The Power of the Dog : คาวบอยในความอ่อนไหว โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

The Power of the Dog : คาวบอยในความอ่อนไหว โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

The Power of the Dog : คาวบอยในความอ่อนไหว โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ราวกับปืนที่ถูกถอดสลัก หรือราวกับวัวพ่อพันธุ์ฮอร์โมนพลุ่งพล่านที่กลับถูกแอบตอนโดยเจ้าของไม่รู้ตัว The Power of the Dog เป็นหนังคาวบอยที่แกะรหัสหนังคาวบอยหยาบกร้านตามขนบและจับมันกลับหัวกลับหาง ถอดรื้อค่านิยม ความคาดหวังและภาษาหนังตระกูลเวสเทิร์นดั้งเดิม จนกลายเป็นหนังคาวบอยที่เยือกเย็น ข้ามสายไปเป็นหนังดราม่าครอบครัวและเกือบจะเป็นหนังระทึกขวัญไปพร้อมๆ กัน งานใหม่ล่าสุดของผู้กำกับ เจน แคมเปี้ยน (ที่ทุกคนรู้จักกันดีจาก The Piano) สามารถดูได้ใน Netflix และเชื่อว่าหนังจะมีบาทบาทไม่น้อยในฤดูกาลแจกรางวัลที่กำลังเริ่มต้นขึ้นแล้วในอเมริกา

The Power of the Dog นำแสดงโดย เบเนดิกต์ คัมเบอร์แบตช์ ในบทฟิล เบอร์แบงค์ เจ้าของไร่หนุ่มกลางเทือกเขาในรัฐมอนทาน่าในปี 1925 ฟิลเป็นคาวบอย หรือไม่ก็ “พยายามเล่นบทคาวบอย” ผู้เย่อหยิ่ง ดิบ หยาบ เป็นหัวโจกของบรรดาคาวบอยหนุ่มที่ทำงานให้เขา ออกท่าออกทางเป็นผู้ชายแมนๆ และทำทุกอย่างให้คุณลักษณะเช่นนี้ของเขาถูกขับเน้นออกมา (เช่นการโชว์ตอนวัวด้วยมือเปล่า) นี่เป็นบุคลิกที่ตรงข้ามกับพี่ชายของเขา จอร์ช (แสดงโดย เจสซี่ พลีมอนท์) ผู้อ่อนโยน ใจดี และไม่ใคร่พิศมัยฝุ่นโคลนและการทำงานกับวัวควาย แต่ใส่สูทไปทุกที่แม้แต่เวลาขี่ม้า จอร์ชดู “ไม่แมน” เท่าฟิล แถมยังโดนน้องเรียกแบบทีเล่นทีจริงตลอดเวลาว่า “ไอ้อ้วน” (fatso) แสดงให้เห็นว่าใครเป็นนายและใครเป็นลูกไล่ในบ้านนี้

ความแตกต่างระหว่างบุคลิกของสองพี่น้อง จอร์ช กับ ฟิล เป็นหนึ่งในขั้วความแตกต่างหลายแบบที่หนังพยายามแสดงให้เห็น ทั้งที่ชัดเจนและที่แนบเนียน ความสัมพันธ์ของสองพี่น้องเริ่มสั่นคลอนเมื่อจอร์ชตัดสินใจแต่งงานกับ โรส (เคิสเตน ดันส์) แม่ม่ายลูกติดจากเมืองใกล้เคียง และเมื่อจอร์ชพาเมียกับลูกติด เป็นหนุ่มวัยรุ่นท่าทางอรชรอ้อนแอ้นชื่อ ปีเตอร์ (โคดี้ สมิธ แมคฟี) เข้ามาอยู่ในบ้านไร่ด้วย ฟิลออกอาการเป็นปฏิปักษ์กับโรสและปีเตอร์ทันที ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะโรสทำให้สมดุลย์ของอารมณ์ในบ้านเปลี่ยนไป และ “แย่ง” จอร์ชไปจากเขา อีกส่วนหนึ่งน่าสนใจ และเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่องมากกว่า นั่นคือการที่ เด็กหนุ่มปีเตอร์ ผู้ไม่ประสีประสาในวิถีคาวบอย กับบุคลิกอ่อนไหวราวกับเด็กผู้หญิง เป็นขั้วตรงข้ามกับความ “แมน” หรือบรรยากาศของความเป็นชายที่ฟิลบูชาเหลือเกิน

คิดว่าเล่าแค่นี้น่าจะพอ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากโรสและปีเตอร์ เข้ามาอยู่ในบ้านกับฟิลและจอร์ช เป็นการกระพริบไหวในห้วงอารมณ์และแรงปราถนาอันละเอียดอ่อน ทั้งที่แสดงออกได้และที่ซุกซ่อนไว้ ตัวละครทุกตัวมีเบื้องหลัง มีสิ่งที่พวกเขาต้องการและสิ่งที่พวกเขาโหยหา และมี “ปีศาจ” ของตัวเองที่คอยหลอกหลอน

หลายคนดูหนังอาจจะบอกว่าเบื่อ หรือช้า หรือไม่เห็นความขัดแย้งที่ชัดเจน หรืออาจจะบอกว่า หนังคาวบอยอะไรไม่มียิงกัน ไม่มีขี่ม้าไล่กัน ส่วนหนึ่งก็อาจจะจริง แต่ผู้เขียนขอให้ลองอดทนและค่อยๆ ละเลียดดูการแสดงอันแสนละเอียดของดาราทุกคน ทั้งคัมเบอร์แบตช์ในบทฟิล ตัวละครที่แสนซับซ้อน ดันส์ในบทโรส หญิงม่ายผู้หันเข้าหาเหล้าเพื่อปลอบประโลมตัวเอง พลีมอนท์ในบทจอร์ช คนดีที่เป็นเหมือนตัวประหลาดในดินแดนแห่งนี้ และท้ายที่สุด ขอให้จับตาดูเด็กหนุ่มนักแสดงจากออสเตรเลีย โคดี้ สมิธ แมคฟี ในบทปีเตอร์ (บางคนอาจะนึกถึงทิโมธี ชาลาเมต์ บางคนอาจจะนึกถึงแอนโธนี่ เพอร์กินส์ใน Psycho) ตัวละครปีเตอร์เป็นเซอร์ไพรซ์ใหญ่ของหนัง และดาราหนุ่มคนนี้สามารถมองเห็นตัวตนและเข้าใจความต้องการของตัวละครที่น่าฉงนคนนี้อย่างทะลุปรุโปร่ง ผู้เขียนเชื่อว่า โคดี้ สมิธ น่าจะมีชื่อเข้าชิงดาราสมทบของทุกสำนัก รวมถึงออสการ์ในต้นปีหน้าอย่างแน่นอน

โลกของคาวบอย หรือต้องบอกว่า โลกของหนังคาวบอย อันเป็นบทสำคัญของของประวัติศาสตร์ภาพยนตร์ฮอลลีวูด และเป็นภาพจำของประวัติศาสตร์ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นตระกูลภาพยนตร์ที่มีไวยากรณ์ ตัวละคร และค่านิยมที่ชัดเจนมาตลอด (เช่นภาพความแมนๆ แบบลูกผู้ชาย การรัษาเกียรติยศ บทบาทที่ชัดเจนของผู้ชายและผู้หญิง ฯลฯ) แต่ความชัดเจนนี้กลับท้าทายและเชิญชวนคนทำหนังรุ่นหลังๆ ให้เข้ามารื้อสร้างและหาความหมายอื่นที่ซุกซ่อนอยู่ เช่น Brokeback Mountain ของอั้งลี่ The Rider ของผู้กำกับโคลเอ จาว

The Power of the Dog เป็นอีกครั้งที่ผู้กำกับหญิงทำหนังคาวบอยโดยถอดสลักของวิหารความเป็นเพศชายออกจากหนังตระกูลนี้อย่างแนบเนียนและเผยให้เห็นความอ่อนไหวอันบางเบาภายใต้ฉากหน้าของความดุดัน เจน แคมเปี้ยน เป็นคนทำหนังจากนิวซีแลนด์ (หนังเรื่องนี้ถ่ายในนิวซีแลนด์ ถึงแม้เรื่องราวจะเกิดในมอนทาน่า) ที่ได้รับการยกย่องมากที่สุด เธอเขียนบทหนังเรื่องนี้อิงจากนิยายชื่อเดียวกันจากปี 1967 (ออกมาก่อนหน้าเรื่องสั้น Brokeback Mountain) โดย โธมัส ซาเวจ โลกใน The Power of the Dog ของแคมเปี้ยน เป็นทั้งโลกแห่งความเวิ้งว้างของภูมิทัศน์อันเป็นสัญลักษณ์ของอิสระเสรี สลับกับเงาสลัวของคฤหาสถ์กลางไร่ที่จองจำผู้อาศัยทั้งเก่าและใหม่ หรือนี่จะเป็นโลกที่ซับซ้อน ใกล้เคียงกับความจริงมากกว่าหนังคาวบอยขี่ม้าไล่ยิงกัน อันเป็นภาพจำของหนังประเภทนี้มาแต่ไหนแต่ไร

ถ้าจะบอกว่าเสียดาย ก็เสียดายเพียงนิดเดียว ผู้เขียนเชื่อว่า The Power of the Dog จะทรงพลังและตรึงเราได้มากกว่านี้หากได้ดูบนจอใหญ่ของโรงภาพยนตร์

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook