รีวิว Nokia 5220 Xpress Music มิวสิคโฟนบางๆ ราคาเบาๆ
Nokia 5220 เป็นรุ่นรองท้อปจาก Nokia 5320 แต่ความสามารถไม่ได้รอง โดยจุดที่แตกต่างกันคือเป็น S40 ขนาดที่เล็กว่า Nokia 5320 แบตเตอรี่อึดกว่า ที่สำคัญเสียงดีกว่า ไฟกระพริบขณะเล่นเพลงเหมาะกับคนที่ชอบมือถือ Sport และความแปลกใหม่ ในราคาประหยัดกว่าเดิม
ถ้าคิดจะซื้อ Xpress Music จากสองรุ่นนี้จะซื้อรุ่นไหนดีเพราะ มุมน้ำเงินศิษย์เอสสี่สิบ ก็ไม่ใช่ย่อยทีเดียวเห็นหุ่นผอมบางขนาดนี้ แต่ภายในก็ค่อนข้างมีอะไรดีๆ เยอะเกินกว่าที่คาดไว้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของคุณภาพเสียงที่อาจจะเทียบชั้น iPod Nano ได้ และกล้องถ่ายภาพที่ให้ภาพที่โดดเด่นกว่าตัวแม่อย่าง Nokia 5320 ชนิดเห็นได้ชัด แต่สิ่งที่เหมือนกับมุมแดงลูกเจ้าแม่หกสิบ (Nokia 5320) ก็คือ มีระบบมัลติมีเดียที่ดีเยี่ยมพร้อมกับปุ่มสำหรับควบคุมเพลงทางด้านข้าง ยังไม่หมดเท่านั้นยังมีไฟกะพริบเพิ่มความแนวให้กับมือถืออีกด้วย
Specifications
อาวุธของทางมุมน้ำเงินนั้นถ้าเทียบกันด้วสเปคก็อาจจะสู้ไม่ได้ แต่ถ้าถามว่าสูสีกันไหมก็ต้องเรียกว่าสูสี เช่น กล้อง 2 ล้าน แบตเตอรี่ที่มากขึ้น น้ำหนักที่เบาลง และความสามารถครบครันไม่แพ้มือถือทั่วๆ ไปในตลาดซึ่งสรุปได้ดังนี้
*แก้ไข ระบุชื่อ OS ผิด - Haver
การดีไซน์เครื่องในลักษณะไม่สมดุลนั้น นอกจากจะทำให้เกิดความแตกต่างแล้ว ต้องยอมรับในเรื่องความบางของ Nokia 5220 เพราะรีดทุกอย่างออกไปหมด แม้แต่ฝาหลังยังทำมาพิเศษให้แนบสนิทชิดกับด้านหลังให้มากที่สุด จุดที่แตกต่างอีกอย่างหนึ่งของรุ่น Nokia 5220 คือ การเชื่อมต่อหูฟังทางด้านบน ซึ่งสำหรับผู้เขียนอาจจะไม่ชินบ้างเพราะปกติมักจะอยู่ทางด้านล่างกัน
ด้านหน้า
ด้านหน้าของมือถือรุ่นนี้ออกแบบได้ดีทีเดียว ด้านบนสุดก็จะเป็นช่องลำโพงสนทนา ถัดลงมามียี่ห้อของ Nokia พร้อมรุ่น Xpress Music อันโดดเด่น ล่างลงมาอีกก็จะเป็นจอขนาด 2 นิ้วที่สว่างสดใสมาก ต่อมาคือแผงคีย์บอร์ด และช่องสำหรับห้อยสายคล้องข้อมือ
ด้านหลัง
ด้านหลังนั้นจะเป็นพลาสติกที่ออกแบบให้เป็นหยักๆ มนๆ เพื่อให้จับได้ถนัดไม่ลื่นมือจนเกินไป จุดที่โดดเด่นเห็นชัดคือ กล้อง 2 ล้านพิกเซลพร้อมไฟกระพริบขณะเล่นเพลง และเช่นเดิมยี่ห้อ Nokia ที่เด่นชัด ยังไม่พอยังมีรุ่น Xpress Music ทางด้านล่างอีก ส่วนวงขาวก็เป็นด้านหลังของช่องสำหรับร้อยที่คล้องมือถือนั่นเอง
ด้านซ้าย
เริ่มจากทางด้านบนก็จะมีช่องสำหรับต่อชาร์จแบตเตอรี่ ถัดมาเป็นปุ่มเลือกเพลงซึ่งก็จะมีปุ่มเลื่อนเพลงไปข้าหน้า เลื่อนเพลงถอยหลัง และปุ่มสำหรับเล่นหรือหยุดเพลง
ด้านขวา
ทางด้านขวากันบ้าง ด้านขวาจากด้านบนผู้อ่านจะพบกับปุ่มสำหรับเพิ่มและลดเสียงเพลง ถัดลงมาทางด้านล่าสุดเลยก็จะเป็นช่องสำหรับเพิ่มเมมโมรี่แบบ Flash ซึ่งตัวนี้เพิ่มได้ 2GB
ด้านบน
ด้านบนของของ Nokia 5220 จะประกอบด้วยจุดเชื่อมต่อมากมาย เริ่มต้นจากทางซ้ายจะเป็นช่องสำหรับเชื่อมต่อ USB แบบ MicroUSB ซึ่งต้องควานหาสายแบบใหม่นี้ยากหน่อย ส่วนถัดมาเป็นช่องสำหรับหูฟังแบบ 3.5mm มาตรฐานจะต่อกับหูฟัง 20 บาท หรือ Grado MS-1 ก็คงไม่มีปัญหา ถัดไปก็จะเป็นปุ่มสำหรับปลดล็อคฝาหลัง โดยจะยกตัวขึ้นนิดนึง จากนั้นก็ค่อยๆ เปิดออกก็จะสามารถเปิดฝาหลังได้
ด้านล่าง
ด้านล่างนั้นไม่มีอะไรเลยนอกจากช่องสำหรับแขวนที่คล้องมือ
การใส่ซิมการ์ด
สำหรับช่องใส่ซิมการ์ดของ Nokia 5220 นั้น มีระบบล็อคที่ชาญฉลาดมาก โดยจะสอดมาทางด้านเดียวกับเมมโมรี่การ์ด นอกจากนี้เมื่อประกอบแบตเตอรี่เข้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซิมการ์ดจะถูกล็อคโดยอัตโนมัติโดยกระเดื่องที่ถูกแบตเตอรี่ดันมาด้วย เป็นวิธีล็อคซิมที่ฉลาดดีน่าชมเชย
การใส่การ์ดหน่วยความจำ
ช่องใส่เมมโมรี่การ์ดจะอยู่ทางด้านล่างขวามือ ซึ่งเปิดปิดได้ง่าย การถอดใส่การ์ดทำได้สะดวกและรวดเร็ว เมมโมรี่การ์ดแบบ MicroSD ใส่ได้สูงสุด 2GB
ช่องเสียบหูฟัง
ช่องต่อหูฟังทางด้านบน อาจจะคล้ายกับเครื่องเล่น MP3 แต่เมื่อใส่กระเป๋าแล้วจะสะดวกกว่าแบบหูฟังอยู่ทางด้านล่าง แต่ก็อาจจะมีเกะกะบ้างในบางครั้งสำหรับตัวแจ็ค
หน้าจอของ Nokia 5220 นั้นนอกจากที่จะสวยงามสดใส เมนูต่างๆ แตกต่างจากสมัย S40 ที่ผู้เขียนเคยรู้จัก เนื่องจากระบบทั่วๆ ไปก็คล้ายคลึงกับ S60 มาก เมนูต่างๆ ถูดจัดเรียงในลักษณะเดียวกับ S60 ที่สำคัญสามารถเลือกรูปแบบเมนูต่างๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย
จากนันผู้เขียนก็ได้ทดลองฟังก์ชั่นของการถ่ายภาพ มีจุดสังเกตคือ ถ้าเป็นแนวตั้งก็ต้องถ่ายด้วยโหมดแนวตั้ง ถ้าเป็นแนวนอนก็ต้องถ่ายด้วยโหมดแนวนอน ซึ่งทำให้เสียเวลาในการเลือกไปบ้าง ส่วนเอฟเฟคต่างๆ เกี่ยวกับรูปภาพสามารถปรับแต่งได้หลากหลายไม่แพ้ S60 เลย ที่สำคัญการเปิดดูภาพต่างๆ นั้นค่อนข้างรวดเร็ว
นอกจากนี้การเล่นเน็ตโดยใช้โปรแกรมในเครื่อง ก็ออกมาดีและชัดเจน โปรแกรมปฏินก็มี 4 แถวเหมือนกับปฏิทินของจริง ส่วนเครื่องคิดเลขผู้เขียนภูมิใจนำเสนอมาก เพราะนอกจากจะเปลี่ยนไปจากเดิมแล้ว ยังสามารถกดปุ่มได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เพราะจะเหมือนกับมือถืออื่นๆ ในตลาด
เกมของ Nokia 5220 นั้นก็จะคล้ายคลึงกับ Nokia 5320 โดยมีเกม City Bloxx, Guitar Rock Tour, Rally 3D และ Snake III แต่ผู้เขียนก็ลองนำเกมอื่นๆ เช่น PGR ที่ค่อนข้างกินเครื่องเยอะๆ ก็พบว่าเล่นได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
บทสรุป
บทสรุปสำหรับการใช้งานปกติ ต้องยอมรับว่าแม้จะเป็นมวยรอง Nokia 5220 แต่กลับทำคะแนนได้ดีจนน่าตกใจ เช่น แบตเตอรี่ที่อึดกว่า ปุ่มควบคุมที่กดได้ง่าย เสียงคุยสูสีกันกับ Nokia 5320 การใช้เป็น Organize นั้นก็ทำได้ดีในสไตล์ S40 ที่เด็ดกว่านั้นก็คือ ไม่มีปัญหาเรื่องแฮงค์เลยไม่ว่าจะฟังเพลงพร้อมกับเล่นเกมไปด้วย ฉะนั้น Nokia 5220 เป็นอีกรุ่นที่นอกจากจะบาง ราคาถูก นำมาใช้งานเป็นโทรศัพท์ทั่วๆ ไป ก็ไม่งอแงแต่อย่างใด
ส่วนเรื่องเสียงนั้นผู้เขียนได้กล่าวไปแล้ว ว่าถ้าเทียบกับ Nokia 5320 แล้ว ตัวนี้ดีกว่า ยิ่งเมื่อต่อเข้ากับแอมป์ก็จะทำให้ Soundstage กว้างมากขึ้นไปอีก แต่ถ้าต่อหูฟังแบบปกติ ก็ยังคงรับรู้ได้ถึง Soundstage บ้าง เสียงเบสอาจจะไม่แน่นเท่ากับรุ่น Nokia 5320 แต่ก็ไม่ได้แย่ ขณะเดียวกันกลับมี Stage ที่กว้างกว่า เสียงใสไปได้สุดกว่า แต่เบสก็จะไม่มากนัก (ซึ่งผู้เขียนชอบ) โทนเสียงเหมาะกับการฟัง Live Concert, Jazz หรือ Classical Music
แล้วกล้องล่ะเป็นอย่างไรบ้าง กล้องแม้จะไม่มีแฟลช แต่ผู้เขียนรู้สึกว่าทำได้ดีกว่า Nokia 5320 ให้สีสันเป็นธรรมชาติมากกว่าไม่ผิดเพี้ยน แต่เสียอย่างคือ ใช้เวลาในการบันทึกภาพนานเกินไป หากต้องการถ่ายภาพที่สองต้องรอกันพักหนึ่งทีเดียว แต่ถ้ารวมๆ ผมให้คะแนนเยอะเลยครับ เพราะผมแคร์คุณภาพของภาพมากกว่า (ซะงั้น)
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก Nokia 5220
โดยสรุปแล้ว
โดยสรุปแล้ว Nokia 5220 คือ มือถือที่เหมาะกับผู้อ่านที่ไม่ต้องการอะไรมาก มือถือใช้ง่าย ฟังเพลงเพราะ ถ่ายรูปสวยๆ และมี Life Style แบบ Sport ชอบอะไรที่แตกต่าง ผู้เขียนก็ขอแนะนำรุ่นนี้เลย เพราะราคาเปิดตัวกลับถูกซะยิ่งกว่า Nokia 5320 อีก ในฟังก์ชั่นที่ครบครันใกล้เคียงกัน
จุดเด่น
1. หูฟัง 3.5 mm คุณภาพเสียงใสดี
2. ปุ่มกดต่างๆ กดได้ง่าย
3. กล้องถ่ายภาพได้ดี คมชัด สีสวย
4. เครื่องบางมาก ออกแบบได้สวยงาม
5. ไม่ค่อยแฮงค์
ข้อสังเกต
1. บันทำภาพช้ามากเกินไป ถ่ายช็อตสองไม่ทัน
2. เมื่อเครื่องถูกล็อค ก็ใช้ปุ่มควบคุมเพลงไม่ได้
3. ไฟกระพริบขณะเล่นเพลง ไม่ค่อยน่าตื่นเต้น
++คลิก!!เลยสเปกเครื่องแบบเต็ม ๆ++
อัลบั้มภาพ 25 ภาพ