"Erika Karata" จากสาวฟาร์มสู่วงการไอดอล และ "เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น" คนล่าสุด

แม้จะเข้าสู่วงการบันเทิงได้เพียงไม่กี่ปี แต่สาวน้อยหน้าใสดวงตากลมโตอย่าง เอริกะ คาราตะ (Erika Karata) ก็กลายเป็นดาวรุ่งสุดร้อนแรงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ที่ประเทศญี่ปุ่นนั้น ในแต่ละปีจะมีเด็กสาวนับพันคนที่เข้ามาอยู่ในวงการบันเทิง เพราะใฝ่ฝันอยากจะเป็นดารานักแสดง แต่ความเป็นจริงก็คือ โอกาสที่สาวๆ เหล่านั้นจะได้เป็นไอดอล นักร้อง นักแสดง หรือนางแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั้น ยากเสียยิ่งกว่าการเข็นครกขึ้นภูเขาเสียอีก จึงไม่แปลกที่สาวน้อยหน้าใสดวงตากลมโตอย่าง เอริกะ คาราตะ จะเป็นที่อิจฉาของบรรดาสาวๆ ทั่วญี่ปุ่น เพราะเธอผู้นี้เพิ่งเข้าสู่วงการบันเทิงได้เพียงไม่กี่ปี แต่ตอนนี้ เธอกลายเป็นสุดร้อนแรงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

3 ปีก่อน แมวมองจากเอเจนซี่ไปพบเจอ เอริกะ คาราตะ ที่ฟาร์มนอกเมืองแห่งหนึ่งของจังหวัดชิบะ ตอนนั้นเธอเพิ่งเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย และทำงานพาร์ตไทม์อยู่ที่ Mother Farm สถานที่ท่องเที่ยวสไตล์ธีมพาร์ค และหลังจากวันนั้น ชีวิตเธอก็เปลี่ยนไปในพริบตา

เธอต้องเริ่มเข้าคลาสเรียนฝึกการใช้เสียง เรียนการแสดง ไม่นานหลังจากนั้น เธอก็ได้แสดงมิวสิควิดีโอตัวแรกในชีวิตกับเพลง "Divine" ของเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดัง Girl's Generation ต่อมาในปี 2015 เอริกะ คาราตะ ก็ได้รับเลือกให้แสดงละครทาง Fuji TV เรื่อง Koinaka (หรือ Love Relationship) ก่อนจะได้เล่นโฆษณาอีกหลายต่อหลายตัว

ผลงานอันหลากหลายที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้จำนวนแฟนคลับของเธอก็เริ่มจะล้นหลามจนแทบจะเป็นกองทัพ จนทุกคนตั้งฉายาให้เธอว่า "เทพธิดาแห่งญี่ปุ่น"

หลังจากนั้นสาวน้อยคนนี้เริ่มมีผลงานที่ประเทศเกาหลีใต้ โดยเธอได้เซ็นสัญญากับเอเจนซี่ชื่อดัง BH Entertainment และเริ่มมีผลงานข้ามประเทศแล้ว

และในทุกๆ วัน เอริกะ คาราตะ ก็จะโพสต์รูปแบ่งปันเรื่องราวต่างๆ ของเธอลงในอินสตาแกรม แต่ละรูปก็ช่างน่ารักจิ้มลิ้ม ชวนยิ้มตามเสียเหลือเกิน

แต่ไม่ว่าจะโด่งดังสักแค่ไหน เธอก็ยังติดดินอยู่เสมอ เพราะ เอริกะ คาราตะ ยังกลับไปที่ Mother Farm และเล่นกับสัตว์น้อยใหญ่อย่างสนิทสนม พร้อมกับแชร์รูปฟาร์มแห่งนี้ให้แฟนๆ ได้ชมกันเสมอ

 

 

ในปี 2018 นี้ เอริกะ คาราตะ จะมีผลงานภาพยนตร์แนวโรแมนติกดราม่าเรื่อง Netemosametemo หรือ Sleeping of Walking ในฐานะนางเอก โดยหนังเรื่องนี้มีกำหนดเข้าฉายในญี่ปุ่นช่วงเดือนกันยายน

เส้นทางในวงการบันเทิงของ เอริกะ คาราตะ ยังคงอีกยาวไกล คงต้องจับตามองกันต่อไปว่าเธอจะประสบความสำเร็จและก้าวไปไกลอีกสักแค่ไหน