Ammonite: สองหญิงกับฟอสซิลแห่งแรงปรารถนา โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

Ammonite: สองหญิงกับฟอสซิลแห่งแรงปรารถนา โดย ก้อง ฤทธิ์ดี

Ammonite: สองหญิงกับฟอสซิลแห่งแรงปรารถนา โดย ก้อง ฤทธิ์ดี
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Ammonite คือหอยล้านปี ทับถมใต้ชั้นดินและหินแห่งกับกัลป์ของกาลเวลา จนกลายเป็นเพียงฟอสซิลที่ทิ้งร่องรอยของสิ่งที่เคยมีชีวิต และตอนนี้มีค่าแค่พอประดับตู้โชว์ในพิพิธภัณฑ์

Ammonite เป็นหนังสัญชาติอังกฤษโดยผู้กำกับฟรานซิส ลี (ผู้ทำหนังเกย์เรื่องดัง God’s Own Country จากปี 2016) ว่าด้วยความสัมพันธ์ของนักธรณีวิทยา แมรี่ เอนนิ่ง ผู้ชีวิตอยู่จริงในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 หรือ 200 ปีก่อน กับชาร์ล็อต เมอร์ชิสัน หญิงสาวอ่อนวัยกว่าที่เผอิญพลัดเข้ามาในชีวิตของเธอ ไฟปรารถนาระหว่างหญิงสาวสองคนเกิดขึ้นบนฉากหลังของเมืองริมทะเลอันขมุกขมัว ฝนโปรยปรายแทบตลอดเวลา และในบ้านเก่าซอมซ่อของแมรี่ที่เต็มไปด้วยซากฟอสซิลไร้ชีวิตของสัตว์โบราณที่ครั้งหนึ่งเคยครองโลก

ว่ากันง่าย ๆ นี่คือหนังเลสเบี้ยน แต่ถ้าจะว่าแบบลึกซึ้งและไม่ตีตราง่าย ๆ Ammonite คือหนังรักอันอ่อนโยนในอารมณ์ความรู้สึก ไม่ได้ “ขายประเด็น” และเชื่อมั่นในจังหวะอันเนิบนาบในการเล่าเรื่องและการแสดงภาพความสัมพันธ์ระหว่างหญิงสาวสองคนที่ถูกพัดพามาพบกันด้วยมรสุมชีวิตที่แตกต่างกัน ฉากร่วมรักของแมรี่กับซาร์ล็อต เต็มไปด้วยปะทุแห่งอารมณ์ที่แฝงด้วยความเศร้าสร้อยของจากการลา และช่างแตกต่างจากฉากเซ็กส์ของหญิงสาวในหนังอื่น ๆ เช่น Blue Is the Warmest Color ที่ออกโฉ่งฉ่าง แรงด้วยท่าทางและลีลาแต่ไม่ค่อยลึกซึ้งในอะตอมแห่งแรงผลักไสของกายและใจ

นอกจากบทและการกำกับการแสดงที่ละเอียดอ่อน ดารานำสองคนคือผู้ที่ทำให้หนังเปล่งประกายท่ามกลางความอึมครึมของท้องฟ้าเมืองไลม์ เคท วินสเล็ท น่าจะเตรียมชิงออสการ์อีกครั้งในบทแมรี่ เอนนิ่ง แปลกมาก ๆ ที่เธอไม่ได้แสดงออกว่ากำลัง “แสดง” เพียงแค่เธอขยับตัว พูด เดิน และที่สำคัญ เมื่อก้มลงเก็บซากหอยริมชายหาดเพื่อนำกลับไปปัดฝุ่น ทำความสะอาด และจดบันทึก เพียงเท่านี้เราก็เชื่อจริง ๆ ว่าเธอคือหญิงสาวชาวบ้านในยุคต้นวิคตอเรียนที่มีหุ่นเผละ มือหยาบกระด้างจากการทำงาน และไร้น้ำหล่อเลี้ยงแห่งความสุขจากชีวิตอันแห้งแล้ง การ “แสดง” ของวินสเล็ท มาจากความเข้าใจในตัวละคร และการ “เป็น” ตัวละครนั้นมากกว่าการแสดง

ดาราหญิงอีกคนคือ ซาช่า โรแนน แสดงเป็นชาร์ล็อต สาวไฮโซจากลอนดอนที่โดนสามีทิ้งไว้รักษาสภาพจิตใจกับแมรี่ที่เมืองริมทะเลแห่งนี้ ตัวละครนี้เปิดโอกาสในโรแนนแสดงจริตและความรู้สึกมากกว่า เพราะชาร์ล็อตยังสาว ยังไม่เข้าใจตัวเองและโลกของเธอ แต่เข้าใจเพียงพอว่าความรู้สึกระหว่างเธอกับแมรี่ รุนแรงเกินห้ามและมีพลังเพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งรอบตัว
เท่ากับว่า Ammonite เป็นเวทีให้ดาราหญิงคนสำคัญจากสองเจเนเรชั่นของอังกฤษ ได้ปรากฎตัวคู่กันและส่งพลังการแสดงอันคุกรุ่นอบอวลถึงกันและกัน

ผู้ชมอาจคาดหวังว่าหนังจะเดินไปสู่จุดหักเหอันคุ้นเคย เช่นความรักระหว่างแมรี่และชาร์ล็อตจะถูกเปิดโปง ถูกตราหน้าว่าผิดบาป และถูกจับแยกทางกัน อันนำมาสู่โศกนาฎกรรมพิศวาสอื่น ๆ แต่ไม่ใช่เช่นนั้น Ammonite ไม่ได้เป็นละครน้ำเน่าที่คู่รักพลัดพรากหรือโดนแร้งศีลธรรมรุมทึ้ง – นั่นช่างผิวเผิน – แต่จุดหักเหของหนังมาจากความแตกต่างภายในตัวของทั้งคู่ และมาจากสภาพสังคมที่ยังไม่มีวิวัฒนาการทางความรู้สึกเพียงพอ และยังคงทิ้งช่องว่างนับล้านปีไว้ขวางกั้นหญิงสาวทั้งสองไว้ ดังที่ภาพสุดท้ายของหนังบอกเรา สิ่งนี้ทำให้ Ammonite มีความคล้าย (แต่ไม่เหมือน) กับหนังหญิงรักหญิงเรื่องดังเมื่อสองปีก่อน Portrait of a Lady On Fire ที่กำกับโดยเซลีน สเคียมมา ที่ไม่ฟูมฟายแต่สมจริงมากเช่นกัน เป็นหนังรักริมทะเลในยุคศตวรรษที่ 18-19 เช่นกัน และยังเป็นหนังที่ค้นหาความลับของแรงปรารถนา ในช่วงเวลาที่สังคมและผู้คนบางส่วนยังไม่เข้าใจความรู้สึกนี้อย่างแท้จริง เช่นเดียวกับ Ammonite

Ammonite เปิดตัวปีที่แล้ว (2020) ที่เทศกาลเวนิส และได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก น่าเสียดายที่สถานการณ์โคโรนาไวรัส ทำให้หนังยังไม่ได้ออกฉายในวงกว้างและยังไม่ได้ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางจากคนดูและนักวิจารณ์ จึงเป็นเรื่องพิเศษที่หนังได้เข้าฉายในไทย (ที่ House สามย่าน) ก่อนหลายประเทศในโลก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook