พาเที่ยว 5 สถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิต ณ กรุงโตเกียว
ช่วงปลายปีแบบนี้ ยิ่งในระหว่างเดือนตุลาคมจนถึงธันวาคมที่นอกจากจะเป็นช่วงวันหยุดยาวซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเดินทางไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นกันแล้ว ก็ยังเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวต่างรู้กันดีว่า เป็นช่วงที่ใบไม้กำลังจะผลิใบ และเปลี่ยนสีเป็นโทนแดง หรือน้ำตาล เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าฤดูจะเปลี่ยนผันเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว ทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลายเป็นอีกหนึ่งปลายทางหลักสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ ที่ต้องการไปเก็บภาพบรรยากาศของใบไม้เปลี่ยนสี ที่ค่อยๆ ไล่เปลี่ยนเฉดโทนสีจากเขียวไปเหลือง จากเหลืองไปแดงอย่างช้าๆ แต่เนื่องด้วยเวลา สภาพอากาศ และปัจจัยอื่นๆ ก็ไม่ได้ทำให้ใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกันทีเดียวทั่วทั้งญี่ปุ่น
ซึ่งในเมืองหลวงอย่าง โตเกียว (Tokyo) ใบไม้จะค่อยๆ เปลี่ยนสีในระหว่างกลางเดือนตุลาคม เรื่อยไปจนถึงเดือนพฤศจิกายน หรือบางปีอาจจะเลยไปจนถึงเดือนธันวาคม ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรจะเช็คสภาพอากาศ และข่าวสารอัพเดทของเทศกาลฤดูใบไม้เปลี่ยนสีนี้กันอีกที สำหรับใครที่กำลังจะไปเยือนญี่ปุ่น เพื่อที่จะไปดูใบไม้เปลี่ยนสี ทาง Traveloka ก็มี 5 จุดสถานที่ชมใบไม้เปลี่ยนสีที่โตเกียวมาฝากทุกคน
1 ทะเลสาบคาวางุจิโกะ (Kawaguchi Lake)
นอกจากจะเป็นสถานที่ๆ สามารถมองเห็นวิวของภูเขาไฟฟูจิได้แล้ว ทะเลสาบแห่งนี้ยังเป็นจุดชมวิวใบไม้เปลี่ยนสียอดฮิตอีกด้วย โดยใบไม้ในแถบนี้จะค่อยๆ เปลี่ยนสีตั้งแต่ในช่วงครึ่งเดือนแรกของเดือนตุลาคมเป็นต้นไป จะมีทั้งสีแดง ส้ม และเหลืองสลับๆ กัน ใบไม้สีแดงในแถบนี้จะเป็นใบของต้นเมเปิ้ล เวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีก็จะให้วิวที่งดงาม ของใบไม้สีแดงตัดกับสีขาวโพลนของยอดภูเขาไฟฟูจิ สวยงามทั้งตอนเช้า และเย็น เพราะในช่วงค่ำแถวนั้นก็จะมีการประดับไฟ ที่จะเพิ่มความงดงามให้กับจุดชมวิวบริเวณนี้ให้มากยิ่งขึ้นไปอีก
2 มหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo)
ใครเลยจะเชื่อว่าจุดชมใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของโตเกียวนั่นก็คือ ‘มหาวิทยาลัยโตเกียว (University of Tokyo)’ ซึ่งเรียงรายไปด้วยต้นแปะก๊วย และค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอร่ามตาในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน ไล่ไปจนถึงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปในเขตมหาวิทยาลัยได้ฟรี แต่ก็ควรถ่ายรูปแค่ด้านนอก ไม่ควรยุ่มย่ามเข้าไปข้างใน และไม่ควรส่งเสียงรบกวนผู้อื่น สำหรับมุมที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ก็คือบริเวณหอนาฬิกา เพราะจะมีต้นแปะก๊วยเรียงรายเต็มสองฝั่ง
3 สวนสาธารณะเมจิจิงงู ไกเอ็น (Meiji Jingu Gaien Park)
ถ้าหากฉากสวยๆ ของต้นแปะก๊วยสีเหลืองทองยังไม่จุใจ แนะนำให้มาที่สวนสาธารณะ ‘Meiji Jingu Gaien Park’ ที่มีทำเลอยู่ในย่านชินจูกุ ในกลางกรุงโตเกียวกันเลยทีเดียว ที่แนะนำเพราะนอกจากจะเดินทางง่าย เข้าชมฟรี และยังมีฉากของใบไม้เปลี่ยนสีสุดอลังการ ตรงที่สวนแห่งนี้จะมีต้นแปะก๊วยเรียงรายสองฝั่งถนนมากกว่า 100 ต้นเลยทีเดียว แนะนำให้มาช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน ไปถึงต้นเดือนธันวาคม
4 สวนริคุงิเอ็น (Rikugien Garden)
ไฮไลท์เด็ดของการชมใบไม้เปลี่ยนสีที่คุณไม่ควรพลาดก็คือที่ ‘สวนริคุงิเอ็น’ สวยสไตล์ญี่ปุ่นที่มีประวัติเป็นมาอย่างยาวนาน ถูกสร้างขึ้นนานกว่า 300 ปีมาแล้ว ในสมัยเอโดะ ที่ใช้เวลาสร้างนานถึง 7 ปีด้วยกัน และยังคงความงดงามมาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ภายในจะมีต้นเมเปิ้ลมากมาย เมื่อถึงฤดูที่ใบไม้จะเปลี่ยนสี จะมีความหลากหลายของเฉดสีทั้งเหลือง และแดง ทำให้สวนแห่งนี้มีความงดงามราวกับภาพวาด สามารถเข้าชมได้ทั้งในช่วงกลางวัน และกลางคืน ซึ่งทั้งสองช่วงเวลาก็สวย และงดงามไม่แพ้กัน โดยปกติแล้วจะเปิดตั้งแต่ 09.00 – 17.00 น. แต่ในช่วงไลท์อัพ จะเปิดให้เข้าชมรอบสุดท้ายคือ 21.00 น.
5 สวนสาธารณะโยโยกิ (Yoyogi Garden)
ไม่มีที่ไหนในโตเกียวจะเหมาะกับการออกเดทในช่วงฤดูใบไม้ร่วงไปมากกว่า ‘สวนสาธารณะโยโยกิ (yoyogi Garden)’ อีกแล้ว ความโดดเด่นของสวนสาธารณะแห่งนี้คือนอกจากจะมีต้นแปะก๊วยที่ค่อยๆ เปลี่ยนสี จากใบสีเขียวกลายเป็นสีเหลืองสลับแดง หรืออาจจะเป็นสีเหลืองจนเต็มต้น ก็ยังมีใบแปะก๊วยร่วงหล่นอยู่บนพื้น คล้ายกับเป็นพรมที่ถูกถักทอด้วยใบแปะก๊วยเปลี่ยนสี เวลาถ่ายรูปออกมาจะได้ความงดงาม และให้บรรยากาศความโรแมนติกอย่างเป็นที่สุด อีกทั้งสวนแห่งนี้ยังเปิดให้เข้าฟรี และได้รับความนิยมทั้งฤดูชมดอกซากุระบาน และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับทริปนี้ ก็คือที่พัก แนะนำให้จองที่พักโตเกียวกับ Traveloka เพราะในช่วงนั้นนักท่องเที่ยวจะเยอะ ควรจะรีบจองที่พักโตเกียวที่มีทำเลที่ดี ไม่เช่นนั้นอาจจะเสียเวลาเดินทางได้ นอกจากใน Traveloka จะมีที่พักให้เลือกเยอะ ยังมีโค้ดโปรโมชั่นลดราคามาให้ใช้กันตลอด ไม่เว้นแม้แต่ช่วงไฮซีซั่น จะจองเองก็ง่าย สะดวก ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เพิ่มเติม ถ้าเลือกวันเดินทางได้แล้ว ก็อย่ารอช้าไปจองที่พัก และลิสต์จุดชมใบไม้เปลี่ยนสีกันได้เลย