I Know What You Did Last Summer หนังไล่เชือดในความทรงจำของวัยทีน 90 กับเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้

I Know What You Did Last Summer หนังไล่เชือดในความทรงจำของวัยทีน 90 กับเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้

I Know What You Did Last Summer หนังไล่เชือดในความทรงจำของวัยทีน 90 กับเรื่องที่คุณอาจจะยังไม่รู้
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 

 

1.เทรนด์หนังไล่เชือดที่กลับมาในยุคสมัยนั้น

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความสำเร็จของ Scream ของผู้กำกับเวส คราเว่นที่พลิกขนบหนังแนวไล่เชือด จนกลายเป็นปรากฏการณ์ ไม่ว่าจะเป็นการเอาดาราดังอาทิ ดรูวส์ แบรี่มอร์ ให้ถูกฆาตกรฆ่าตายตั้งแต่เปิดเรื่องจนช็อคคนดูไปทั่วบ้านทั่วเมือง ยังไม่รวมไปถึงการหักมุมไปมาตลอดทั้งเรื่อง ทำให้ผู้ชมเริ่มกลับมาอยากดูหนังในแนว Slasher film กันอีกครั้ง

อันที่จริงแล้วผู้เขียนบทอย่างเควิน วิลเลียมสัน เขียนบทของ I Know What You Did Last Summer เสร็จก่อนบทหนังเรื่อง Scream ด้วยซ้ำไป แต่บทของเขาขายไม่ออก จนกระทั่ง Sceam ออกฉายและประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลายทำให้ค่ายหนังอย่างโคลัมเบีย พิคเจอร์สตัดสินใจซื้อบทไปสร้างในที่สุด

ดราม่าร้อนๆของ I Know What You Did Last Summer ยังไม่จบเพราะตอนหนังเรื่องนี้ปล่อยตัวอย่างออกมาและโปรโมทว่า “จากทีมผู้สร้าง Scream” ทำให้สตูดิโอมิราแมกซ์เจ้าของลิขสิทธิ์ Scream ตัดสินใจฟ้องค่ายหนังโคลัมเบีย พิคเจอร์สในข้อหาทำให้ผู้ชมเข้าใจผิด ทำให้ประโยคนี้ถูกนำออกในที่สุด

 

2.ทีมนักแสดงวัยรุ่นไฟแรงในยุคสมัยนั้น

เฟรดดี้ ปรินซ์จูเนียร์ ซาร่าห์ มิเกล เกลล่า เจนนิเฟอร์ เลิฟ เฮอร์วิช และไรอัน ฟิลลิปเป้ พวกเขาคือดารานักแสดงวัยรุ่นที่หน้าตาดีและกำลังได้รับความนิยมในยุคสมัยนั้น อย่างไรก็ตามรู้หรือเปล่าว่าแท้ที่จริงแล้วเจนนิเฟอร์ เลิฟ เฮอร์วิชเคยออดิชั่นในบทของเฮเลน ส่วนซาร่าห์ มิเกล เกลล่าออดิชั่นในบทของจูลี่ แต่ท้ายที่สุดแล้วบทก็เป็นแบบที่เราได้เห็นกันในหนัง และอีกหนึ่งนักแสดงวัยรุ่นพุ่งแรงในยุคนั้นอย่างเมลิสา โจนส์ ฮาร์ตเคยถูกวางตัวให้รับบทจูลี่ แต่เธอปฏิเสธไปด้วยเหตุผลว่าตัวละครนี้เหมือนเวอร์ชั่นตัดแปะของหนัง Scream

เหนืออื่นใดคือซาร่าห์ มิเกล เกลล่าพบรักกับเฟรดดี้ ปรินซ์จูเนียร์ระหว่างถ่ายทำหนังเรื่องนี้และทั้งสองก็ตัดสินใจแต่งงานกันในเวลาต่อมาและยังคงรักกันจนถึงทุกวันนี้ (ภาพจาก Instagram ซาร่าห์ มิเกล เกลล่า)

 

3.ฉากไล่ล่าในความทรงจำ

หนึ่งในฉากไล่ล่าที่ดีที่สุดในหนัง (และติดทำเนียบฉากตื่นเต้นที่สุดตลอดกาล) คือฉากที่เฮเลนถูกไล่ล่ายาวตั้งแต่ที่เธอเห็นแบรี่ แฟนหนุ่มถูกฆ่าตายที่บนระเบียง ก่อนที่นายตำรวจจะอาสาพาเธอไปส่งที่บ้าน ทว่าระหว่างเดินทางนั้นหลังจากที่รถตำรวจไม่สามารถผ่านถนนเส้นหลักได้ทำให้ต้องเลี้ยวเข้าซอยและไปเผชิญหน้ากับฆาตกรชาวประมง นายตำรวจถูกฆ่าตาย เฮเลนรีบวิ่งหนีไปยังที่ร้านเสื้อผ้าของพี่สาว แต่ก็ไม่วายเมื่อฆาตกรแอบเข้ามาทางประตูหลัง และฆ่าเอลซ่าพี่สาวตาย

ระหว่างที่ถูกไล่ล่าเฮเลนหนีออกมาทางหน้าต่างและวิ่งไปทางตรอกแคบๆเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่โชคร้ายที่ชาวประมงที่ดักซุ่มรอเธออยู่ได้โจมตีเธอแบบเงียบๆท่ามกลางเสียงพลุที่ดังทั่วท้องฟ้าจนไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากเฮเลน ซึ่งฉากดังกล่าวที่เล่ามานี้กินเวลากว่า 10 นาทีจนกล่าวได้ว่านี่คือฉากไล่ล่าที่ยาวที่สุดฉากหนึ่งในหนังไล่เชือดเลยฉากหนึ่งในประวัติศาสตร์เลยก็ว่าได้

 

4.นิยายที่ไม่เหมือนเวอร์ชั่นหนัง

I Know What You Did Last Summer คือนิยายที่เขียนขึ้นโดยหลุยส์ คลาร์ก ดันแคน ซึ่งเขียนขึ้นตั้งแต่ปี 1973 โดยในเวอร์ชั่นหนังสือนั้นจริงๆแล้วไม่มีตัวละครไหนในเรื่อง “ตาย” เพราะถูกฆาตกรไล่ฆ่า มีเพียงตัวละครเดียวที่เสียชีวิตในช่วงต้นเรื่อง แถมตอนจบในเวอร์ชั่นหนังสือบรรดาตัวละครวัยรุ่นยังไปสารภาพความจริงกับตำรวจว่าพวกเขาเป็นคนที่ขับรถชนแล้วหนีอีกต่างหาก

ในปี 2010 หลุยส์ คลาร์ก ดันแคน ได้ดัดแปลงงานเขียน I Know What You Did Last Summer โดยได้เพิ่มเติมรายละเอียดในนิยายเข้าไปใหม่ และปรับฉากหลังของเรื่องราวให้ร่วมสมัยยิ่งขึ้นอาทิ ใส่ประเด็นสงครามเวียดนามและสงครามอิรัก ตัวละครมีการใช้โทรศัพท์มือถือ เป็นต้น

 

5.ตัวละครจูลี่ไม่เคยเจอฆาตกรในชุดชาวประมง

I Know What You Did Last Summer มีตัวละครที่ตายทั้งหมด 6 ศพด้วยกันประกอบไปด้วย เดวิด อีแกน, แม็กซ์, แบรี่ ค๊อกซ์, นายตำรวจ, เอลซ่า และเฮเลน แต่รู้หรือไม่ว่าตลอดฉากการไล่ล่าทั้งเรื่อง จูลี่ที่เหมือนจะโดนคุกคามจากฆาตกรลึกลับ ไม่ว่าจะเป็นจดหมายขู่ ศพของแม็กซ์ที่ถูกใส่ไว้ที่ท้ายรถ แต่เธอเป็นคนเดียวที่ไม่ได้เผชิญหน้ากับชาวประมงในตอนที่ตัวละครนี้สวมชุดชาวประมง ซึ่งในฉากไคลแมกซ์บนเรือในตอนท้ายเรื่องนั้น เธอเจอกับเบน วิลลิส/ชาวประมง (มิวส์ วัตสัน) ในชุดปกติธรรมดา

I Know What You Did Last Summer กลับมาให้คนดูหายคิดถึงทางสตรีมมิ่ง Netflix และเร็วๆนี้ Amazon Studios กำลังดัดแปลงให้กลายเป็นทีวีซีรีส์ซึ่งมีกำหนดฉายในปี 2021 นี้

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook