คุณสมบัติดีงามของชิลิโคนกันรอย Keyboard

สวัสดีครับชาว Notebook Spec ทุกท่าน วันนี้เรื่องราวยังคงเกี่ยวกับการดูแล Notebook ของท่านเหมือนเดิมครับ แต่คราวนี้ผมจะมามุ่งประเด็นไปที่ของ ที่ต้องสัมผัสมันอยู่เป็นประจำนั้นก็คือ keyboard นั่นเอง แต่ท่านรู้หรือไม่ว่าเวลาที่ท่านใช้มันอยู่ทุกวันทำให้สึกหรอ และ อักษรพยัญชนะเริ่มที่จะลบออกไป เพราะว่านิ้วของเรามีเหงื่อไหลออกอยู่ตลอดเวลา เราจึงรู้สึกถึงความมันของนิ้ว ดังนั้นถ้าเราไม่รู้จักรักษา มันก็จะเสื่อมและสึกหรอเร็ว แล้วยิ่งไปกว่านั้นฝุ่นที่เข้าไปตามช่อง keyboard จะทำให้เข้าไปกัดยางหน้าสัมผัสของมันทำให้เวลาใช้ไปนาน ๆ ปุ่มกดจะกดยากและกดไม่ติดเลยก็ว่าได้ แล้วเราจะทำยังไงกับมันดีล่ะ โดยจะดูแลรักษาให้มันมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่สำหรับผมมีวิธีส่วนตัวที่ดูแลรักษามันได้ ผมจะแนะนำเกี่ยวกับการดูแลรักษาและทำความสะอาดด้วยวิธีนี้ มันก็ได้ผลจริง ๆ ดูยังไงก็ยังใหม่เหมือนเดิม แต่ก่อนอื่นเรามาทำความสะอาดให้มันก่อน

โดยการใช้แปรงมาปัดส่วนที่มีฝุ่นตามช่อง keyboard แนะนำให้ท่านจับ Notebook ของท่านคว่ำลงจากนั้นใช้แปรงปัดตามร่อง ต่อมาสำหรับคนที่ไม่เคยใช้ชิลิโคนป้องกันฝุ่นให้ท่านใช้สำลี หรือ กระดาษทิชชูชุบน้ำสะอาดจากนั้นก็บรรจงเช็ดตามปุ่ม keyboard ทุกปุ่มแล้วท่านจะเห็นว่า คราบและขี้ใครบนปุ่ม keyboard นั้นมันเยอะแค่ไหน

จากนั้นผมจะแนะนำให้ท่านรู้จักกับ ชิลิโคนกันรอย keyboard หรือเรียกอีกอย่างว่า Skin keyboard ซึ่งท่านสามารถหาซื้อได้ตาม IT Zone ในห้างชั้นนำ ราคาของมันก็ประมาณ 90 – 150 บาท ถ้าอย่างดีก็จะอยู่ประมาณ 200 บาทแต่ผมคิดว่าน่าจะหายากเพราะของที่ผมใช้อยู่ตอนนั้นซื้อมา 280 บาทซึ่ง บริษัท Acer เป็นผู้ผลิตเอง แต่ปัจจุบันไม่เห็นมีขายแล้ว

นี่คือหน้าตาของมันครับซึ่งการใช้ก็ไม่ยากอะไรเพียงท่านควรจะทำความสะอาด keyboard ให้ดีก็พอ เอาแบบว่าใหม่ในสายตาของท่านเลย

ภาพที่เห็นไม่ใช่เครื่องของผมเป็นเพียงเครื่องตัวอย่างเท่านั้น พอใส่ไปจะเห็นว่ามันปิดช่องที่ฝุ่นลงได้ดีที่เดียว แต่ข้อดีของมันอีกอย่างคือ ช่วยกันน้ำที่หกใส่ได้แต่ไม่ได้แปลว่าจะกันได้ถึง 100% นะครับเพียงแต่ชั่วครั้ง ชั่วคราวเท่านั้น ข้อควรระวังอย่าให้น้ำหกลงใน keyboard เป็นอันขาด เพราะแผงวงจรของ keyboard Notebook ไม่เหมือนกับ keyboard เครื่อง PC ครับ ถ้ามันโดนคิดไว้เลยว่าเสียแน่นอนและไม่มีช่างคนไหนซ่อมได้ เพราะการแกะออกมาจะไม่สามารถประกอบเข้าไปใหม่ได้ มันจะต้องใช้เครื่องประกอบ ซึ่งในเมืองไทยไม่มีใครลงทุนขนาดนั้นครับ