Cruella 2 พร้อม! "เอ็มม่า สโตน" จะกลับมาแน่นอน!

Cruella 2 พร้อม! "เอ็มม่า สโตน" จะกลับมาแน่นอน!

Cruella 2 พร้อม! "เอ็มม่า สโตน" จะกลับมาแน่นอน!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม้ว่าในตอนแรกในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ว่าบรรดานักแสดงระดับแถวหน้าของฮอลลีวูดหลายคนไม่ค่อยพอใจนักกับการตัดสินใจของสตูดิโออย่างดิสนีย์ ที่ปล่อยหนังฟอร์มยักษ์หลายเรื่องลงทางสตรีมมิ่ง Disney+ ไปพร้อมๆกับการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แน่นอนว่าหนึ่งในจำนวนนี้คงหนีไม่พ้นสาวสการ์เล็ต โจแฮนสันที่ตัดสินใจฟ้องดิสนีย์หลังจากที่ Black Widow เข้าฉายทั้งสองช่องทางพร้อมๆกัน

สำหรับเอ็มม่า สโตนที่เกือบจะเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ร่วมขบวนฟ้องร้องในครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะมีลู่ทางที่สดใสกว่า เมื่อเธอตัดสินใจไม่ได้ฟ้องร้องดิสนีย์ เนื่องจากเธอตกลงเซ็นสัญญาในการรับบทบาท “ครูเอลล่า” ในหนังภาคต่อ Cruella 2

สืบเนื่องมาจากความสำเร็จที่น่าพึงพอใจสำหรับหนัง Cruella ภาคแรกที่เข้าฉายและปล่อยลงทางสตรีมมิ่งในช่วงเวลาที่โควิด-19 ในอเมริกากำลังทุเลาลง ประกอบกับประชาชนที่ได้รับวัคซีนกันอย่างถ้วนหน้า ทำให้พวกเขาสามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงกับคำว่าปกติอีกครั้ง และกิจการโรงภาพยนตร์สามารถกลับมาทำการได้ ส่งผลให้พวกเขามีทางเลือกในการจะชมภาพยนตร์ใหม่ที่บ้านกับการเลือกใช้บริการสตรีมมิ่ง Disney+ Premier Access ในราคา 29.99 ดอลลาร์ หรือกลับไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ตามรายงานคือ Cruella สามารถทำรายได้บน Disney+ Premier Access ไปถึง 21 ล้านดอลลาร์ และเมื่อรวบรวมรายได้จากทั้งสตรีมมิ่ง การเข้าฉายในโรงภาพยนตร์จากทั่วโลก ทำให้หนังมีรายรับรวมทั้งสิ้น 220 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจัดได้ว่าเป็นรายได้ที่สูงท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่ปกติ

แม้จะยังไม่มีการยืนยันอย่างแน่นอนว่า Cruella 2 จะกลับมาแบบเป็นหนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เพียงช่องทางเดียว หรือ ฉายเฉพาะทาง Disney+ หรือจะปล่อยทั้งสองช่องทางพร้อมๆกัน ซึ่งในอนาคตเราอาจจะต้องตามติดสัญญาระหว่างนักแสดงและสตูดิโอยักษ์ใหญ่กันมากขึ้น หลังจากเกิดกรณีการฟ้องร้องของสการ์เล็ต โจแฮนสันขึ้น

กรณีศึกษาดังกล่าวมีการวิเคราะห์ตามออกมาว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับดิสนีย์นั้นได้ทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงฮอลลีวูดมีความเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก หลังจากโมเดลในการปล่อยภาพยนตร์เข้าโรงพร้อมๆกับการฉายทาง Disney+ ในยุคสมัยที่การ “สตรีมมิ่ง” กำลังเฟื่องฟู และทั่วโลกกำลังจับตากับการเปลี่ยนผ่านยุคสมัยในครั้งนี้

การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญส่งผลกระทบทั้งสตูดิโอ ทีมงานผู้สร้าง นักแสดง โรงภาพยนตร์ รวมถึงผู้ชม แต่ดูเหมือนว่าคนที่จะกระทบโดยตรงคือฝ่ายทีมสร้างสรรค์ผลงานโดยเฉพาะนักแสดง กรณีที่เกิดขึ้นกับสการ์เล็ตนั้นเห็นได้ชัดว่าความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับหนังอย่าง Black Widow นั้นปัจจัยหนึ่งเป็นเพราะตัวละครที่เธอสมบทบาทอย่างแบล็ค วิโดว์ เป็นหนึ่งในตัวละครที่เธอสร้างมากับมือ ทั้งบทบาทที่ส่งให้เธอได้รับการจดจำในฐานะตัวละครหนึ่งในจักรวาลมาร์เวลอันเป็นที่รักของผู้ชม อย่างที่เราทราบกันดีว่าการที่หนัง Black Widow จะมีภาคแยกมาเป็นของตัวเองนั้น ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นจากเสียงเรียกร้องของแฟนหนังเดนตาย แถมกินเวลายาวนานกว่าหนังจะได้สร้างขึ้น มิหนำซ้ำช่วงเวลาที่หนังจะได้เข้าฉายยังต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด ทำให้หนังต้องเลื่อน พอเลื่อนแล้วก็ยังมีการเปลี่ยนผ่านเพื่อฉายทั้งในโรงภาพยนตร์และปล่อยสตรีมมิ่งควบคู่กันไปอีกต่างหาก

แน่นอนว่าในฐานะผู้เสียผลประโยชน์อย่างสการ์เล็ต โจแฮนสัน ที่ออกมาฟ้องร้องดิสนีย์ เพราะเธอมองเห็นแล้วว่าการทำไม่ตรงตามข้อตกลงตั้งแต่แรกนั้น คือการเรียกร้องสิทธิ์ที่เธอควรจะได้รับ ซึ่งเราว่าเป็นเรื่องที่ถูกต้องและเธอมีจุดยืนที่ชัดเจน รวมไปถึงการมองบริบทแวดล้อมแล้วว่า ตัวละครแบล็ควิโดว์ในจักรวาลมาร์เวลนั้นโอกาสที่จะได้กลับมาหรือได้ไปต่อค่อนข้างน้อย (อย่างที่เรารู้กันดีว่าตัวละครแบล็ค วิโดว์ได้เสียชีวิตในจักรวาลมาร์เวลไปแล้ว ส่วนหนัง Black Widow ก็เป็นเรื่องราวย้อนอดีตของตัวละครนี้)

จริงอยู่ที่เอ็มม่า สโตนอาจจะประสบปัญหาเดียวกัน เมื่อ Cruella เข้าฉายทั้งสองช่องทางแบบเดียวกับ Black Widow แต่ด้วยบริบทที่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาทางเลือกของเอ็มม่า สโตนว่าจะฟ้องร้องดิสนีย์ หรือเลือกจะไม่ฟ้อง เพราะมองได้ว่าถ้าหากเธอเลือกอย่างหลัง โอกาสที่เธอจะกลับมา “โกยเงิน” จากการสวมบทบาทเป็นตัวละครครูเอลล่านั้นยังมีความเป็นไปได้สูง และเมื่ออนาคตของตัวละครที่เธอผูกขาดอยู่แล้ว การพิจารณาว่าได้น้อยอาจจะดีกว่าไม่ได้อะไรเลยในอนาคต จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่เอ็มม่า ตัดสินใจเช่นนั้น

ตามรายงานล่าสุด นอกจากเอ็มม่า สโตนที่จะกลับมารับบทบาทเดิมแล้ว ทีมงานเบื้องหลังไม่ว่าจะเป็นเคร็ก กิลเลสปี ผู้กำกับและมือเขียนบทอย่างโทนี่ แม็คนามาร่า จะกลับมารับหน้าที่เดิมอีกครั้งในภาคต่อ นอกเหนือไปจากนี้ถ้าหากดิสนีย์มองเห็นความโดดเด่นของหนังภาคแรก โดยเฉพาะงานเสื้อผ้า คอสตูมที่จัดได้ว่าเป็นองค์ประกอบที่ช่วยชูหนังให้เปี่ยมสีสันและเต็มไปด้วยภาพจำของตัวละคร ก็ควรดึงตัวเจนนี่ บีแวนกลับมารับหน้าที่คอสตูม ดีไซน์เนอร์อีกครั้ง

ทั้งหมดทั้งมวลเราก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Cruella จะเริ่มกระบวนการสร้างเมื่อไหร่ และมีกำหนดวันเข้าฉายเมื่อไหร่ แต่เอาเป็นว่า หลังจากสบายใจกันได้แล้วว่าภาคต่อหนังเรื่องนี้จะกลับมา ก็คงต้องตามกรณีฟ้องร้องของ สการ์เล็ต โจแฮนสัน ต่อด้วยเช่นกัน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook