รีวิว Wish Dragon อะลาดินและมังกรวิเศษ อีกหนึ่งความภูมิใจของทีมงานคนไทย!

รีวิว Wish Dragon อะลาดินและมังกรวิเศษ อีกหนึ่งความภูมิใจของทีมงานคนไทย!

รีวิว Wish Dragon อะลาดินและมังกรวิเศษ อีกหนึ่งความภูมิใจของทีมงานคนไทย!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Wish Dragon เป็นผลงานแอนิเมชั่นจากสตูดิโอฟอร์มยักษ์อย่าง Sony Pictures Animation โดยเป็นการร่วมทุนในการสร้างกับหลากหลายสตูดิโอผลิตแอนิเมชั่น โดยหนึ่งในทีมผู้ผลิตนั้น มีบริษัทผลิตแอนิเมชั่นของคนไทยอย่าง The Monk Studios เป็นหนึ่งในทีมงานด้วย

โครงสร้างของเรื่องหยิบยืมมาจากพล็อต “อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ” ซึ่งมีการปรับบริบทให้ร่วมยุคสมัยและเข้ากับฉากหลังอย่างประเทศจีน เมื่อติ่น เด็กหนุ่มบ้านยากจนอาศัยอยู่ในแฟลตรูหนูของประเทศจีน แม้เขาจะขยันทำงานแค่ไหนก็ดูเหมือนว่าไม่อาจจะพาตัวเองออกจากความลำบากได้เลย ฝันเล็กๆ ของเขาคือการได้พบกับหลี่นา หญิงสาวเพื่อสนิทสมัยเด็ก ซึ่งปัจจุบันเธอเป็นลูกสาวของนักธุรกิจระดับพันล้านและยังมีชื่อเสียงในสังคมระดับซูเปอร์สตาร์

วันหนึ่งติ่นได้พบกับกาน้ำชาโบราณ ซึ่งมี หลงจือ เป็นมังกรอธิษฐานสามารถมอบพรวิเศษให้กับเจ้านายได้ 3 ข้อ โดยหลังจากรับใช้เจ้านายของตัวเองจนครบแล้ว หลงจือจะได้เป็นอิสระและเดินทางกลับสวรรค์

แน่นอนว่าพรวิเศษแต่ละข้อนำมาพร้อมสถานการณ์สุดปั่นป่วนและกลายเป็นเรื่องราวสุดสนุกสนาน เมื่อมีกลุ่มผู้ทรงอิทธิพลต้องการกาน้ำชาดังกล่าวเช่นกัน และเมื่อรู้ว่าติ่นเองได้ครอบครองมันไว้ ทำให้ติ่นตกอยู่ภายใต้อันตราย

การปรับเปลี่ยนวรรณกรรมคลาสสิกให้กลายมาเป็น Wish Dragon นั้น จะว่าไปแล้ว จากตัวละครอะลาดินเดิมเป็นขโมย เมื่อกลายมาเป็นติ่นก็ถูกลดทอนลงมาเป็นแค่เพียงเด็กยากจน ในขณะที่เจ้าหญิงได้ถูกดัดแปลงให้กลายเป็นลูกสาวคนรวย ซึ่งทำให้ผู้ชมเองยังรู้สึกสัมผัสและจับต้องได้ว่าทั้งสองตัวละครนี้เป็นมนุษย์ที่อยู่ในยุคสมัยปัจจุบัน ในขณะที่ยักษ์จินนี่ได้กลายร่างเป็นมังกรอธิษฐานนั้นปูมหลังของตัวละครนี้ก็มีความน่าสนใจ ในจุดที่เมื่อครั้งหนึ่งที่เขายังเป็นมนุษย์นั้น ตนเป็นถึงจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ รายล้อมไปด้วยบริวาร ทรัพย์สิน แต่ตลอดชีวิตของการเป็นมนุษย์เขากลับไม่เคยได้เรียนรู้สัจธรรมชีวิตจนกระทั่งวาระสุดท้ายของลมหายใจ

การที่สวรรค์ส่งเขาให้กลายมาเป็นมังกรอธิษฐานเพื่อทำหน้าที่ในการ  “ให้พร” กับเหล่ามนุษย์จึงเปรียบเสมือนเป็นบทเรียนสอนชีวิตและเฝ้ามองความทุกข์ยากของผู้อื่น จึงทำให้หลงจือเองได้สัมผัสแง่มุมของความเป็นปุถุชนคนธรรมดาดูบ้างฉันใดฉันนั้นนั่นเอง

หลังจากที่หนังได้เคยเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของประเทศจีนเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาและได้รับความวิจารณ์ในแง่บวก ยังไม่รวมถึงตอนนี้ที่หนังลงสตรีมมิ่งทาง Netflix แล้วเรียบร้อยและได้รับการตอบรับอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ทำให้ตอนนี้สตูดิโออย่างโซนี่ฯ กำลังพัฒนา Wish Dragon 2 แล้วเป็นที่เรียบร้อย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook