รวมหนัง-ซีรีส์สายโหด เอาตัวรอดจากเกมมรณะ (แบบ Squid Game)

หลังจากที่ Squid Game ปล่อยสตรีมมิ่งได้ไม่กี่วัน ตอนนี้ความนิยมของซีรีส์เรื่องนี้ถือได้ว่าขึ้นอันดับหนึ่งในหลายๆประเทศ หนึ่งในนั้นคือประเทศไทยนั่นเอง ถ้าคุณชอบเรื่องราวของการเอาตัวรอดจากเกมมรณะ หนังและซีรีส์ดังต่อไปนี้อาจจะโดนใจคุณ

 

Squid Game

ซีรีส์จาก Netflix ว่าด้วย “เกมปลดหนี้” ที่บรรดาผู้เข้าแข่งขันนับหลายร้อยชีวิต ตัดสินใจเข้าร่วมเกมเพียงเพราะต้องการเงินรางวัลไปไถ่ถอนหนี้ที่ตัวเองไม่มีวันจะชำระหมด อย่างไรก็ตามสิ่งที่พวกเขายังไม่รู้ก็คือ การร่วมเกมในครั้งนี้มีเดิมพันเป็นชีวิต เมื่อใดก็ตามที่ “ตกรอบ” นั่นหมายถึงความตาย และทุกครั้งที่มีคนตายเงินรางวัลสำหรับคนที่เหลืออยู่ก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับ อย่างไรก็ตามเกมการแข่งขันในครั้งนี้สามารถยุติได้ตลอดเวลา ถ้าหากมีผู้เล่นจำนวนมากกว่าครึ่งหนึ่งเห็นชอบว่าอยากจะหยุดเล่นเกม และจะทำให้เงินรางวัลที่สะสมอยู่ถูกแจกจ่ายออกไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต แน่นอนว่าเกมเดือดๆขนาดนี้ ใครล่ะที่จะยอมเดินกลับบ้านกันมือเปล่า แต่ต้องสู้ยิบตายันตัวตายกันเลยทีเดียว

Alice in Borderland    

Netflix ซีรีส์ความยาว 8 ตอนดัดแปลงมาจากมังงะในชื่อเดียวกัน โดยในเวอร์ชั่นซีรีส์ออกฉายไปเมื่อปี 2020 ได้รับความนิยมไม่แพ้กับ Squid Game บอกเล่าเรื่องราวของ อาริสึ หนุ่มติดเกมที่ดูเหมือนจะมีปัญหากับชีวิตในเรื่องความพยายามที่จะออกไปทำงาน ทำให้เขามักจะโดนพ่อของตัวเองเปรียบเทียบกับน้องชายอยู่บ่อยๆ โชคยังดีที่เขามีเพื่อนสนิทอย่างโชตะและคารูเบะคอยเป็นที่ปรึกษาคลายทุกข์ วันหนึ่งระหว่างที่พวกเขากำลังเที่ยวเล่นอยู่ในโตเกียว จู่ๆพวกเขาพบว่าคนทั้งเมืองได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มิหนำซ้ำพวกเขายังต้องเข้าร่วมเกมประหลาดที่มีชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน โดยหลังจบเกมพวกเขาจะได้รับการต่อชีวิตหรือที่เรียกว่า “วีซ่า” เพื่ออยู่รอดต่อไป ทำให้อาริสึต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์สุดแปลกประหลาด พร้อมกับค้นหาคำตอบว่าตกลงแล้วใครอยู่เบื้องหลังเกมนี้

 

3%

Netflix ซีรีส์จากประเทศบราซิล บอกเล่าเรื่องราวของโลกอนาคตแนวดิสโทเปีย เมื่อโลกของเราทรัพยากรเริ่มร่อยเหรอ ทำให้กลุ่มผู้มีอำนาจแบ่งคนออกเป็นสองฝั่ง ฝั่งหนึ่งอุดมสมบูรณ์ ขณะที่อีกฝั่งเต็มไปด้วยความยากจนและแร้นแค้น มีคนเพียงแค่หยิบมือเท่านั้นที่จะได้เสพย์สุขแบบอภิสิทธิ์ชนหรือคิดเป็นจำนวน 3% จากคนทั้งโลก บุคคลที่อยากได้รับคัดเลือกจึงต้องเข้าร่วมการแข่งขันสุดโหดที่มีชีวิตของตัวเองเป็นเดิมพัน ง

 

Darwin's Game

มังงะในเวอร์ชั่นแอนิเมชั่น เปิดดูได้ทาง Netflix อีกเช่นกัน เล่าเรื่องราวสุดระทึก เมื่อคานาเมะ นักเรียนหนุ่มมัธยมปลายที่บังเอิญได้รับข้อความเชื้อเชิญให้ร่วมเล่นเกมปริศนา แต่กว่าที่เขาจะรู้ตัวก็พบว่า เกมนี้ต้องฆ่าคนสุดนองเลือด หลังจากที่เขาเข้าร่วมเกมได้ไม่นาน เรื่องราวแปลกประหลาดก็เกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นภาพจากแอพลิเคชั่นที่ลุกขึ้นมามีชีวิต บุคคลปริศนาที่สวมชุดมาสคอตเพื่อไล่ล่าเขา หนทางเดียวที่จะจบเกมคือคานาเมะต้องรอดชีวิตไปให้ได้

 

Circle

หนังออริจินัลจาก Netflix ว่าด้วยคน 50 คนที่ตื่นขึ้นในห้องมืดทึบ พวกเขาไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ถ้าไม่อยากตายห้ามก้าวออกจากวงกลมที่ตัวเองยืนอยู่ และในทุกเวลาที่กำหนด คนที่ยังมีชีวิตอยู่จะต้องโหวตใครสักคนในห้องนี้ให้ตาย! จนกว่าจะเหลือเป็นคนสุดท้าย ซึ่งเวลาอันน้อยนิดได้สะท้อนสันดานดิบในการเอาชีวิตรอดของมนุษย์ได้อย่างน่าสนใจมาก ที่สำคัญหนังยังพลิกความคาดหมายของคนดูตลอดเวลา ทั้งที่หนังแทบไม่มีโปรดักชั่นอะไรที่อลังการเลยด้วยซ้ำไป

 

Escape Room

ภาคแรกเคยมีให้สตรีมมิ่งใน Netflix แต่เนื่องจากตอนนี้หมดอายุไปแล้ว เร็วๆนี้อาจจะกลับเข้ามาอีกครั้ง โดยหนังเล่าเรื่องราวของคนแปลกหน้า 6 คนที่ได้รับการ์ดเชิญมาให้ร่วมเกมเพื่อไขปริศนาหาทางออกจากห้องปิดตาย โดยมีเงินรางวัลก้อนโตเป็นสิ่งล่อใจ ทว่าสิ่งที่พวกเขาไม่รู้มาก่อนคือเดิมพันที่ต้องแลกคือชีวิต! ความสนุกคือการไขปริศนาห้องปิดตายแต่ละห้องภายใต้เวลาอันแสนจำกัดจำเขี่ย รวมไปถึงวิธีกำจัดตัวละครสุดตื่นเต้น อันที่จริงหนังมีภาคต่อตามออกมาในชื่อ Escape Room: Tournament of Champions ที่เดินเรื่องราวต่อจากภาคแรก ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง หนังมีกำหนดเข้าโรงภาพยนตร์ไทยในวันที่ 11 พฤศจิกายน ที่จะถึงนี้

 

Battle Royale

หนังที่ดัดแปลงมาจากมังงะในตำนาน สู่เรื่องราวสุดระทึก บีบหัวใจว่าด้วยโลกอนาคตอันใกล้ เมื่อประเทศญี่ปุ่นกำลังประสบปัญหาความล่มสลายในทุกด้านจนสังคมทรุดโทรมอย่างหนัก ความกระด้างกระเดื่องของเด็กวัยรุ่นกลายเป็นปัญหาสังคมที่ทำให้รัฐบาลตัดสินใจวางมาตรการตอบโต้เยาวชนผ่านการร่างกฎหมายประกาศ "วิธีการปฏิรูปการศึกษายุคใหม่" ออกมา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อคืนสิทธิให้กับผู้ใหญ่ โดยใช้เกม Battle Royale มาเป็นกติกาสังคม โดยในทุกปีโรงเรียนที่ถูกสุ่มเลือกจากทั้งประเทศ จะมีเพียง 1 ห้องเท่านั้น สมาชิกนักเรียนในห้องจะถูกจับใส่ปลอกคอที่ติดระเบิดเอาไว้แล้วเอาไปปล่อยทิ้งบนเกาะห่างไกล โดยนักเรียนทุกคนจะต้องฆ่ากันเองเพื่อให้เหลือผู้ชนะแค่เพียงหนึ่งเดียว ภายในระยะเวลา 3 วัน ถ้าหากครบกำหนดเวลา ยังหาผู้ชนะไม่ได้ปลอกคอของทุกคนจะระเบิดและกลายเป็นผู้แพ้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตามเกมนี้ยังมีกติกาปลีกย่อย อาทินักเรียนแต่ละคนจะได้รับถุงยังชีพที่ประกอบไปด้วยอาหารและอาวุธที่แตกต่างกันออกไป มิหนำซ้ำในแต่ละวันจะมีการประกาศพื้นที่อันตรายซึ่งนักเรียนแต่ละคนต้องคอยตรวจเช็คพื้นที่อยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นปลอกคอของพวกเขาก็จะระเบิดอีกเช่นกัน

ตัวหนังออกฉายในปี 2000 ประสบความสำเร็จอย่างมากทั่วโลกและยังคงได้รับการกล่าวถึงอยู่เสมอๆ เมื่อมีการเอ่ยถึงหนังในหมวดหมู่จับคนมาฆ่าแกงกันเอง เพราะหนังเรื่องนี้เป็นการสะท้อนสภาพสังคมในหลากหลายมิติ แม้ว่าในเวอร์ชั่นหนังจะไม่ได้รับการพูดถึงแบบละเอียดเท่ามังงะในแง่ความ “ลึก” ของตัวละคร แต่ท้ายที่สุดแล้วหนังเรื่องนี้ได้ตั้งคำถามที่ชัดเจนว่า เราคู่ควรกับการเป็นผู้ชนะด้วยการต้องฆ่าเพื่อนร่วมโลกมากแค่ไหน!

จะเห็นได้ว่าหนังแนวฆ่าแกงกันเพื่อเอาตัวรอด ท้ายที่สุดแล้วมักจะให้ตัวละครเอกผู้รอดชีวิตเป็นคนสุดท้าย มักจะต้องตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอ เพื่อมองย้อนกลับไปทบทวนว่า สุดท้ายแล้ว “เราคู่ควรกับการมีชีวิตต่อมากแค่ไหน” หรือ ไปถึงจนกระทั่งการวิจารณ์ระบอบการเมืองแบบในนิยายและหนังแฟรนไชส์อย่าง The Hunger Game ก็เช่นกัน