เจมส์ คาเมรอน กลับมาพร้อมกับอภิมหาโปรเจ็คท์เมกะ บล็อกบัสเตอร์ในชื่อ Avatar

เจมส์ คาเมรอน กลับมาพร้อมกับอภิมหาโปรเจ็คท์เมกะ บล็อกบัสเตอร์ในชื่อ Avatar

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
หายไปนานถึงเก้าปี หลังจากกลายเป็นผู้กำกับออสการ์จาก Titanic (1997) เจมส์ คาเมรอน ประกาศออกมาแล้วว่า เขาจะกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้งในฤดูซัมเมอร์ 2008 ด้วยอภิมหาโปรเจ็คท์เมกะ บล็อกบัสเตอร์ (ใช้คำได้เว่อร์มั่ก!) ในชื่อ Avatar จากชื่อเดิมคือ Project 880 ที่จะเล่าเรื่องของทหารผ่านศึกพิการที่ถูกส่งตัวไปพักยังดาวเคราะห์อีกดวง ซึ่งมีเผ่าพันธุ์ลักษณะคล้ายมนุษย์อาศัยอยู่ และเป็นเผ่าพันธุ์ที่เป็นศัตรูกับมนุษย์โลกเสียด้วย งานนี้คาเมรอนให้ข่าวว่า "จะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่โปรเจ็คท์นี้ค่อนข้างใหญ่มากก็จริง แต่การถ่ายทำจะใช้เวลาแค่เดือนครึ่ง...... ไม่มากไปกว่านั้นเด็ดขาดเพราะส่วนใหญ่ของหนังจะเป็นเทคนิค performance capture ซึ่งมีแนวคิดพื้นฐานเหมือนกับ Monster House แต่วิธีการทำคนละแบบ" คาเมรอนค่อนข้างพยายามอย่างหนักในการสร้างความแตกต่างให้เห็นเด่นชัดระหว่างเทคนิค performance capture กับเทคนิค motion capture ที่ได้รับความนิยมในหมู่คนทำหนังมากกว่า และนั่นก็ทำให้ขั้นตอนการโพสต์โปรดักชั่นยุ่งยากและใช้เวลานานมากขึ้น "เทคนิค" performance capture คือการถ่ายภาพนักแสดงแสดงอากัปกิริยาต่าง ๆ แล้วนำมาแปลงเป็นภาคคอมพิวเตอร์กราฟฟิก โดยไม่ต้องผ่านมืออนิเมเตอร์อีกแล้วพูดอีกอย่างคือมันไม่ใช่การแสดงที่มาจากการประชุมของทีมงานแต่มาจากมนุษย์ล้วน ๆ ผมเองเป็นคนยืนกรานที่จะใช้เทคนิคนี้ เราเตรียมงานกันมาตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีกลาย และตอนนี้เราพร้อมจะลุยแล้ว" ในส่วนของการคัดเลือกนักแสดงนั้น คาเมรอนกล่าวว่า ต้องการค้นหาดาวดวงใหม่ที่มีความสามารถทางการแสดงมากกว่าจะอยากได้ดาราที่มีชื่อเสียงโด่งดังมาร่วมงาน "มันน่าตื่นเต้นเหลือหลายกับการได้ค้นพบคนที่มีอะไรดี ๆ พร้อมในตัว เพื่อเราจะได้ช่วยกันผลักดันให้เขาพัฒนายิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก ผมว่าแบบนี้ดีกว่าการทำงานกับดาราดังเป็นไหน ๆ" นอกจากนี้คาเมรอนยังได้กล่าวถึงกล้องดิจิตอลสามมิติที่ใช้ความคมชัดสูง (HD 3-D digital camera) ที่เขาลงมือพัฒนาเทคโนโลยีมาตลอดหกปี ร่วมกับ วินซ์ เพซ ว่า "เราสองคนพัฒนาระบบกล้องชนิดนี้ด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2000 จุดประสงค์แรกคือทำขึ้นเพื่อให้ผมใช้ แต่ผมก็ทำ ๆ หยุด ๆ แล้วก็ออกไปเดินทางสำรวจสถานที่ต่าง ๆ และทำหนังสารคดีสามมิติออกมาแทน" เขาเล่า เราใช้งานกล้องนี้หนักมาก เพื่อให้แน่ใจว่ามันใช้งานได้จริงรวมถึงการปรับปรุงโปรแกรมและพัฒนาเครื่องยนต์กลไกใหม่ ๆ ตลอดเวลา แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้มีคนอื่นนำมันไปใช้งานแทนเสียแล้ว ซึ่งผมก็โอเคไม่ว่ากัน" โดยกล้องดิจิตอลสามมิติของคาเมรอนกับเพซนั้น มีทั้งหมดสี่ตัว ถูกนำไปใช้ถ่ายทำหนังแล้วสามตัว คือ Journey 3-D ของผู้กำกับ เอริค เบรวิก, หนังไอแม็กซ์ Ocean frenzy และ Avatar ของคาเมรอนนี่เอง ข้อมูลจากนิตยสาร Starpics ฉบับวันที่ 2 สิงหาคม 2549

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ

อัลบั้มภาพ 4 ภาพ ของ เจมส์ คาเมรอน กลับมาพร้อมกับอภิมหาโปรเจ็คท์เมกะ บล็อกบัสเตอร์ในชื่อ Avatar

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook