แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที

แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที

แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
ฐานเศรษฐกิจ : เอทีซีเอ็มเผยตลาดตื่นกระแสคอมพ์ไอซีทีเกินคาด ระบุตัวเลขจอง ณ วันที่ 18 พ.ค. 108,000 เครื่อง คาดถึงกำหนดสิ้นสุดการจองยอดวิ่ง 150,000 เครื่อง ล่าสุดเตรียมประชุมผู้ผลิตชิ้นส่วนสัปดาห์นี้ หมายเดินเครื่อง โครงการระยะถัดไป ย้ำให้สิทธิ์ผู้ผลิตรายเก่าแบ่งเค้กหมื่นล้านบาทก่อน ด้านซัพพลายเออร์ประกาศลั่นพร้อมเดินหน้าหนุนโครงการคอมพ์ไอซีทีต่อถึงจุดหมาย 1 ล้านเครื่อง นายพิสิฐ พฤกษานุศักดิ์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ไทย หรือเอทีซีเอ็ม เปิดเผยว่า ขณะนี้คอมพิวเตอร์ไอซีที ได้รับการตอบรับจากกลุ่มประชาชนทั่วไปเป็นอย่างมาก โดยมียอดการจองคอมพิวเตอร์ไอซีทีที่ผ่านการพิจารณา ณ วันที่ 18 พฤษภาคม 2545 แล้ว 77,000 เครื่อง จากยอดการจองทั้งหมด 108,000 เครื่องทั้งนี้เมื่อถึงกำหนดสิ้นสุดการจอง คือ วันที่ 30 พฤษภาคม 2546 คาดว่ายอดจองจะถึง 150,000 เครื่อง เนื่องจากขณะนี้มีกลุ่มโรงเรียน และกลุ่มธุรกิจขนาดกลางและเล็กติดต่อมายังกระทรวงไอซีทีโดยตรงเพื่อจัดซื้อคอมพิวเตอร์โครงการดังกล่าวอยู่ ซึ่งคาดว่าน่าจะมียอดจองอยู่ที่ประมาณ 30,000-50,000 เครื่อง ส่วนในการส่งสินค้านั้นขณะนี้ได้มีการประชุมร่วมกับการสื่อสารแห่งประเทศไทย และผู้ผลิตชิ้นส่วนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะพร้อมส่งสินค้าให้กับผู้จองในโครงการระยะแรกได้ในวันที่ 1 กรกฎาคม 2546 นี้ ด้านนายพลากร จิรโสภณ กรรมการบริหาร สมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย หรือเอทีซีเอ็ม กล่าวเสริมว่า สมาคมจะมีการเรียกประชุมผู้ผลิต และตัวแทนจำหน่ายชิ้นส่วนประกอบทั้งรายใหม่และรายเก่า เพื่อดำเนินการคัดเลือกชิ้นส่วนเข้ามาผลิตคอมพิวเตอร์ไอซีที ระยะต่อไปภายในสัปดาห์นี้ โดยในการคัดเลือกชิ้นส่วนประกอบคอมพิวเตอร์ไอซีทีระยะถัดไปนั้น จะให้สิทธิ์กับผู้ผลิตชิ้นส่วนที่ให้การสนับสนุนโครงการระยะแรกก่อน ซึ่งหากผู้ผลิตชิ้นส่วนในโครงการระยะแรกไม่พร้อมให้การสนับสนุนโครงการต่อไป ก็จะเปิดให้ผู้ประกอบการรายใหม่เสนอราคาเข้ามา โดยสมาคมจะ พิจารณาจากผู้ประกอบการที่เสนอราคาที่ต่ำสุด แต่คุณภาพดีที่สุดเข้ามา ส่วนนายอนันต์พล นนทพันธุ์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัทเซอร์เว็กซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า บริษัทได้เข้าไปสนับสนุนส่วนประกอบคอมพิวเตอร์โครงการคอมพิวเตอร์ไอซีทีของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในส่วนของหน่วยความจำ หรือแรม ยี่ห้อ Apacer ความเร็ว 128 เค อย่างไรก็ตามไม่สามารถเปิดเผยถึงราคาของสินค้าที่ชัดเจนที่เสนอเข้าสนับสนุนโครงการได้ โดยสินค้ามีราคาต่อชิ้นประมาณ 800- 900 บาท ส่วนการส่งสินค้าป้อนให้กับโครงการ ขณะนี้ได้เตรียมเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยสินค้าล็อตแรกจะมีจำนวนประมาณ 20,000 ชุดซึ่งบริษัทจะทยอยส่งสินค้าให้กับทางผู้ผลิตสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทย (ATCM) ให้ครบตามกำหนดการจองภายใน 45 วัน นอกจากนี้บริษัทยังมีแผนให้การสนับสนุนโครงการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง หากโครงการดังกล่าวมีการขยายจำนวนออกไปตามเป้าหมายที่รัฐบาลตั้งเป้าไว้ คือ 1 ล้านเครื่อง แม้ว่าขณะนี้ชิ้นส่วนที่บริษัทให้การสนับสนุน คือ หน่วยความจำแบบเอสดีแรม อยู่ระหว่างการยกเลิกการผลิต โดยบริษัทพร้อมจะเจรจากับโรงงานผลิตต่างๆ ป้อนให้กับโครงการ หรือหาก โครงการมีการปรับสเปกส่วนประกอบเป็นหน่วย ความจำเป็นแบบดีดีอาร์ แรม บริษัทก็พร้อมจัดหาสินค้าป้อนให้กับโครงการเช่นเดียวกัน ขณะที่นายเอกรัศมิ์ อวยสินประเสริฐ กรรมการผู้จัดการบริษัทอินเทล ไมโครอิเล็กทรอนิกส์(ไทยแลนด์ ฯ กล่าวว่า ขณะนี้มีความพร้อมจัดส่งตัวประมวลผล อินเทล เซลเลอรอน ความเร็ว 1 กิกะเฮิรตซ์ ป้อนให้กับโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีที อย่างไรก็ตามต้องรอกำหนดการการจัดส่งสินค้าที่ชัดเจนจากทางสมาคมอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ไทยอีกครั้งหนึ่งซึ่งคาดว่าจะมีการกำหนดออกมาภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า ส่วนบริษัทจะให้การสนับสนุนโครงการต่อไปอีกหรือไม่นั้นต้องขอพิจารณาจากตัวเลขการจองหลังวันที่ 30 พฤษภาคมซึ่งเป็นวันจองวันสุดท้ายก่อน ส่วนนายกรันฑ์ ร่วมสุขผู้จัดการฝ่ายการตลาด กลุ่มธุรกิจสินค้าไอที บริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอความชัดเจนของโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีทีในระยะถัดไปอยู่ก่อนจะตัดสินใจให้การสนับสนุนต่อไปหรือไม่ เนื่องจากในโครงการระยะถัดไป อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนชิ้นส่วนบางอย่าง อาทิ หน่วยความจำแบบเอสดี ที่ผู้ผลิตกำลังจะยกเลิกการผลิตมาใช้หน่วยความจำแบบดีดีอาร์แรมแทน ซึ่งถึงแม้ว่าหน่วยความจำแบบดีดีอาร์แรมจะมีราคาใกล้เคียงกับเอสดีแรม แต่เมนบอร์ดที่รองรับการทำงานของดีดีอาร์แรม มีราคาแพงกว่า ซึ่งยังไม่แน่ใจว่าจะส่งผลต่อราคาเครื่องหรือไม่ ทั้งนี้อาจต้องรอทางกระทรวงไอซีที และผู้ประกอบการ สรุปสเปกที่แน่นอนออกมาก่อนอย่างไรก็ตามนโยบายหลักของบริษัทนั้นพร้อมให้การสนับสนุนโครงการของภาครัฐอย่างเต็มที่ "ต้องบอกตามตรงว่าโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีทีเฟสแรก ที่เราเข้าไปให้การสนับสนุน เราขาดทุนโดยเราเอางบการตลาดเข้ามาช่วยเพื่อให้คนไทยได้มีโอกาสใช้คอมพิวเตอร์มากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าในอนาคตหลังการเกิดโครงการนี้แล้วผู้ใช้มีการใช้งานมากขึ้น ต้องการกราฟิกสูงขึ้น มอนิเตอร์ที่ใช้งานอยู่ 15 นิ้วอาจจะไม่เพียงพอ โดยอาจมีความต้องการเปลี่ยนเป็นจอขนาด 17 นิ้ว ซึ่งเมื่อถึงตรงนั้นเราอยากให้ผู้ใช้คอมพิวเตอร์โครงการนี้คิดถึงแบรนด์ซัมซุงเป็นแบรนด์แรก ส่วนจะให้การสนับสนุนโครงการในเฟสต่อไปหรือไม่นั้นขณะนี้คงต้องดูความชัดเจนของโครงการก่อน ขณะที่แหล่งข่าวจากวงการผู้ประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์รายหนึ่ง กล่าวว่า ราคาของชิ้นส่วนประกอบที่ผู้ผลิตแต่ละรายเสนอให้ การสนับสนุนกับโครงการคอมพิวเตอร์ไอซีทีนั้นเป็นราคาพิเศษจริงๆ ซึ่งโดยเฉลี่ยมีราคา ต่ำกว่าท้องตลาดทั่วไปประมาณ 20% อย่างไร ก็ตามไม่สามารถเปิดเผยโครงสร้างราคาชิ้นส่วน ที่ผู้ผลิตแต่ละรายเสนอราคาเข้ามา เพราะอาจมีผลกระทบกับราคาตลาด โดยชิ้นส่วนประกอบหลัก อาทิ ตัวประมวลผล อินเทลเซล-เลอรอน ความเร็ว 1 กิกะเฮิรตซ์ มีราคาประ-มาณ 1,300-1,500 บาท, จอภาพ ขนาด 15 นิ้ว มีราคาประมาณ 2,800-3,000 บาท หน่วยความ จำมีราคา 800-900 บาท และฮาร์ดดิสก์ ขนาดความจุ 20 กิกะไบต์ มีราคาประมาณ 2,000 บาท สำหรับในส่วนของผู้ประกอบการนั้นจะมีรายได้จากการแบ่งรายได้จากอินเทล ซึ่งเป็นผู้ผลิตตัวประมวลผลป้อนให้กับโครงการเครื่องละประมาณ 400 บาท โดยหากผลิตเครื่องได้ตามที่รัฐบาลตั้งเป้า ผู้ประกอบการจะมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท ส่วนยอดเม็ดเงินรวมของโครงการนั้นหากรัฐบาลสามารถผลักดันโครงการให้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 ล้าน เครื่อง จะทำให้เกิดเม็ดเงินสะพัดในวงการมากกว่า 10,000 ล้านบาท

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ

อัลบั้มภาพ 3 ภาพ ของ แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที

แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที
แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที
แบ่งเค้กหมื่นล้านคอมพ์ไอซีที
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook