รีวิว LG KG320

รีวิว LG KG320

รีวิว LG KG320
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
แม้ว่าแรกเห็นเจ้า LG KG320 เครื่องนี้ในครั้งแรก อาจจะทำให้รู้สึกติดใจไม่น้อยกับรูปทรงที่ดูแปลกๆ ทำให้นึกถึงเครื่องคิดเลข ยังไงบอกไม่ถูก อาจจะด้วยความเล็ก บางกับขนาด 95.5 x 45 x 9.9 มิลลิเมตร นี่ก็เป็นได้ จึงทำให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น แต่เมื่อได้ลองสัมผัส ใช้งานเครื่องแล้วความรู้สึกเมื่อแรกเห็นหายไปสิ้น เพราะว่าความสวยงาม และความพิถีพิถันในการเลือกใช้วัสดุตัวเครื่องที่ถือว่าดีมีคุณภาพ ไม่ใช่พลาสติกเกรดต่ำธรรมดา อย่างในบางรุ่นที่เค้ามักใช้กัน ตัวเครื่องแน่นหนา คงทนและให้สัมผัสที่รู้สึกสบายมือขณะจับถือใช้งาน แถมยังใช้โลหะมาเป็นฝาหลังด้วย โดยลักษณะการใช้งานเด่นๆ จะเน้นไปที่ลักษณะของการถ่ายภาพมากกว่าด้วยการใช้กล้องถ่ายรูปโดยการเลื่อนฝาปิดหน้ากล้องที่อยู่ด้านหลังเครื่องได้คล้ายกล้องดิจิตอลขนาดเล็กมากที่สุด และยังให้ลักษณะการจับถือเพื่อถ่ายรูปได้ใกล้เคียงกับกล้องดิจิตอลกันเลยทีเดียว แถมด้วย ที่สำคัญสุดๆ ก็คือภายในตัวเครื่องนั้นยังบรรจุแต่สิ่งดีๆ เต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น หน้าจอ ส่วนของจอแสดงผลนั้นจะเป็นแบบ TFT-LCD ความละเอียดสูง สามารถตอบสนองการแสดงผลต่างๆได้คมชัดสุดๆ ที่ระดับ 262,144 สี ขนาด 176 x 220 พิกเซล หรือความกว้างมาตรฐานถึง 2 นิ้ว (QCIF) ทีเดียว ให้ความสามารถแสดงผลการทำงาน ได้อย่างละเอียดสวยงาม คมชัดทุกเฉดสี ตอบสนองได้ดีแม้จะใช้งานกลางแจ้ง แสงแดดจ้าเพียงใดก็ตาม คุณจะเห็นได้ชัดในทุกรายละเอียดได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน รวมถึงการแสดงรายละเอียดต่างๆ ได้อย่างครบถ้วน ทั้งนาฬิกาบอกเวลา, วันที่/เดือน/ปี, ชื่อเครือข่าย, ข้อความทักทายกลางจอ หรือ Standby Text (ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกตั้งข้อความได้เองตามใจชอบ), สัญญาณเครือข่าย, แบตเตอรี่ และ รายละเอียดต่างๆ รวมถึงแถบบาร์เมนูสำหรับการใช้งานปุ่มควบคุมเมนูต่างๆด้วย นอกจากนี้แล้วจอภาพของ LG Chocolate Phone ยังสามารถให้ผู้ใช้ได้ปรับตั้งค่าต่างๆ บนหน้าจอได้ เองตามใจชอบด้วยไม่ว่าจะเป็น การเลือกภาพพื้นหลัง (Wallpaper) ที่มีให้เลือกในเครื่อง หรือดาวน์โหลดเพิ่มเติมได้เอง, รูปแบบเมนู (Menu colour) มีให้เลือกหลายแบบตามสไตล์ที่แตกต่างกันไปของผู้ใช้งาน, ตั้งระยะเวลาแสงไฟหน้าจอ (Backlight) ได้ตั้งแต่ 10, 20, 30 และสูงสุด 60 วินาที, เลือกตั้งค่าความสว่างของจอภาพ (Brightness) ได้หลายระดับ, เลือกเปิด-ปิดการแสดงชื่อเครือข่ายบนหน้าจอ (Network name), เลือกเปิด-ปิดการแสดงเมนูกลางหน้าจอได้ (Home screen shortcut) รวมไปถึงการเพิ่มความสดใสมีสีสันด้วยตัวเลขสีขณะกดหมายเลขเพื่อโทรออก (Dial font colour) ก็ได้ด้วยเช่นกัน รูปแบบเมนู สำหรับเครื่องที่นำมาทดสอบนี้จะมีให้เลือกใช้มากมายทั้ง อังกฤษ, และภาษาในแถบยุโรปตอนเหนือ (รัสเซีย, โปแลนด์, ลัทเวีย เป็นต้น) แต่จะไม่มีเมนูไทยมาให้ โดยเราสามารถตั้งค่าภาษาเมนูได้โดยการเลือกเข้าที่เมนู (Menu) > ตั้งค่า (Setting) > ภาษา (Language) นอกจากนี้แล้วรูปแบบเมนูนั้นจะแสดงเป็นรูปไอคอนสีสันสวยงามแปลกตา พร้อมทั้งการแสดงแว่นขยายแบบสี ที่จะเลื่อนไปตามเมนูที่เราต้องการจะเลือก นอกจากนี้รูปแบบเมนูนี้ยังสามารถให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงเมนูที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วด้วยการกดไปที่ตัวเลขบนปุ่มกด (ให้สังเกตที่ไอคอนเมนูจะมีตัวเลขกำกับอยู่) อยากเข้าเมนูไหนให้กดเลขนั้น ส่วนการเลื่อนเพื่อเลือกเมนูนั้นจะเป็นการเลื่อนได้ทั้งซ้าย-ขวา หรือเลื่อนขึ้น-ลงก็ได้ ส่วนเมนูหลักๆนั้นจะมีอยู่ทั้งหมด 12 เมนูด้วยกันได้แก่ - Games & Apps สำหรับเข้าใช้งานเล่นเกม และแอ็ปพลิเคชั่นที่ดาวน์โหลดมาต่างๆ - Contacts สำหรับเข้าดู และทำรายการในสมุดโทรศัพท์ - Organiser เมนูสำหรับเข้าใช้งานเครื่องมือเลขา และตารางงานต่างๆ - Multimedia เมนูนี้สำหรับการเลือกใช้เครื่องมือมีเดียต่างๆ - Messages เมนูข้อความ สำหรับการใช้งาน สำหรับการรับส่งข้อความต่างๆ - My stuff เมนูแฟ้มส่วนตัวรวบรวมเครื่องมือสำหรับการใช้งาน เครื่องมือมีเดีย และข้อความมากมาย - Display สำหรับใช้ตั้งค่าใช้งานต่างๆ ของหน้าจอ - Profiles เป็นเมนูสำหรับการเลือกรูปแบบการเตือนตามสภาวะแวดล้อมที่ต่างกัน - Tools เมนูเครื่องมือส่วนตัว ที่มีให้ใช้มากมายรวมถึง โมเด็ม (Modem) ด้วย - Browser เมนู บริการ สำหรับการเข้าใช้งานเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ทั้งหลายแหล่ - Call register เมนูข้อมูลการโทร สำหรับการเลือกดู จัดการรายการโทร และใช้สายต่างๆ - Settings เมนู การตั้งค่า สำหรับการเลือกตั้งค่าต่างๆในเครื่อง เสียงเรียกเข้า นอกจากเสียงเพลงในระดับ 64 โพลีโฟนิกแล้ว ยังสามารถนำเพลง MP3 มาตั้งเป็นเสียงเรียกเข้าได้ด้วย รวมไปถึงการตั้งรูปแบบการเตือนได้หลากหลายรูปแบบทั้งสั่นอย่างเดียว, เงียบ, ปกติ, เสียงดัง และ ใช้กับชุดหูฟัง นอกจากนี้แล้วการตั้งเสียงเตือนนั้นยังสามารถให้ผู้ใช้ได้เลือกเสียงเพลงในแบบ MIDI, IMR ที่อยู่ในเครื่องได้มากมายอีกด้วย สมุดโทรศัพท์ สามารถลงบันทึกรายการเพิ่มเบอร์และเลขหมายโทรศัพท์ได้ทั้งในตัวโทรศัพท์ หรือจะเลือกบันทึกลงในซิมการ์ด (SIM) ก็ได้ ตามแต่ที่ผู้ใช้ถนัด โดยหากเลือกบันทึกลงซิมจะสามารถบันทึก ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ตั้งกลุ่มผู้โทร และใส่ภาพโทรเข้า (Phonebook picture) ได้ด้วย นอกจากนี้การบันทึกลงเครื่องนั้นสามารถเลือกบันทึกแยกลงรายการบันทึกหมายเลขหลัก (Main number) ได้ทั้งแบบ เบอร์มือถือ (Mobile), เบอร์บ้าน (Home), เบอร์สำนักงาน (Office) นอกจากตั้งเบอร์หลักแล้วยังสามารถใส่ E-mail และ Fax ได้ด้วย รวมถึงใส่ภาพโทรเข้า และ ตั้ง Speed dial สำหรับการตั้งเบอร์โทรด่วนบนปุ่มตัวเลข 2-9 ได้ด้วยเพื่อช่วยให้สะดวกขึ้นสำหรับการติดต่อที่ต้องการความฉับไว นอกจากนี้แล้วผู้ใช้ยังสามารถ ตั้งค่า นามบัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือ My business card สำหรับการแลกเปลี่ยนนามบัตรผ่านโทรศัพท์ไปให้ผู้อื่นได้ด้วย ถือเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์นามบัตรแบบเดิมๆ ไปได้เยอะทีเดียว การเชื่อมต่อ มีทั้งการโอนถ่ายข้อมูลผ่าน Bluetooth เวอร์ชั่น 1.2 หรือหากต้องการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตก็ทำได้ด้วย WAP 2.0/xHTML Browser ผ่าน GPRS Class 10 หรือจะเชื่อมต่อผ่าน Modem ในตัวก็ได้ด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ยังรองรับการส่งข้อความรูปแบบ SMS, MMS, EMS และ Email ได้รวมถึงการรองรับแอ็ปพลิเคชั่นแบบ Java MIDP 2.0 ได้อย่างครบถ้วน กล้องถ่ายรูป ระดับ 1.3 ล้านพิกเซล กับขนาดสูงสุดถึง 1280 x 960 พิกเซล มาพร้อมกับระบบซูมดิจิตอล 4 เท่า (Digital zoom 4x) สามารถบันทึกได้ทั้งภาพนิ่งและวิดีโอเคลื่อนไหวพร้อมเสียง เลือกเข้าใช้งานได้โดยเลือกผ่านเมนูมัลติมีเดีย หรือกดเข้าใช้งานที่ปุ่มชัตเตอร์ที่อยู่ด้านข้างเครื่องก็ได้ ส่วนการปรับตั้งหน้ากล้องนั้นมีมาให้ทั้งการตั้งค่าความสว่าง (Brightness), เลือกขนาดของภาพได้หลายขนาด (Size), เลือกไทม์เมอร์สำหรับตั้งเวลาถ่ายภาพ, เลือกคุณภาพของภาพถ่าย (Quality), ตั้งสมดุลแสงสีขาว (White Balance), เลือกโหมดถ่ายภาพนิ่ง (Still shot) หรือถ่ายแบบต่อเนื่อง (Multi shot), ถ่ายภาพนิ่งและเลือกการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ และยังเพิ่มสีสันให้กับภาพถ่ายด้วยฟิลเตอร์ 4 แบบ Night / Sepia / Black & white / Negative, เลือกเปิด-ปิดไฟแฟลช นอกจากนี้แล้วการบันทึกภาพแบบวิดีโอพร้อมเสียง (MPEG4, 3GP, H.263) นั้นสามารถปรับตั้งโหมดการถ่ายภาพได้เช่นกัน ทั้งการเลือกเวลาสำหรับความยาวต่อการบันทึก, เลือกขนาดภาพได้เฉพาะขนาด 128 x 96 และ 176 x 144 พิกเซล ส่วนการปรับตั้งรายละเอียดอื่นๆ นั้นสามารถใช้การปรับตั้งได้เหมือนกับการถ่ายภาพนิ่ง นอกจากนี้ยังสามารถชมภาพถ่ายวิดีโอผ่านเครื่องเล่น Video playbackได้ด้วย หรือหากต้องการบันทึกเฉพาะเสียง ก็สามารถทำได้โดยใช้เครื่องบันทึกเสียง (Voice recorder) ที่มีมาให้ในตัวได้ด้วยเช่นกันเข้าใช้งานเมนูกล้องได้ง่าย โดยการเลื่อนฝาปิดหน้ากล้องลง ก็สามารถใช้งานได้ทันที เครื่องเล่นเพลง มีมาให้ใช้อย่างเครื่องเล่นเพลง MP3 / AAC / AAC+ / AAC++ / WMA คุณภาพสูง พร้อมโหมดเลือกปรับตั้งมากมาย ทั้งการเลือกรูปแบบของ Equalizer ในแบบ Rock / Jazz / Bass / Classic / Pop / General, เลือกโหมดการเล่น (Play mode) ได้ทั้งแบบ Play all / Repeat all / Repeat one, เลือก Area repeat, เลือกดูรายการเพลง (View play list), เลือกการตั้งสุ่มการเล่น (Shuffle) รวมไปถึงการตั้งค่า หน้าตาของเครื่องเล่นเพลง (Visual effect) ได้ถึง 3 แบบแตกต่างกันไปทั้งแบบ Rainbow / Basic / Blue หน่วยความจำ ภายในตัวมีพื้นที่หน่วยความจำรองรับอยู่ถึง 128MB แบบใช้ร่วมกัน (Share Memory) ซึ่งเพียงพอสำหรับการจัดเก็บข้อมูลได้อย่างเหลือเฟือทีเดียว หากจะกล่าวโดยสรุปแล้วดูเจ้า LG KG320 แสนบางเครื่องนี้จะเน้นลักษณะการใช้งาน ในสไตล์แบบง่ายๆ มากว่า ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของทั้งกล้องถ่ายรูป และวิดีโอ หรือแม้แต่การพกพานำติดตัวไปใช้งาน แถมยังมีเครื่องเล่นเพลงและความสามารถอื่นๆ อย่างการเชื่อมต่อ ทั้ง Bluetooth, WAP/xHTML Browser, GPRS อย่างครบครัน เรียกว่าหากใครที่ต้องการใช้โทรศัพท์มือถือที่ใช้งานง่าย แถมยังได้ความสวยงามแปลกตา สะดวกในการพกพาแล้วละก็ LG KG320 เครื่องนี้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจทีเดียว เอื้อเฟื้อเครื่องทดสอบ : บริษัท แอลจีมิตร อีเลคทรอนิคส์ จำกัด

สนับสนุนเนื้อหาโดย

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ

อัลบั้มภาพ 22 ภาพ ของ รีวิว LG KG320

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook