5 เรื่อง ได้ใจเทย ประจำปี 2020 โดย แอดมินเพจกะเทยนิวส์

ปีนี้เหนื่อยมาก ช้ำมาก หืดขึ้นคอมากแม่ แต่ก็นะคะกะเทย ก็หมดไปแล้วกับปี 2020 แต่ก็ว่า บทความนี้ ก็อาจจะปล่อยช้าไปซักหน่อย ก็ไม่เป็นไรนะแม่นะ มาย้อนหลังความอร่อยว่าในปีนี้ มีหนังมีละครอะไรที่ได้ใจเทยบ้างแม่

มาค่ะ กับ 5 เรื่องที่ได้ใจกะเทยในปี 2020 นี้

(บอกก่อนว่านี่ไม่ใช่การจัดอันดับนะคะเธอ แต่เอาสิ่งที่เทยชอบเท่านั้นค่ะ ไม่เรียงนะคะ)

เพราะเราคู่กัน

• เพราะเราคู่กัน

ก็คงไม่พูดถึงไม่ได้เนอะ ว่าปรากฏการณ์ ไบร์ท-วิน จากซีรีส์ เพราะเราคู่กัน และ ภาคต่อที่คลอดมาประชิดติดกันเว่ออย่าง เพราะเรา (ยัง) คู่กัน นั้น ทำให้ชีวิตช่วงล็อกดาวน์ของชาวเรา ชาววาย มีอะไรให้ตื่นตาตื่นใจได้มากมายเลยทีเดียว ซึ่งปรากฏการณ์ไบร์ทวินนั้น ก็มาจากจุดที่ตลาดวาย นางเริ่มมาถึงจุดพีค และหาเหลี่ยมมุมที่จะเข้าที่เข้าทางมากขึ้นแล้วล่ะเธอ ว่าแบบ ความวายมัธยมมหาลัย มันคือมาได้ประมาณนี้ เท่านี้ ตรงนี้นั่นแหละแม่

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตัวบทจะชวนขมวดคิ้วในหลายจุด ขาดซึ่งความสมเหตุสมผล รวมถึงไม่ไปกับความเป็นมนุษย์ที่มีตรรกะเท่าไหร่ แต่ก็นะคะ ใครสน หลายคนก็เสพย์ความหล่อเหลาของสองพระเอกคู่จิ้นกันไปนั่นแหละเจ้าค่ะ จนตลอดปีนี้ ก็นับได้ว่า ไบร์ท-วิน กลายเป็นพระเอกคู่จิ้นคู่ขวัญ ที่ปั่นกระแสในโลกโซเชี่ยลได้ไกลมากสุดคู่หนึ่งเลยก็ว่าได้

อ่ะ ต้องให้นะแม่

 

• The Gifted Graduation

มากันที่ด้านเนื้อหากันบ้างแม่ ก็ต้องยอมรับเลยค่ะ ว่าปีนี้ เป็นปีแห่งการเรียกร้อง ความคนรุ่นใหม่ เยาวชน นักเรียนเลวตั่งต่าง ก็ออกมาเรียกร้องสิทธิให้กับตัวเองกันมากขึ้น ทางฟากฝั่งของซีรีส์ ก็ว่าบาปว่าบุญ ก็มี The Gifted Graduation ที่เป็นซีซั่นต่อจาก The Gifted ภาคแรก ที่คราวนี้ มาร่วมกันเขย่าวงการการศึกษา และการตั้งคำถามต่อกฎเกณฑ์ที่มันไม่ถูกต้องกันต่อเนื่องค่ะ

ความน่าสนใจของ The Gifted คือการเล่าเรื่องกลุ่มเด็กที่มีพลังวิเศษ ความสามารถพิเศษที่แตกต่าง จนเกินกว่าความควบคุมของระบบการศึกษาปกติ เหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตั้งแต่ผู้อำนวยการโรงเรียน ไปยันคนที่มีตำแหน่งใหญ่กว่า ก็ทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะรักษาอนาคตในแบบที่ตัวเองอยากได้เอาไว้ โดยไม่สนเลยว่าอนาคตแบบที่เด็กอยากได้มันเป็นแบบไหน การต่อสู้กันผ่านแนวคิดในรั้วโรงเรียนก็เลยอร่อย เลยแซ่บ มันแนบทาบไปกับบริบทในสังคมไทยด้วยแหละแม่ แบบว่า โห จริงอ่ะ เหล่าเด็กๆเขาก็สู้กันแบบนี่นี้แหละค่ะ

คำวิจารณ์ก็ออกมาอร่อยมากมาย ไปตามไล่ดูกันได้ค่ะเธอ

 แปลรักฉันด้วยใจเธอ

• แปลรักฉันด้วยใจเธอ

แม้จะมีอุปสรรคของโควิดเข้ามาเบียดเบียนการถ่ายทำ แต่ซีรีส์น้ำดีจากบ้านนาดาว อย่างแปลรักฉันด้วยใจเธอ ก็กลายเป็นกระแสขึ้นมาในช่วงก่อนปลายปีได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ ด้วยการเซ็ตมาตรฐานสูงให้กับวงการซีรีส์วายบ้านเรา กับการลงมาใส่ใจกับเรื่องบท ที่มีความสมจริงมากขึ้น ลงไปขยี้ประเด็นที่เกี่ยวกับชีวิตเด็กวัยรุ่นสองคนที่มีความรู้สึกดีดีให้กัน แต่ก็ต้องเผชิญกับเรื่องราวที่ชวนอึดอัด และต้องบอกความรู้สึกที่มีให้กันผ่านตัวอักษรภาษาจีนที่มีความซับซ้อน

ความน่าสนใจของแปลรักฉันด้วยใจเธอ คงหนีไม่พ้นความสวยงามของภูเก็ต ที่เป็นโลเกชั่นหลักของเรื่องค่ะ ด้วยความโควิดหรืออะไรเทยก็มิทราบได้ แต่กองนาดาว นางก็ได้ยกการถ่ายทำลงไปที่นั่นในช่วงสงบเงียบ ไม่ค่อยมีผู้คน ฉากของภูเก็ต จึงเป็นฉากที่พิถีพิถัน การจัดแสงไฟที่ทำให้บ้านร้านตลาดดูงดงาม ประหนึ่งหลุดเข้าไปอีกโลกนึงของซีรีส์​์ ก็ยิ่งตราตรึงมากมายแม่

ม้วนไม่ไหวกับบิ้วกิ้น พีพีด้วยนะแม่นะ

 Cherry Magic!

• Cherry Magic!

อีกกระแสที่เบียดเสียดมาในช่วงไล่เลี่ยกัน คือซีรีส์วายวัยทำงานจากประเทศญี่ปุ่น กับ Cherry Magic! เมื่อคุณอายุ 30 แล้วยังเวอร์จิ้น จะทำให้คุณมีพลังวิเศษ ที่จะอ่านความรู้สึกคนอื่นได้ เรื่องราวชีวิตวัยทำงานอันวายป่วงของ อาดาจิ ที่อายุ 30 แล้วก็ยังซิง และใช่แล้วค่ะ นางมีจิตสัมผัส แตะตัวใคร ก็อ่านความรู้สึกได้หมด แต่วันดีคืนดี นางก็ไปแตะตัว คุโรซาวะ รุ่นพี่หนุ่มหล่อที่ทำงานในบริษัทเดียวกัน แล้วก็ดันรู้ว่า เห้ย เค้าแอบชอบเราอยู่ 

ความน่าสนใจของ Cherry Magic! คือการปรับจากมังงะมาเป็นซีรีส์ ที่พาเอาชวยเขิน กับความสมจริงที่เรียบง่าย เหมาะกับคนวัยทำงานที่โตขึ้นอีกหน่อย แม้แอคติ้งของนักแสดงจะทำให้เรารู้สึกเหมือนกำลังดูการ์ตูนญี่ปุ่นอยู่ก็ตาม แต่เธอขา มันฟินมากแม่ รายละเอียดที่ปรับบทให้เข้ากับความสมจริงนั้น เลยทำให้คนดูเข้าถึงได้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

แน่นอนว่า WeTV ได้ซื้อลิขสิทธิ์มาแล้ว ไปตามดูกันได้นะเธอ

 The Crown

• The Crown

ปิดท้ายไปทาง Netflix กันบ้าง กับฟอร์มใหญ่ ที่เอาเรื่องราวอันโอ่อ่าในราชวงศ์อังกฤษ มาตีแผ่ให้เราได้รับชมกันกับ The Crown ที่เดินทางมาถึงซีซั่นสี่เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งซีรีส์นี้ออกจะเป็นแนว Dramatory หรือละครบวกสารคดี ที่ดูไปนอกจากจะได้ความอรร่อยแบบละครแล้ว ก็ยังได้ความรู้เป็นเกร็ดประวัติศาสตร์ของประเทศอังกฤษอีกด้วย

ความน่าสนใจของซีรีส์ The Crown ในซีซั่น 4 นี้ ก็คือการจับเอาเรื่องราวในช่วงเวลาอันเอร็ดอร่อยของการเมืองอังกฤษ เมื่อผู้หญิงสามคนที่ทรงอิทธิพลที่สุด เรืองอำนาจที่สุดในช่วงเวลานั้น กับควีนอลิซาเบธ ที่ยืนหนึ่งในการเป็นประมุขประเทศ เจ้าหญิงไดอาน่าที่ครองพื้นที่สื่อและครองใจมวลชน กับเทรชเช่อ นายกหญิงเหล็กผู้ซึ่งกุมอำนาจทางการเมืองไว้อย่างเบ็ดเสร็จ กะเทยก็เลยอินกันมากมาย เพราะจะเลือกฝั่งฝ่ายมาฟาดฟันกันได้อร่อยเว่อเลยแม่

ยิ่งสะท้อนว่าซีรีส์ต่างประเทศเค้าไปไกลมากมายแล้วเนอะ

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นปีที่เหนื่อย ทุกคนเหนื่อย แฟนคลับเหนื่อย แน่นอนค่ะว่า โควิด-19 ได้พรากเอาความสนุกสนานและความบันเทิงไปจากชีวิตพวกเรามากเหลือเกินแม่ แต่อย่างไรก็ตามนะคะ ปีนี้ ก็ถือเป็นปีที่คอนเทนต์อร่อยๆ ได้ผลิตออกมาให้เราได้เสพย์กันไม่ขาดสาย ให้ได้คลายเครียดกันไปบ้างล่ะเนอะ

 

ปีหน้าฟ้าใหม่ ก็มาลุ้นกันใหม่แล้วกันค่ะ

เหยี่ยวเทย รายงาน