15 จุดเช็คอินเที่ยวญี่ปุ่นดีต่อใจ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

15 จุดเช็คอินเที่ยวญี่ปุ่นดีต่อใจ ไม่ไปไม่ได้แล้ว

15 จุดเช็คอินเที่ยวญี่ปุ่นดีต่อใจ ไม่ไปไม่ได้แล้ว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จองตั๋วญี่ปุ่นไว้แต่เจองานด่วนเข้าไปเลยไม่มีเวลาทำแพลน ใครเข้าข่ายสถานการณ์นี้ขอให้เร่เข้ามาค่ะ เร่เข้ามา ไม่ใช่อะไร เพราะเราขออาสาทำแพลนเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ให้เอง! โดยเลือกเอาจุดหมายยอดนิยมอย่าง 3 เมืองใหญ่ ได้แก่ โตเกียว, โอซาก้า และฟุกุโอกะ พร้อมกับชี้เป้าเจาะกันเลยเป็นพิกัดๆ แบบที่คิดแล้วว่าสายไหนไปก็น่าจะดีต่อใจกันทุกผู้ทุกคน

โตเกียว

ห้าแยกชิบุยะ (Shibuya Crossing)

1

แลนด์มาร์คสำคัญที่ไม่ว่าใครไปเที่ยวญี่ปุ่น ที่โตเกียวก็ต้องแวะถ่ายรูปเหล่าฝูงชนที่สัญจรสวนกันไปมา ณ ห้าแยกชิบุยะ แต่จะมีใครรู้ว่าจุดชมวิวตรงไหนถึงจะถ่ายรูปสวยได้แบบดีต่อใจบ้าง อ่ะ…บอกให้ก็ได้ จุดแรกคือร้านกาแฟสตาร์บัคส์ตรงตึกซึทาญ่า (TSUTAYA) แต่ถ้าที่นี่ต้องเดินวนแล้ววนอีกโต๊ะก็ยังเต็ม ก็ให้ลองมาที่ L’Occitane Cafe แทนค่ะ จิบชาเบาๆ พลางมองวิวก็เป็นอะไรที่เก๋กู้ดน่าดู แต่ถ้าอยากได้วิวจากมุมสูงมากขึ้นไปอีก บนชั้น 7 ของอาคารเดียวกันกับคาเฟ่ล็อกซิทาน จะมีร้านอาหารชื่อ Gusto คุณสามารถไปใช้บริการที่นั่นได้เช่นกัน อาหารก็อร่อยด้วยนะ เรตติ้งจากชาวโลคอลนั้นค่อนข้างดีเลย

ถนนเซ็นเตอร์ไก (Center-Gai)

2

ใกล้ๆ กับ 5 แยกชิบุยะคือเซ็นเตอร์ไก ถนนที่ตัดผ่ากลางชิบุยะระยะทางกว่า 300 เมตร ตลอดสาย เต็มไปด้วยร้านค้าเรียงรายทั้งสองฝั่ง บรรยากาศก็คึกคักตลอดกลางวันยันกลางคืน เนื่องจากย่านนี้ถือว่าเป็นศูนย์กลางอันดับต้นๆ ที่ชาววัยรุ่นต่างก็แวะมาช้อปปิ้งและแฮงเอาต์กันอย่างหนาตา ยิ่งถ้าใครได้มาเที่ยวญี่ปุ่นหน้าเทศกาลอย่างวันฮาโลวีน ขอให้มาที่นี่ค่ะ เพราะทั้งถนนจะเต็มไปด้วยผู้คนที่แต่งตัวมาเพื่อเฉลิมฉลองแบบที่ไม่มียอมใครเลยล่ะ

โตเกียวสกายทรี (Tokyo Skytree)

3

สัญลักษณ์โตเกียวแห่งใหม่ที่อยู่ไม่ไกลจากวัดเซนโซจินัก (หรือที่รู้จักกันดีว่าวัดอาซากุสะ) โดย “โตเกียวสกายทรี” เป็นหอสูงที่คุณสามารถชมวิวได้ทั่วทั้งโตเกียวแบบพาโนรามา อีกทั้งได้รับการยอมรับว่าเป็นอาคารที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย ภายในไม่ใช่ว่ามีเพื่อการชมวิวอย่างเดียว แต่ยังอัดแน่นไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นอควาเรียมที่มีมากถึง 8 โซน, คาเฟ่, ศูนย์การค้าที่มีแบรนด์ดังๆ ให้ได้เลือกละลายทรัพย์ อาทิ ยูนิโคล่, โอนิซึกะ ไทเกอร์ และ BAO BAO เป็นต้น

ถนนโอโมเตะซันโด (Omotesando Street)

4

ต้องยอมรับว่าโอโมเตะซันโดนั้นเป็นย่านที่สายสตรีทสามารถเดินเหินได้ทั้งวัน ด้วยความที่ตามรายทางมีคาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า และแฟล็กชิพ สโตร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์โลคอลหรือแบรนด์ระดับโลก ซึ่งแต่ละร้านก็ทันสมัยอีกทั้งตัวอาคารก็ล้ำไปด้วยดีไซน์น่าถ่ายรูป อ้อ…สำหรับใครที่มาเดินเล่นที่นี่ อย่าลืมแวะ Cat Street ด้วยนะ เพราะถนนเส้นเล็กๆ นี้มีข้าวของเก๋ๆ น่าซื้อหามากมาย อย่างสินค้ามือสองสตรีทแบรนด์ ของทำมือกระจุกกระจิก ฯลฯ เอาเป็นว่าเดินได้เพลินๆ เลยล่ะ ที่สำคัญราคาไม่โหดร้ายเท่าถนนหลักด้วยนะ ลองดูๆ

ย่านไดคังยามะ (Daikanyama)

5

ช้อปปิ้งที่โตเกียวบอกเลยว่าสนุกไม่แพ้เกาหลี ยิ่งถ้าคุณได้ไปสำรวจแถวๆ ไดคังยามะ จะเห็นว่ามีร้านกระจุกกระจิกเก๋ๆ รวมถึงแบรนด์ไฮสตรีทดังๆ ที่แห่กันมาเปิดแถวนี้มากมาย แถมมีดีไซน์ สตูดิโอ อีกทั้งอาร์ตแกลเลอรี่ซ่อนตัวอยู่ตามรายทางเต็มไปหมด อีกอย่างย่านนี้มีคาเฟ่ชื่อดังตั้งอยู่ด้วยเริ่มตั้งแต่หน้าสถานีไดคังยามะก็เป็นรถขายกาแฟ Motoya Expresso Express แต่ที่พลาดไม่ได้สำหรับสายหวานก็ต้อง Camden Blue Donuts ร้านโดนัทที่บินมาไกลจากพอร์ทแลนด์

โอซาก้า

ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan)

6

คิดจะเที่ยวญี่ปุ่น ที่โอซาก้าให้ครบทุกมุม ว่ากันว่าทริปนั้นต้องมียูนิเวอร์แซลรวมอยู่ด้วย แต่สำหรับใครที่อินอยู่แล้วและไม่ว่าจะเดินทางไปที่ไหนก็ต้องแวะสวนสนุก กล่าวตรงนี้เลยว่า “ยูนิเวอร์แซล สตูดิโอส์ เจแปน” คือสวรรค์ของคุณค่ะ โดยเฉพาะโซนยอดนิยมอย่าง The wizarding World Harry Potter ที่ทางสวนสนุกจำลองฮอกวอตส์ออกมาได้แบบเป๊ะๆ เนียนถึงขั้นที่ว่าแฟนหนังหลายๆ คนทึ่งจนพูดไม่ออก อีกทั้ง Minion Park คือโซนใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วก็เป็นอะไรที่พลาดไม่ได้เช่นเดียวกัน แต่ต้องระวังกระเป๋าตังค์กันให้ดีๆ เพราะของโซนนี้คือน่ารักน่าเอากลับบ้านสุดๆ

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

7

มาเที่ยวญี่ปุ่น ที่โอซาก้า ย่านที่ฮอตฮิตและครบครันทั้งช้อป ชิม ชิลล์สุดๆ ไม่ว่าจะเป็นมุมไอคอนิกยอดนิยมอย่างป้ายกูลิโกะที่ทุกคนต้องได้สักรูปไว้อัพไอจี หรือจะเลือกเดินเข้าดองกี้แล้วช้อปมันทั้งคืนก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร อ้อ…ย่านนี้มีของกินขึ้นชื่ออยู่หลายร้าน ทั้งราเมงข้อสอบที่ต้องเจิมสักมื้อ ระหว่างมื้อถ้าหิวก็โดนทาโกะยากิเจ้าดังได้ ส่วนปูมิโซะรสนัวค่อยเอาไว้แกล้มแก้วบ๊วยช่วงเย็นๆ เป็นการปิดท้าย เอาจริงๆ ย่านนี้คืออยู่ยาวได้ทั้งวัน ขอให้เชื่อ

ย่านชินเซไก (Shinsekai)

8

ถ้าอยากสัมผัสกลิ่นอายแห่งอดีตพร้อมกับความคึกคักฉบับชาวโลคอล เมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นในโอซาก้า ขอให้แวะมาย่านชินเซไกนี่เลยค่ะ ยิ่งถ้าคุณเดินเข้าไปในตรอกจัน จัน โยโกะโช (Jan Jan Yokocho) นะ สิ่งที่จะเห็นเลยก็คือร้านกินดื่มที่อัดแน่นตลอดสาย อีกทั้งชาวโอซาก้าที่พลัดกันเดินเข้าร้านนู้นร้านนี้กันเป็นว่าเล่น ส่วนเมนูขึ้นชื่อที่ไม่ลองไม่ได้คืออาหารทอดเสียบไม้ค่ะ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ยันผลไม้ พี่เค้าเอามาทอดให้ได้หมด ก่อนกลับอย่าลืมเดินไปชมความงามของหอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku) ด้วยล่ะ จะได้เก็บครบเลยทั้งย่านในครั้งเดียว

ศาลเจ้าสุมิโยชิ-ไทชา (Sumiyoshi Taisha)

9

ทริปเที่ยวญี่ปุ่นจะสมบูรณ์ได้ยังไงถ้ามาญี่ปุ่นแล้วไม่ได้เข้าวัด ซึ่งศาลเจ้าที่เรากำลังจะแนะนำให้คุณได้ไปนี้คือ “ศาลเจ้าสุมิโยชิ-ไทชา” อ่ะ…เอาแค่ความเก่าแก่ก็กินขาดแล้ว เนื่องจากศาลเจ้าสุมิโยชิ-ไทชาแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 3 และมีประวัติศาสตร์อันยาวนานมามากกว่า 1,800 ปี อีกทั้งรูปแบบสถาปัตยกรรมก็โดดเด่นไม่แพ้ที่ไหนในญี่ปุ่น รวมถึงความศักดิ์สิทธิ์ที่เราจะไม่พูดถึงไม่ได้ เพราะมีความเชื่อกันว่าหากมาสักการะเทพคามิ ณ ศาลเจ้าแห่งนี้แล้วจะเดินทางปลอดภัย พร้อมกับแคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวง รู้งี้แล้วก็จดลงลิสต์เลยค่ะ ดีต่อใจแน่นอน

ย่านนาคาซากิโจ (Nakazaki-cho)

10

เป็นย่านที่เดินเพลินๆ ได้ทั้งวัน ผู้คนก็ไม่พลุกพล่าน ที่สำคัญคนที่มาเดินย่านนี้ส่วนใหญ่งานพรีเมี่ยมจ่ะ ไม่แค่เฉพาะวัยที่กรุบการแต่งกายก็ยังเหมือนหลุดออกมาจาก Magazine ไปอีกกกกก เอาล่ะ เข้าเรื่อง มาที่นี่คุณจะได้ช้อปปิ้งสตรีทแวร์มือสองสภาพดี (ที่บางตัวก็หายาก) ในขณะเดียวกันงานอินทีเรียของแต่ละช็อปก็มีเอกลักษณ์น่าเข้าไปละลายทรัพย์แทบจะทุกร้าน เอาเป็นว่ามีหมื่นหมดหมื่นมีแสนก็หมดไปทั้งแสน ชัวร์!

ฟุกุโอกะ

ซุ้มขายอาหารสไตล์ยาไต (Yatai Food Stall)

11

มาฟุกุโอกะทั้งทีแต่ไม่ไปลองชิมราเมงฮากาตะตามซุ้มอาหารแบบยาไตดู นี่บอกเลยว่าพลาดมาก เหมือนมาเที่ยวไม่ถึงญี่ปุ่น เพราะเสน่ห์แบบท้องถิ่นที่แท้ทรูที่คุณสามารถสัมผัสได้อย่างง่ายๆ ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็คือการไปนั่งกินสตรีทฟู้ดตามข้างทางนี่แหละ ซึ่งซุ้มอาหารสไตล์ยาไตของฟุกุโอกะนั้นมีเอกลักษณ์ตรงที่แต่ละร้านมีที่นั่งจำนวนจำกัด บางร้านมีแค่ 6-10 ที่เท่านั้น และเมนูยอดนิยมก็หนีไม่พ้นราเมงแบบฮากาตะ นอกจากนี้ก็มีเมนูแบบอิซากาย่าโดยเฉพาะผักย่างของเค้านี่คือของขึ้นชื่อเลย หรือใครต้องการซดน้ำซุปร้อนๆ หรือ ทานอะไรเบาๆ ก็มีหลายร้านในแถบนั้นที่ขายโอเด้งอยู่เหมือนกัน

วัดโทโชจิ (Tochoji Temple)

12

เป็นวัดแบบพุทธในนิกายชินกอน (Shingon) ของภูมิภาคคิวชู ที่ภายในวิหารนั้นมีโคโบไดชิ (Kobo-Daishi) พระพุทธรูปปางนั่งแกะสลักด้วยไม้น้ำหนักกว่า 30 ตัน ซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อฟูกุโอกะ ไดบุสสึ หรือพระใหญ่แห่งฟูกุโอกะนั่นเอง ข้างๆ กันคือเจดีย์สูง 5 ชั้นสร้างด้วยไม้สนที่มีลักษณะสวยงามน่าถ่ายรูปเอามากๆ

สวนโอโฮะริ (Ohori Park)

13

อีกกิจกรรมนึงที่ต้องห้ามพลาดเมื่อมาเที่ยวญี่ปุ่นคือการซื้อเบนโตะแล้วหาสถานที่ผ่อนคลายๆ อย่างสวนสาธารณะเพื่อไปปิกนิก ซึ่งถ้ามาเที่ยวที่ฟุกุโอกะสวนโอโฮะริคือเหมาะเหม็งค่ะ ด้วยบรรยากาศรอบๆ ที่มีตั้งแต่บึงน้ำขนาดใหญ่ สนามเด็กเล่น สวนดอกไม้ สถานที่จิบชาเบาๆ รวมไปถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะที่จัดแสดงงานเกี่ยวกับประติมากรรมมากมาย อ้อ…หากใครมาในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่นี่ยังเป็นจุดชมซากุระที่ขึ้นชื่อของเมืองนี้อีกด้วยนะ

ย่านช้อปปิ้งเท็นจิน (Tenjin)

14

เรียกว่าเป็นย่านดาวน์ทาวน์ของฟุกุโอกะเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่มีห้างใหญ่ๆ รวมตัวอยู่มากมายให้ชาวเมืองได้เลือกช้อป ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็ห้างสรรพสินค้า Canal City ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ใครต่อใครต่างก็แวะมาพักผ่อนหย่อนใจกันที่นี่ ไม่เพียงเท่านั้น เท็นจินยังเต็มไปด้วยร้านรวงต่างๆ เต็มสองฟากถนน จะเลือกเดินเล่นหรือช้อปปิ้งก็ทำได้เลยเต็มที่ ดีไม่ดีหมดตัวได้ง่ายๆ เลยล่ะค่ะ สำหรับย่านนี้

ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์ (Fukuoka Tower)

15

ปิดท้ายแบบสวยๆ ด้วยการขึ้นไปชมเมืองฟุกุโอกะแบบ 360 องศาผ่านแลนด์มาร์คของเมืองอย่าง ฟุกุโอกะ ทาวเวอร์ จากความสูงที่มากถึง 234 เมตร ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนก็สามารถเห็นได้หมด โดยเฉพาะกับทัศนียภาพของทะเลฮากาตะที่เราอยากให้คุณได้เห็นความสวยงามนี้กับตาของตัวเอง หรือถ้าใครมาเป็นคู่การเลือกชมวิวเมืองที่นี่ตอนกลางคืนก็เป็นไอเดียที่เริ่ดอยู่นะ เปลี่ยนบรรยากาศบ้างเถอะจ่ะ ความรักจะได้ฟรุ้งฟริ้งกว่าเดิม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook