The Green Knight สานต่อตำนาน ว่าด้วยหลานอัศวินโต๊ะกลม

The Green Knight สานต่อตำนาน ว่าด้วยหลานอัศวินโต๊ะกลม

The Green Knight สานต่อตำนาน ว่าด้วยหลานอัศวินโต๊ะกลม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

The Green Knight เล่าเรื่องราวของใคร

ตัวหนังจะบอกเล่าเรื่องราวของเซอร์กาเวน หลานชายของกษัตริย์อาเธอร์ กับบททดสอบสำคัญของอัศวินเมื่อเขาต้องเผชิญกับคำท้าของอัศวินมรกต กาเวนเดินทางฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆโดยที่เขาต้องรับมือกับวิญญาณอาฆาต, ยักษ์ และโจร เพื่อค้นหาตัวตนและพิสูจน์คุณค่าของเขาต่อครอบครัวและอาณาจักร การเดิมพันเพื่อก้าวข้ามศึกสำคัญครั้งนี้จะเป็นอย่างไร เมื่อทุกอย่างตกอยู่ในอันตราย ไม่เว้นแม้แต่ชีวิตเขาเอง

 

การดัดแปลงบทกวีต้นฉบับ

Sir Gawain and the Green Knight ได้ถูกแต่งขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 14 อย่างไรก็ตาม แม้กาลเวลาจะผ่านเลยมานาน เรื่องราวที่อยู่งานเขียนชิ้นนี้ยังเต็มไปด้วยความร่วมสมัยอยู่เสมอ งานบทกวีต้นฉบับมีความยาวอยู่ที่ 2500 คำโดยเป็นผลงานของนักเขียนนิรนามชาวเกาะบริติช ผลงานชิ้นนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจ เต็มไปด้วยจินตนาการเมื่อฉากหลังมีโลกที่เป็นเรื่องราวเหนือจริง มีความพิลึกพิลั่นและเต็มไปด้วยเวทมนตร์ อีกทั้งยังว่าด้วยเรื่องราวการผจญภัยเพื่อพิสูจน์ความกล้าหาญของตัวเอก

ถึงงานเขียน Sir Gawain and the Green Knight อาจจะไม่ได้รับความนิยมเท่ากับเรื่องราวของเซอร์แลนสล็อตและกวินิเวียร์, พ่อมดเมอร์ลิน, หรือการตามหาจอกศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอยู่ภายใต้เรื่องราวของตำนานกษัตริย์อาเธอร์และอัศวินโต๊ะกลม แต่บทกวีชิ้นนี้กลับได้รับการตีพิมพ์อีกครั้ง สืบเนื่องมาจากผลงานการแปลของเจ.อาร์.อาร์ โทลคีนเมื่อปี 1925 ทำให้มันได้รับอานิสงส์เสียงตอบรับจากแฟนๆวรรณกรรม the Lord of the Rings ไปโดยปริยาย

เหล่านักผู้เชี่ยวชาญเรื่องวรรณกรรมเคยกล่าวเอาไว้ว่า งานเขียนชิ้นนี้ได้สะท้อนทุกซอกทุกมุมของยุคกลาง มันมีสิ่งที่จับต้องได้อย่างทั้งชุดเกราะและม้าอัศวิน แต่มีความเหนือจริงดุจความฝันด้วย ภายใต้การผจญภัยเกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่อง มีการตีความถึงแนวคิดเรื่องความไม่ลงรอยกันระหว่างศาสนาคริสต์และการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวิธีเดิม เมื่อโลกศิวิไลซ์ซึ่งปกครองโดยกษัตริย์อาเธอร์ ต้องมารับมือกับภัยคุกคามจากโลกดึกดำบรรพ์ เทียบเคียงได้กับธรรมชาติต้องปะทะเข้ากับความเจริญทางเทคโนโลยี

บทกวีถ่ายทอดความขัดแย้งระหว่างคริสตจักรและพวกนอกรีตผ่านสัญญะอย่างคมคาย ตัวอัศวินมรกตผู้น่าเกรงขามที่มาเยือนคาเมล็อต ในช่วงคริสมาสต์เพื่อชวนเล่นเกมที่เดิมพันด้วยชีวิต: อัศวินมรกตขออาสาสมัครให้ตัดหัวของตนเองด้วยขวาน โดยอาสาสมัครต้องเดินทางไปยังวิหารมรกตในอีกหนึ่งปีให้หลังเพื่อโดนอัศวินมรกตลงขวานเช่นเดียวกัน

 

อัศวินหนุ่มผู้อยู่ใต้เงาของอาเธอร์

เซอร์กาเวน หนึ่งในสมาชิกของอัศวินโต๊ะกลมตัดสินใจในการรับคำท้าทายของอัศวินมรกต และรอเวลาหนึ่งปีให้หลังเพื่อออกเดินทาง ทำให้คริสมาสต์ในปีถัดมากาเวนต้องเดินทางผ่านภูมิประเทศสุดโหดร้าย ทำให้เขาได้พบเจอเหล่าสิ่งมีชีวิตที่เคยได้ยินมาจากนิทาน บ้างเป็นภูตผี บ้างก็เป็นร่างจำแลง แต่ตลอดการเดินทางในครั้งนี้ได้ทำให้เขาได้ทำความรู้จักตัวเองด้วยเช่นกัน

เหตุผลประการสำคัญที่ทำให้ผู้กำกับอย่างเดวิด โลเวอรีตัดสินใจนำเรื่องราวเหล่านี้มีดัดแปลงให้กลายเป็นภาพยนตร์ เนื่องจากความประทับใจสมัยที่เขายังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยชั้นปีที่หนึ่งและได้อ่านบทกวีชิ้นนี้ในคลาสเรียนวิชาภาษาอังกฤษ แต่เขาก็ต้องเก็บความอยากสร้างนี้ไว้กว่า 20 ปี เพราะหลังจากที่เขาแจ้งเกิดกับผลงานหนังเรื่อง Ain’t Them Bodies Saints เมื่อปี  2013 ตามต่อด้วยการรีเมก Pete’s Dragon ให้กับดิสนีย์เมื่อปี 2016 และผลงานที่ได้คำวิจารณ์ด้านบวกอย่างล้นหลามจาก A Ghost Story ในปี 2016 ก่อนจะได้รับโอกาสในการดัดแปลงงานเขียนชิ้นนี้ในเวลาต่อมา

ระหว่างที่เขาเองกำลังดัดแปลงให้กลายเป็นบทภาพยนตร์ เขาอ่านมันทวนซ้ำเพื่อค้นหารายละเอียดและเรื่องราวระหว่างบรรทัดที่ซุกซ่อนสัญญะต่างๆเอาไว้ โดยเน้นไปที่การประจันหน้าของคริสตจักรกับพวกนอกรีต การค้นหาเหตุผลว่าทำไมงานเขียนจากศตวรรษที่ 14 ชิ้นนี้ถึงยังสามารถเข้าถึงคนในยุคปัจจุบันได้ โดยโจทย์สำคัญที่เขาตั้งไว้คือจะทำอย่างไรให้เกมล่าหัวในยุคกลางยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจ สืบเนื่องจากคนในยุคปัจจุบันไม่ค่อยจะอินกับประเด็นความกล้าหาญและเกียรติยศกันสักเท่าไหร่แล้ว

 

ทำความรู้จักเซอร์กาเวน

เซอร์กาเวนไม่ใช่อัศวินที่เก่งสมบูรณ์แบบรอบด้าน เมื่อเริ่มเรื่องเขายังเป็นเพียงอัศวินหนุ่มเลือดร้อน ใช้ชีวิตรักสนุก จนเขาหนึ่งในสมาชิกอัศวินโต๊ะกลมใต้อาณัติของกษัตริย์อาเธอร์ และขออาสาสังหารอัศวินมรกตหลังจากคัดเลือกผู้ที่จะมารับบทเซอร์กาเวนอยู่นาน โลเวอรีได้พบกับ เดฟ พาเทล (The Personal History of David Copperfield, Slumdog Millionaire) นักแสดงที่มักจะรับบทเป็นตัวละครสดใส มองโลกในแง่ดี แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์ บทร่างแรกๆ ของโลเวอรี มีตัวละครนำที่เข้าด้านมืดไปแล้วเต็มตัว แม้ว่าพาเทลจะชอบมุมมองของโวเลอรีในการดัดแปลงโลกยุคกลาง พาเทลต้องการให้ตัวละครของเขามีด้านสว่างอยู่บ้าง เมื่อให้เขาได้ใช้ฝีมือการแสดงของเขาออกมาได้เต็มที่

กาเวนคืออัศวินหนุ่มที่ใช้ชีวิตสุขสบายในฐานะหลานชายของกษัตริย์อาเธอร์ ผู้ปกครองคาเมล็อตต์  “เขาไม่เคยต้องปากกัดตีนถีบหรือพยายามเพื่อให้ได้มาอยู่ในตำแหน่งที่เขาอยู่เลยแม้แต่น้อย” พาเทลกล่าว “เขาได้เป็นหนึ่งในอัศวินโต๊ะกลมระดับตำนาน แต่เขายังไม่มีตำนานกล่าวขนานของตัวเอง สำหรับผมมันเป็นเรื่องราวของชายหนุ่มที่ออกท่องโลก เพื่อหาคำตอบว่าเขาเกิดมาทำไม”

ร่วมค้นหาคำตอบไปพร้อมๆกับเซอร์กาเวนได้ใน The Green Knight ในโรงภาพยนตร์

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook