เปรียบเทียบความแตกต่าง iPad 1 vs iPad 2 vs The new iPad (iPad 3)

เปรียบเทียบความแตกต่าง iPad 1 vs iPad 2 vs The new iPad (iPad 3)

เปรียบเทียบความแตกต่าง iPad 1 vs iPad 2 vs The new iPad (iPad 3)
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

iPad 1 vs iPad 2 vs The new iPad (iPad 3) เปรียบเทียบความแตกต่าง iPad 1, iPad 2 และ The new iPad (iPad 3) พร้อมรายละเอียด คุณสมบัติใหม่ ข้อดี ข้อเสีย

เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว สำหรับ iPad รุ่นใหม่ หรือ The new iPad (iPad 3) เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555 ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น. ตามเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือเทียบเท่ากับเวลาประมาณ ตี 1 ของวันที่ 8 มีนาคม 2555 ในประเทศไทย โดยทีมงาน techmoblog ได้ทำการรายงานสดกันไปแล้ว สำหรับท่านใดที่พลาดโอกาสชมการเปิดตัว The new iPad (iPad 3) สามารถดู ภาพบรรยากาศภายในงานเปิดตัว The new iPad (iPad 3) ได้ที่นี่ครับ

แน่นอนว่าหลังจาก เปิดตัว The new iPad (iPad 3) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คำถามที่ตามมาก็คือว่า "ควรจะซื้อ The new iPad (iPad 3) ดีหรือไม่" "มี ไอแพด 2 (iPad 2) อยู่แล้ว ควรจะขายทิ้ง แล้วซื้อ The new iPad (iPad 3) ดีหรือเปล่า" "The new iPad (iPad 3) ดีกว่า ไอแพด 2 (iPad 2) อย่างไร" "ใช้ iPad 1 อยู่ ควรจะซื้อ ไอแพด 2 (iPad 2) หรือ The new iPad (iPad 3) ดี" เว็บไซต์ techmoblog ได้ทำตารางสรุป ความแตกต่างระหว่าง iPad 1, ไอแพด 2 (iPad 2) และ The new iPad (iPad 3) มาดูกันดีกว่าครับ

จากตาราง จะพบว่า iPad ทั้ง 3 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น iPad 1, ไอแพด 2 (iPad 2) และ The new iPad (iPad 3) ยังคงมีขนาดหน้าจอกว้าง 9.7 นิ้วเท่าเดิม โดยเป็นขนาดที่ Steve Jobs เคยระบุว่า เหมาะสมสำหรับอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ต (Tablet)

The new iPad (iPad 3) หน้าจอแบบ Retina Display ความละเอียดมากขึ้น

ถึงแม้ว่า The new iPad (iPad 3)จะยังคงมีขนาดของหน้าจอกว้างเท่าเดิม แต่เมื่อพูดถึงประเภทของหน้าจอแล้ว ถือว่า เด่นเป็นอย่างมากครับ เนื่องจาก The new iPad (iPad 3) นั้น ใช้หน้าจอแบบ Retina Display แบบเดียวกับ iPhone และมีความละเอียดเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่า (ข้างละ 2 เท่า) จากเดิม 1024 x 768 พิกเซล บน ไอแพด 2 (iPad 2) กลายเป็น 2048 x 1536 พิกเซล บน The new iPad (iPad 3) เรียกได้ว่า เห็นชัดกันทุกรูขุมขน ขยายอย่างไร ก็ยังคมชัดครับ

The new iPad (iPad 3) หนักกว่า หนากว่า ไอแพด 2 (iPad 2)

ด้วยคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่า เพราะเหตุใด The new iPad (iPad 3) ถึงได้มีขนาดที่หนาขึ้น และหนักกว่า ไอแพด 2 (iPad 2) เนื่องจาก ขนาดแบบเดิมๆ ไม่สามารถรองรับชิ้นส่วนที่มีคุณภาพขนาดนี้ได้นั่นเอง

The new iPad (iPad 3) มีระบบประมวลผลกราฟฟิคที่แรงขึ้นเท่าตัว

เพื่อรองรับหน้าจอแบบ Retina Display ความละเอียด 2048 x 1536 พิกเซล ทำให้ The new iPad (iPad 3) จำเป็นต้องใช้ ระบบประมวลผลกราฟฟิค หรือ GPU ที่แรงขึ้นกว่า GPU ที่ใช้บน ไอแพด 2 (iPad 2) ครับ โดยระบบประมวลผลกราฟฟิค ที่ใช้บน The new iPad (iPad 3) คือ PowerVR SGX543MP4 GPU ซึ่งเป็น GPU ระดับ Quad-core Processor สามารถรองรับเกมกราฟฟิคหนักๆ ได้อย่างสบายเลยทีเดียว

The new iPad (iPad 3) กล้อง 5 ล้านพิกเซล

ตอบรับผู้ที่ใช้งานที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ด้วยการปรับปรุงกล้องถ่ายรูปด้านหลัง จากเดิม ความละเอียด 0.7 ล้านพิกเซล บน ไอแพด 2 (iPad 2) กลายเป็น กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล บน The new iPad (iPad 3) ครับ ซึ่งมีฟีเจอร์การถ่ายภาพ คล้ายกับบน iPhone 4S เลยทีเดียว อย่างไรก็ดี กล้องบน The new iPad (iPad 3) ไม่มีไฟแฟลชนะครับ

The new iPad (iPad 3) ถ่ายภาพวิดีโอความละเอียดสูงสุดแบบ Full HD 1080p

ปรับความละเอียดในการถ่ายวิดีโอ จากเดิมที่ 720p บน ไอแพด 2 (iPad 2) มาเป็น ความละเอียดแบบ Full HD 1080p บน The new iPad (iPad 3) พร้อมกับการตัดต่อบน iMovie เวอร์ชั่นใหม่ ที่มีความสามารถในการใช้งานเทียบเท่าบน Mac มากขึ้น

The new iPad (iPad 3) รองรับเครือข่าย 4G แล้ว

ถึงแม้ว่า ในบ้านเรา จะยังไม่มีเครือข่าย 4G (แม้กระทั่ง 3G ก็ยังไม่สมบูรณ์) แต่ในต่างประเทศ ได้มีการใช้เครือข่าย 4G กันแล้ว ทำให้ The new iPad (iPad 3) สามารถรองรับเครือข่าย 4G ได้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ดี The new iPad (iPad 3) รุ่น Wi-Fi + 4G ยังสามารถรองรับเครือข่าย 3G ได้อยู่ครับ

อ่านคุณสมบัติใหม่ ฟีเจอร์ สเปค ของ The new iPad (iPad 3) อย่างละเอียด คลิ๊กที่นี่

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ: Techmoblog

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook