้นมา แต่ด้วยมุมกล้องแบบมองจากด้านบน ส่องให้เห็นเหมือนกำลังดูเหตุการณ์จากมุมสูงมากๆ เหล่าผู้คนไม่ต่างอะไรจากมดตัวเล็กๆที่ไล่ล่ากัน หายนะและความโกลาหลทั้งหมด กลายเป็นเรื่องเล็กจ้อย ดนตรีประกอบที่อลังการ พร้อมเสียงกรีดร้องจี๊ดๆเหมือนกับหนูตัวเล็กๆ ทำให้เหตุการณ์ทั้งหมด ดูเป็นเรื่องที่เล็กเหลือเกินในจักรวาลที่กว้างใหญ่

 

เรื่องที่ 6 In Vaulted Halls Entombed

เป็นแอนิเมชั่นแบบ Motion Capture เสมือนจริง เหมือนใช้นักแสดงจริงๆมาเล่น พูดถึงกลุ่มทหารอเมริกันที่ได้รับภารกิจบุกไปช่วยตัวประกันในอัฟกานิสถาน แต่ทันทีที่ได้เข้าไปในอุโมงค์ กลับต้องพบว่ามันคือรังของอสูรยักษ์ที่ถูกกักกันเอาไว้ กลุ่มทหารต้องเอาตัวรอดจากความลึกลับที่กำลังจะลุกขึ้นมาถล่มโลก ความเถรตรงในการปฏิบัติภารกิจของกัปตันทีม อาจจะกำลังพาทีมไปสู่หายนะที่มากกว่ากลุ่มก่อการร้าย เป็นอีกหนึ่งตอนที่ต้องใช้การตีความว่าจริงๆแล้ว อสูรตัวนั้นคืออะไรกันแน่ แต่ความน่ากลัว ลึกลับของตอนนี้ น่าสนใจไม่แพ้กัน

 

เรื่องที่ 7 Swarm

เมื่อมนุษย์สามารถเดินทางไปในอวกาศได้ และนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่งก็ต้องออกท่องไปและเจอกับสิ่งมีชีวิตรูปแบบอื่นๆ เขาศึกษาและตามหาทางรอดของมนุษยชาติเพื่อหาคำตอบ จนเขาได้ไปพบกับเพื่อนนักวิทยาศาสตร์อีกคนใน Swarm รังของสิ่งมีชีวิตคล้ายแมลง ที่มีระบบชีวิตในรังของมัน เขาและเธอศึกษาการทำงานของรัง ที่แบ่งหน้าที่ดูแลราชินีอย่างชัดเจน และมีระบบนิเวศน์ที่ครอบคลุม ก่อนจะที่เขาจะต้องเสี่ยงชีวิต เพื่อเอาความรู้นี้ออกจากรัง มนุษย์ชายหญิงสองคน จึงต้องศึกษาและสะท้อนความเป็นชีวิต อยู่ในรังของเอเลี่ยนนี้เอง

 

เรื่องที่ 8 Mason’s Rats

ที่ฟาร์มของลุง Mason อยู่ดีดีวันหนึ่งในโรงนา ขณะที่เขากำลังจะเข้าไปเช็คผลผลิตทางการเกษตรของตัวเอง หนูในโรงนากลับมีวิวัฒนาการจนจับธนูยิงใส่ลุง Mason ขึ้นมาซะงั้น อย่ากระนั้นเลย สงครามของเราเริ่มต้นแล้ว ลุง Mason จึงเริ่มติดต่อบริษัทกำจัดหนู ที่คิดค้นเทคโนโลยีสำหรับการฆ่าหนุให้หมดไปจากโรงนา แต่ยิ่งลุงเปิดสงครามกับหนูมากขึ้นเท่าไหร่ ก็เหมือนจะทำให้หนูเหล่านั้น ต้องดิ้นรนมากขึ้น เพื่อเอาชนะเทคโนโลยีที่ลุงสรรหามา ก่อนที่ลุงจะพบว่า การทำสงครามกับหนูในโรงนา ต้องแลกมาซึ่งการสูญเสียหลายอย่างที่สะท้อนความรู้สึกของมนุษย์

 

เรื่องที่ 9 ซึ่งถือเป็น Masterpiece สูงสุดของซีซั่นนี้ Jibaro 

อ่านตามภาษาสเปน ออกเสียงว่า ฆีบาโร เป็นหนังสั้นตีความลำดับสุดท้ายของซีซั่น และมีความยาวมากที่สุดคือ 15 นาที เป็นเรื่องราวของนักรบหูหนวก ซึ่งนำกองทัพเข้าไปในป่า เขาเก็บเหรียญทองขึ้นมาจากทะเลสาป และปลุกผีพรายน้ำที่มีเครื่องประดับประดาเต็มตัว ผีพรายส่งเสียงกรีดร้องฆ่าทั้งกองทัพทิ้งไป เหลือเพียงนักรบหูหนวก ที่ต้องต่อสู้กับนางให้ได้ และเกิดเป็นความสัมพันธ์ประหลาดของทั้งคู่ในป่าลึกลับนี้เอง

ความพิเศษของ Jibaro คือการออกแบบให้ทั้งตอนเป็นหนังที่ไม่มีบทพูด และใช้การเล่าภาพที่แปลกใหม่ ดนตรีประกอบที่แปลกหู แต่สอดประสานกันอย่างลงตัว รวมถึงท่วงท่าการแสดงของตัวละครที่ทั้งน่ากลัวและน่าหลงใหลไปพร้อมกัน โลเกชั่น เครื่องแต่งกาย สอดรับการถ่ายทอดเนื้อหาที่ต้องใช้การตีความเชิงสัญลักษณ์สูงเอามากๆ เหมือนเป็นการเสพย์งานศิลปะสยองขวัญชิ้นหนึ่ง ซึ่งเหมือนเป็นหัวใจสำคัญของคอนเซปต์ Love Death ได้เป็นอย่างดี

ซีรีส์ Love,Death+Robots กลไก หัวใจ ดับสูญ เป็นซีรีส์ที่ได้รับคำวิจารณ์ดีเยี่ยมมาอย่างยาวนานตลอดทั้ง 2 ซีซั่น และซีซั่นล่าสุดก็ยังคงมาตรฐานไว้ได้อย่างงดงาม หากจะหาเรื่องสั้นปรัชญา ดูแล้วกระตุกจิต เป็นการ์ตูนสำหรับผู้ใหญ่ หม่นๆ ดาร์คๆ เรื่องนี้ต้องห้ามพลาดเลยนะ

เหยี่ยวเทย รายงาน

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ

อัลบั้มภาพ 11 ภาพ ของ หลอนสมองปนปรัชญา ใน Love, Death+Robots โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook