The Beatles: Get Back พลังแห่งฟุตเตจ โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

The Beatles: Get Back พลังแห่งฟุตเตจ โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

The Beatles: Get Back พลังแห่งฟุตเตจ โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

สารคดี 3 ตอน ความยาวรวมกัน 8 ชั่วโมง The Beatles: Get Back (ดูได้ใน Disney+) เป็นขุมทรัพย์ทางโสตประสาทของแฟนๆ The Beatles อย่างแท้จริง กว่าครึ่งศตวรรษที่ภาพและเสียงจากฟุตเทจเก่าที่บันทึกไว้ตั้งแต่เดือนมกราคมปี 1969 นอนรอผู้กำกับใจกล้าที่จะมาตัดต่อใหม่ และสุดท้ายเป็น ปีเตอร์ แจ๊คสัน (แห่ง Lord of the Rings และ King Kong) ที่ลงมือขุดคุ้ยและประกอบสร้างหนังเรื่องนี้ขึ้นจากฟุตเทจภาพ 60 ชั่วโมง และเทปเสียงกว่า 150 ชั่วโมง ให้กลายเป็นสารคดีที่ทำให้เราเห็นภาพขนาดใกล้ของสมาชิก 4 คนของ The Beatles ในช่วงเวลาท้ายๆ ก่อนวงสี่เต่าทองจะแยกทาง

ช้าก่อน อย่าเพิ่งคิดว่า The Beatles: Get Back เป็นเพียงสารดีดาดๆ อีกเรื่องที่เล่าตำนานของวง หรือย้อนประวัติความโด่งดังและการแตกสลาย หรือคิดว่าเป็นงานอวยยศสมาชิกทั้ง 4 (พอล แมคคาร์ทนี่ จอห์น เลนนอน จอร์จ แฮริสัน และ ริงโก สตาร์) ถึงตรงนี้ต้องค่อยๆ เล่าถึงประวัติศาสตร์กว่าครึ่งศตวรรษกว่าที่หนังเรื่องนี้จะกำเนิดขึ้น ย้อนไปเดือนมกราคมปี 1969 สมาชิกวง The Beatles รวมตัวกันเพื่อแต่งเพลงและซ้อมอย่างหนักหน่วงเป็นเวลาประมาณสองสัปดาห์ ก่อนจะทำการบันทึกเสียงสดอัลบั้ม Let It Be อัลบั้มสุดท้ายก่อนวงจะแตก ในตอนนั้น The Beatles ให้ผู้กำกับชื่อ ไมเคิล ลินด์เซ-ฮอกส์ ติดตามถ่ายทำการใช้เวลาแต่งเพลงและซ้อมดนตรีร่วมกันของพวกเขาอย่างละเอียดยิบ โดยมีแผนจะตัดต่อออกฉายทางทีวี แต่ต่อมาหนังที่ตัดต่อเสร็จกลับไม่ได้ออกฉายทางทีวี แต่กลายเป็นหนังฉายโรงชื่อ Let It Be แทน ประเด็นสำคัญคือ หนังเรื่อง Let It Be ออกฉายในโรงอยู่ไม่นานและหลังจากนั้นไม่เคยมีการออกเป็นวิดีโอหรือ DVD อีก เท่ากับว่าแทบไม่มีใครเคยได้ดูมันอีกเลย ส่วนหนึ่งเชื่อกันว่าเพราะสมาชิกในวงไม่อยากให้คนดูเห็นภาพความขัดแย้งที่เริ่มก่อตัวขึ้นระหว่างสมาชิกและเป็นสิ่งที่หนังบันทึกเอาไว้ได้

กระทั่ง 50 ปีผ่านไป พอล แมคคาร์ทนี่ สมาชิก The Beatles ที่ยังมีชีวิตอยู่ เริ่มเสียงอ่อน และในที่สุดโปรเจคท์ The Beatles: Get Back จึงเกิดขึ้น โดยปีเตอร์ แจ๊คสัน ได้รับไฟเขียวให้ตัดต่อฟุตเตจเดิมที่ถ่ายเมื่อปี 1969 ให้เป็นหนังสารคดีเรื่องใหม่นี้ โดยไม่ใช้ภาพหรือมุมกล้องที่ซ้ำกับในหนัง Let It Be เลย

เราเห็นอะไรใน The Beatles: Get Back กันบ้าง สำหรับคนที่ไม่ใช่แฟน The Beatles ตอนแรกของหนังสามตอนนี้อาจจะดูไม่เป็นชิ้นเป็นอัน บางคนอาจจะบอก “ดูมั่ว” เพราะเป็นภาพสมาชิกวงซ้อมดนตรี หัวเราะ คุยเล่น แต่งเพลง กินขนมปัง แซวกันไปมา เล่นเพลงนั้นเพลงนี้ เรียกง่ายๆ ว่า hang out กัน โดยมีทีมงาน ช่างเสียง ผู้จัดการ รวมทั้งเห็น โยโกะ โอโนะ ตามติดวงตลอดเวลา (ตอนนั้นโอโนะเป็นแฟนจอห์น เลนนอนแล้ว และเริ่มมีข่าวลือว่าเธอนี่แหละที่เป็นหนึ่งในสาเหตุให้วงแตก) แต่ในความ “ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน” ของหนังในตอนแรกนี้ที่ผู้เขียนเห็นว่าช่างวิเศษนัก เพราะเราได้เห็นภาพ พอล, จอห์น, จอร์จ และริงโก ในห้วงขณะแห่งความผ่อนคลาย เป็นตัวของตัวเอง และที่สำคัญ ได้เห็นความเป็นนักดนตรี (musicianship) อันเก่งกาจ ลื่นไหลในจินตนาการและความเข้าใจในเสียงดนตรี การร้องคอร์ดส่งกัน การปรับแต่งเสียง และความเข้าขาทางดนตรีราวกับส่งโทรจิตกันได้ เรายังเห็นบุคลิกของสมาชิกแต่ละคน เราเห็นพอล แมคคาร์ทนี่ที่มีลักษณะเป็นผู้นำ เห็นจอห์น เลนนอนที่มักนิ่งเงียบแต่ก็พอปล่อยมุขก็โหดและดาร์ค เราเห็นจอร์จ แฮริสัน ที่บางครั้งดูเหมือนเป็น “สมุน” กลายๆ ของจอห์นและพอล เราเห็นพลวัตรแห่งการสร้างสรรค์ที่อาจจะดูไม่ปะติดปะต่อ แต่ในภาพรวมกลับทำให้เห็นแง่มุมที่ไม่เสแสร้งและจริงใจของสมาชิกทั้ง 4 คน

ที่น่าสนใจที่สุดคือ เสียงร่ำลือเรื่องความแตกคอกันของสมาชิกในวง อันเป็นปริศนาแห่งวงการร๊อคแอนด์โรลที่พูดต่อๆ กันมานานหลายสิบปีและเชื่อกันว่าฟุตเทจปี 1969 ได้บันทึกไว้ กลับมีเพียงเหตุการณ์เดียวเท่านั้น เมื่อแฮริสัน เกิดงอนและหนีออกจากวงไปจนสมาชิกที่เหลือต้องไปตามกลับมา นอกเหนือจากเหตุการณ์นั้น อาจจะมีความระหองระแหงหรือการขึ้นเสียงกันบ้าง แต่ไม่มีอะไรเกิดขอบเขต สิ่งที่เราเห็นเป็นส่วนมากคือความสนุกสนานและการทำงานที่เป็นธรรมชาติและอบอวลด้วยความคิดสร้างสรรค์

ฉากสำคัญของหนังสามตอนนี้อยู่ในตอนสุดท้าย ที่เราเห็นคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์บนดาดฟ้าตึกกลางกรุงลอนดอน เป็นคอนเสิร์ตครั้งสุดท้ายที่สมาชิกทั้ง 4 คนของ The Beatles แสดงด้วยกัน หนังปล่อยฉากนี้ยาวๆ เต็ม ๆ 42 นาที ให้ดูจนเต็มอิ่ม การได้เห็นสมาชิกวงซ้อม คุย แก้เพลง และทะเลาะกัน จนมาถึงฉากคอนเสิร์ต ทำให้ความรู้สึกต่อวงและเพลงของพวกเขา สมบูรณ์ขึ้นในหลายมิติ ทั้งๆ ที่เพลงเหล่านี้เราต่างเคยได้ยินมานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว

The Beatles: Get Back เป็นอีกครั้งที่ผู้กำกับปีเตอร์ แจ๊คสัน ทำงานโดยใช้ฟุตเทจภาพเก่าเล่าเรื่อง ก่อนหน้านี้เขาทำ They Shall Not Grow Old หนังสารคดีสงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ตัดต่อขึ้นจากฟุตเทจข่าวสงครามจำนวนมาก โดยเขาทำการย้อมสีและใส่เสียงเอฟเฟคประกอบ ซึ่งถึงแม้จะไม่ถูกต้อง 100% ตามหลักการอนุรักษ์ภาพยนตร์ แต่เป็นเทคนิคที่ทำให้คนดูชอบมากและทำให้หนังเป็นที่นิยมมากในยุโรปเมื่อปี 2017 (และเคยมาฉายที่โรงสกาลาด้วยในรอบพิเศษในปี 2019) ในสารคดี The Beatles: Get Back แจ็คสันทำให้เห็นอีกครั้งว่า ฟุตเทจเก่าสามารถถูกนำมาเล่าเรื่องใหม่ได้เสมอ และพลังของภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อหลายสิบปีก่อน กลับยิ่งทวีคูณความสดใหม่และความลึกลับ เมื่อถูกบ่มเพาะด้วยกาลเวลา

ชม The Beatles: Get Back ได้ทาง Disney +

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook