ไม่หลอกจ้า iPhone 17 Pro / 17 Pro Max กล้องดีตาราง DxoMark

ปกติ DxOMark หน่วนการวัดคะแนนเรื่องกล้องที่หลายคนบอกว่าเชื่อถือได้บางคนบอกว่า แบรนด์มือถือซื้อโฆษณาหรือเปล่า เพราะล่าสุดทางเว็บไซต์ดังกล่าวได้นำ iPhone 17 Pro มาทดสอบเรื่องกล้องหลังพบว่า ได้คะแนนรวม 168 คะแนน! ถือว่าสูงพอสมควร โดยเรียกว่าแซงมือถือที่กล้องดีอย่าง vivo X200 Ultra แบบรดจมูกแค่ 1 คะแนนเท่านั้น

DxoMark บอกอะไรเกี่ยวกับ iPhone 17 Pro

ต้องบอกว่าคะแนนที่สูงของ iPhone 17 Pro นั้นจะผลักมาทางด้านวิดีโอมากที่สุด ซึ่งจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ iPhone ถนัดนั่นเอง

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนฝั่ง Android โดยเฉพาะแบรนด์จากจีน ได้สร้างมาตรฐานที่สูงลิบลิ่วในด้านการถ่ายภาพนิ่งและการซูมระยะไกล จนหลายคนมองว่า Apple อาจจะทำได้แค่ "ไล่ตาม" ในสมรภูมินี้ แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับตาลปัตร Apple ไม่ได้พยายามเอาชนะในเกมซูมระยะ 100x แต่เลือกที่จะทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดเพื่อสร้าง "ระบบนิเวศวิดีโอที่ดีที่สุดในโลก" และผลคะแนน 171 คะแนน ที่ครองอันดับ 1 ของโลก คือเครื่องพิสูจน์

 

• ความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ: ไม่ใช่แค่ส่วนใดส่วนหนึ่งที่ดี แต่ DxOMark ยกย่องความ "สมบูรณ์" ของมัน ทั้งกันสั่นที่นิ่งสนิทราวกับใช้ Gimbal, Dynamic Range ที่กว้างจนเก็บรายละเอียดได้ครบแม้ถ่ายในที่ซับซ้อน และที่สำคัญคือ "สีสัน" ที่มีความสม่ำเสมอและแม่นยำในทุกเลนส์และทุกสภาพแสง ซึ่งเป็นปัญหาที่สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่ยังแก้ไม่ตก
• เปลี่ยนนิยาม "กล้องวิดีโอพกพา": Apple ไม่ได้แค่ทำวิดีโอ 4K ที่คมชัด แต่กำลังทำให้ iPhone 17 Pro กลายเป็นเครื่องมือสร้างสรรค์คอนเทนต์ระดับโปรดักชันที่น่าเชื่อถือที่สุดในตลาด มันคือการส่งสัญญาณว่า "นี่ไม่ใช่แค่มือถือที่ถ่ายวิดีโอได้ แต่มันคือกล้องวิดีโอที่โทรศัพท์ได้"

ไม่ใช่แค่ฮาร์ดแวร์ แต่คือ "สมอง" ที่ฉลาดขึ้นอย่างก้าวกระโดด

หากมองแค่สเปคฮาร์ดแวร์บนกระดาษ iPhone อาจจะไม่ได้มีเซ็นเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดหรือเลนส์ที่ซับซ้อนที่สุดเสมอไป แต่สิ่งที่เกินคาดคือ "ผลลัพธ์" ที่ได้จากฮาร์ดแวร์เหล่านั้น ซึ่งมีฮีโร่หลังม่านที่ชื่อว่า "Computational Photography" ที่ขับเคลื่อนโดยชิป A19 Pro ที่สามารถทำได้ตั้งแต่

• การถ่ายภาพบุคคลที่ "เข้าใจ" มนุษย์: แม้คะแนนภาพนิ่ง (166 คะแนน) จะไม่ใช่ที่หนึ่ง แต่จุดที่ DxOMark ชื่นชมเป็นพิเศษคือการถ่ายภาพบุคคล ที่ให้ "สีผิว" สวยงามและเป็นธรรมชาติอย่างน่าทึ่ง นี่คือสิ่งที่ตัวเลขวัดได้ยาก แต่เป็นประสบการณ์ที่ผู้ใช้สัมผัสได้จริง มันแสดงให้เห็นว่า "สมอง" ของกล้อง ไม่ได้แค่ประมวลผลแสงและสี แต่มัน "เข้าใจ" ว่าภาพของคนควรจะออกมาเป็นอย่างไร
• ความสม่ำเสมอคือราชา: ความน่าทึ่งของกล้อง iPhone 17 Pro ไม่ใช่การถ่ายภาพที่สวยที่สุดในบางสถานการณ์ แต่คือการ "หยิบขึ้นมาถ่ายเมื่อไหร่ก็ได้ภาพที่ดีเสมอ" ความไว้ใจได้ (Reliability) นี้ คือผลลัพธ์ของซอฟต์แวร์และ ISP ที่ทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ซึ่งเป็นสิ่งที่เกินความคาดหมายสำหรับกล้องที่ต้องรับมือกับสถานการณ์หลากหลาย

ข้อสังเกตุของกล้อง

แม้ว่าจะมีเรื่องดีไปแล้วแต่สำหรับเรื่องที่เป็นข้อสังเกตมือถือรุ่นนี้ก็มีให้อยู่ประกอบด้วย

1. การซูมระยะไกล (Extreme Zoom) 

แม้ว่า iPhone 17 Pro จะอัปเกรดเลนส์ Telephoto และมีประสิทธิภาพการซูมที่ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนอย่างชัดเจน แต่เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนคู่แข่งบางรุ่นที่ถูกออกแบบมาเป็น "ยานแม่แห่งการซูม" โดยเฉพาะ (เช่น รุ่นที่มีเลนส์ Periscope กำลังขยายสูงมากๆ) ประสิทธิภาพการซูมในระยะสุดปลาย (เช่น 30x ขึ้นไป) ก็ยังคงเป็นรองอยู่

พูดง่ายๆ คือ Apple เลือกที่จะพัฒนาการซูมในระยะที่ใช้งานบ่อยให้มีคุณภาพสูงสุด มากกว่าที่จะแข่งขันในเรื่องกำลังขยายสูงสุด ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่แตกต่างจากคู่แข่งบางค่ายครับ

2. Noise ในสภาพแสงคอนทราสต์จัด

 นี่เป็นข้อสังเกตสำหรับคนที่พิจารณาไฟล์ภาพอย่างละเอียดมากๆ ครับ ในสถานการณ์ที่มีคอนทราสต์จัดๆ (เช่น ถ่ายในห้องแล้วมีหน้าต่างที่สว่างจ้า) แม้ว่ากล้องจะจัดการแสงโดยรวมและเก็บรายละเอียดได้ดีเยี่ยม แต่ใน "ส่วนเงาที่มืดที่สุด" ของภาพหรือวิดีโอ ยังคงมีจุดรบกวน (Noise) ให้เห็นอยู่บ้าง

อย่างไรก็ตาม DxOMark ระบุว่านี่เป็นเพียงจุดสังเกตเล็กน้อย และสำหรับผู้ใช้งานทั่วไปอาจไม่ได้สังเกตเห็นในการใช้งานปกติ

ดังนั้นต้องบอกว่าความสำเร็จที่ "เกินคาด" ของกล้อง iPhone 17 Pro ในสายตา DxOMark ไม่ใช่การเอาชนะคู่แข่งด้วยตัวเลขสเปค แต่คือการเปลี่ยนกระบวนทัศน์ โดยการสร้างมาตรฐานใหม่ในด้านวิดีโอที่คู่แข่งต้องไล่ตาม และการยกระดับ "ความฉลาด" ของกล้อง ที่ทำให้ทุกการกดชัตเตอร์เต็มไปด้วยความน่าเชื่อถือและผลลัพธ์ที่สวยงามอย่างเป็นธรรมชาติ แล้วคุณว่าอย่างไรกัน