นักวิเคราะห์เตือน มหันตภัยแห่งหน่วยความจำแบบพกพา

นักวิเคราะห์จากการ์ตเนอร์ เปิดเผยรายงานเกี่ยวกับเครื่องเล่นเพลงดิจิตอล หน่วยความจำแบบพกพา สินค้า Gadget ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างสูงอยู่ในขณะนี้ว่ามีความเสี่ยงที่จะถูกแพร่เชื้อไวรัสคอมพิวเตอร์ใส่เช่นกัน เนื่องจากความไฮเทคทันสมัยของเทคโนโลยีที่อุปกรณ์เหล่านี้นำมาใช้ สถาบันวิจัยการ์ตเนอร์ได้เปิดเผยรายงานเรื่อง "How To Tackle the Threat from Portable Storage Devices" หรือ "อันตรายอันเกิดจากการใช้อุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบแบบพกพา" ดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเป็นการวิเคราะห์ภัยอันตรายอันอาจจะเกิดจากหน่วยความจำดิจิตอลต่อระบบเน็ตเวิร์กขององค์กร รักเจโร กองตู นักวิเคราะห์จากการ์ตเนอร์ได้เคยเขียนรายงานเกี่ยวกับช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 2000 ที่เขาค้นพบ และเป็นผู้เขียนรายงานเกี่ยวกับภัยจากเครื่องเล่นเพลงดิจิตอลในครั้งนี้ได้อ้างว่า การจู่โจมของไวรัสซึ่งเรียกว่า "Malware" นี้จะมาพร้อมกับหน่วยความจำแบบพกพาได้ เครื่องเล่นเพลงดิจิตอล หรือแม้กระทั่งกล้องดิจิตอล ซึ่งไวรัสเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องหาช่องโหว่จากระบบปฏิบัติการหรือระบบเน็ตเวิร์กแต่อย่างใด เพราะผู้ใช้ซึ่งเป็นพนักงานในองค์กรสามารถที่จะถือมันเข้ามาได้อย่างอิสระเสรี และเสียบมันเข้ากับพอร์ตยูเอสบีของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้เลยทันที และไวรัสเหล่านั้นก็จะสามารถขโมยข้อมูลต่าง ๆ ขององค์กรไปได้อย่างง่ายดาย โจ วิลคอกซ์ (Joe Wilcox) นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยจูปิเตอร์กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวนี้ว่าไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใด เพียงแต่ในช่วงนี้ สินค้า Gadget ดังกล่าวกำลังฮิตอินเทรนด์ ทำให้ปัญหาทวีความรุนแรงมากขึ้น "ไม่มีระบบปฏิบัติการใดที่ให้ความปลอดภัยอย่างเต็มที่ เพราะพนักงานส่วนมากต่างก็ได้สิทธิในการ Access เข้าสู่ระบบดาต้าเบสขององค์กร สามารถจะดึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องออกมา และบันทึกลงในหน่วยความจำของตัวเอง" ซึ่งตามความหมายของวิลคอกซ์แล้ว ช่องโหว่ที่ใหญ่ที่สุดของการใช้งานคอมพิวเตอร์ก็คือมนุษย์นี่เอง จากรายงานของวิลคอกซ์ มีการหยิบยกประเด็นเกี่ยวกับการสั่งแบนการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมาเป็นทางเลือกหนึ่งด้วยเช่นกัน อีกด้านหนึ่ง ลอร่า เคิร์ทเซล (Laura Koetzle) นักวิเคราะห์จากฟอร์เรสเตอร์กล่าวถึงปัญหาดังกล่าวว่า มีผลมาจากเทคโนโลยีของโพรดักส์นั้น ๆ มีมากเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชื่อมต่อผ่านพอร์ตยูเอสบี ที่มีอัตราการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่รวดเร็วและสินค้าเหล่านั้นราคาไม่แพงมาก การจัดการความเสี่ยง ความน่าสะพรึงกลัวของเจ้าของธุรกิจและผู้บริโภคก็คือ ทันทีทันใดที่ระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กรติดไวรัสผ่านทางหน่วยความจำแบบพกพา มันสามารถขโมยข้อมูลความลับสุดยอดของบริษัท เช่น สถานะทางการเงิน เอกสารสำคัญต่าง ๆ รายชื่อลูกค้า รายละเอียดของลูก้า ซึ่งอาจทำให้บริษัทต้องถูกเพ่งเล็งจากสถาบันที่ทำการตรวจสอบการทำงานมากขึ้น และอาจมีผลให้องค์กรต้องถูกฟ้องร้องจากลูกค้าด้วย ที่ทำให้ข้อมูลส่วนตัวของพวกเขาต้องหลุดรอดออกไป ฉลาดเกินไปก็มีผล อย่างไรก็ดี ความน่าสะพรึงกลัวเหล่านี้ก็ใช่จะไม่มีทางป้องกัน แดเนียล โบฮ์ลิง (Daniel Bohling) บรรณาธิการนิตยสารด้านไอทีกล่าวถึงความแตกต่างระหว่างหน่วยความจำแบบพกพา กับเครื่องเล่นเพลงดิจิตอล-พีดีเอเอาไว้ว่า "Non-intelligent และ Intelligent" นั่นก็คือ แม้จะมีหน่วยความจำขนาดใหญ่บรรจุอยู่ภายในอุปกรณ์ไอทีชิ้นเล็ก ๆ เหล่านี้ แต่ทว่า ไอพ็อด หรือพีดีเอ มีการทำงานผ่านระบบปฏิบัติการ ซึ่งนั่นหมายความว่า ทันใดที่มันเชื่อมต่อเข้าสู่ระบบเน็ตเวิร์กขององค์กร ระบบจะสามารถตรวจจับได้ เราก็เพียงแต่เพิ่มความเข้มข้นในการตรวจสอบไฟล์ต่าง ๆ ที่ทำการถ่ายโอนระหว่างหน่วยความจำและระบบเน็ตเวิร์ก ซึ่งจะช่วยให้ความปลอดภัยในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ระดับความเสี่ยง การจัดการกับความเสี่ยงอันอาจเกิดจากไวรัสที่มาพร้อมหน่วยความจำแบบพกพานั้น โบฮ์ลิงให้ความเห็นว่า สามารถทำได้โดยการให้ผู้ดูแลระบบล็อกเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องไม่ให้มีการลงโปรแกรมเอง นอกจากนั้นยังต้องสั่งลบไดรเวอร์ต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับหน่วยความจำเหล่านั้นออกไป ก็จะทำให้การใช้งานหน่วยความจำแบบพกพาของบรรดาพนักงานลดลงได้ระดับหนึ่ง แต่นักวิเคราะห์เคิร์ทเซล จากฟอเรสเตอร์กลับมองว่าแต่ละองค์กรควรมีการจัดระดับความเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้นว่าจะทำความเสียหายให้ในระดับใด เนื่องจากเธอเห็นว่าหากห้ามใช้อย่างถาวรจะเป็นการลดประสิทธิภาพในการทำงานและลดความคล่องตัวของพนักงานลงอย่างมาก แต่ถ้าองค์กรจำเป็นต้องเข้มงวดเพราะมีผลงานด้านสิทธิบัตร ลิขสิทธิ์ต่าง ๆ เก็บไว้ก็ควรทำอย่างรัดกุมที่สุด "หากคุณเป็นผู้บริหารของดรีมเวิร์กพิกเจอร์ สิ่งสุดท้ายที่คุณไม่อยากให้เกิดขึ้นก็คือการที่ใครสักคนเดินเข้ามาและขนผลงานชิ้นเด็ดทั้งหมดออกไปจากระบบของคุณ ก่อนจะเดินจากไปอย่างสบายอารมณ์" ขอขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์