เลือกใครดี? iPhone 17 ตัวคุ้ม VS iPhone Air ตัวบาง จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท ได้อะไร...เสียอะไร?

เปิดตัวมาทำเอาตลาดสะเทือน! Apple ปีนี้เล่นท่ายาก ตัดรุ่น Plus ทิ้ง แล้วส่ง iPhone Air นางแบบสุดบางเบาลงมาเดินสับๆ บนแคทวอล์ค พร้อมกับส่ง iPhone 17 รุ่นมาตรฐานที่อัปเกรดมาอย่างดีในฐานะ "ตัวจบสุดคุ้ม" มาให้เราเลือก มากมายแล้วคำถามคือรุ่นไหนดีกว่ากัน เรามาหยิบกันว่าจะเป็นอะไรที่น่าสนใจไม่เบา เพราะค่าตัวห่างกันหมื่นเดียว ก็คือเงิน รุ่นไหนดีกว่า วันนี้เรามีคำตอบ
iPhone Air VS iPhone 17 ต่างกันอย่างไรนอกจากราคา
ดีไซน์และสัมผัส (Design & Feel)
iPhone Air หากใครอยากได้ iPhone ที่มีดีไซน์เด่นและบางรุ่นนี้ใช่เลยเพราะด้วยความ บางเฉียบเพียง 5.6mm และ เบาหวิว 156 กรัม ถือแล้วเหมือนไม่ได้ถือ! ใช้วัสดุไทเทเนียมและกระจก Ceramic Shield ทั้งหน้าหลังให้ความรู้สึกพรีเมียมสุดๆ แต่ขณะที่ iPhone 17 มาในดีไซน์คลาสสิกที่เราคุ้นเคย หนา 7.95mm หนัก 177 กรัม ไม่ได้แย่เลยนะ แต่พอไปเทียบกับ Air แล้วก็ต้องยอมรับว่าดู "ธรรมดา" ไปเลย ใช้วัสดุเป็นอะลูมิเนียมกับกระจก
ดังนั้นถ้าคุณคือคนที่เบื่อมือถือหนักๆ อยากได้ฟีลลิ่งใหม่ๆ ที่บางเบาเหมือนนิตยสารแฟชั่น... จ่ายเพิ่ม 10,000 ให้ Air ไปเลย ไม่ผิดหวัง!

หน้าจอ (Display)
- iPhone 17: ขนาดมาตรฐานที่ 6.3 นิ้ว
- iPhone Air: ได้จอใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 6.5 นิ้ว โดยเล็กกว่ารุ่น Plus
แต่ข่าวดีสุดๆ คือ ทั้งสองรุ่นได้อัปเกรดเป็นจอ ProMotion 1-120Hz และมี Always-On Display แล้ว! ถือเป็นการยกระดับรุ่นที่ไม่ใช่ Pro ครั้งใหญ่ ความสว่างและความคมชัดก็จัดเต็มมาให้เท่ากันดังนั้นสูสี! Air ได้เปรียบเรื่องขนาดนิดหน่อย แต่เทคโนโลยีหลักๆ เหมือนกันเด๊ะ ถ้าขนาดจอไม่ใช่ประเด็นหลัก ส่วนต่าง 10,000 บาทตรงนี้อาจไม่คุ้ม
พลังประมวลผล (Performance)
- iPhone Air: จัดเต็ม! ได้ชิปตัวท็อป A19 Pro (ตัวเดียวกับรุ่น Pro) และ RAM 12GB! แรงทะลุปรอทแน่นอน
- iPhone 17: ใช้ชิป A19 รุ่นมาตรฐาน และ RAM 8GB ซึ่งก็แรงเหลือๆ สำหรับการใช้งานทั่วไปและเล่นเกมอยู่แล้ว
แต่เดี๋ยวก่อน! ตัวเครื่องที่บางเฉียบของ Air อาจเป็นดาบสองคม เพราะอาจระบายความร้อนได้ไม่ดีเท่า ทำให้เมื่อใช้งานหนักๆ นานๆ ชิปอาจจะ "ลดสปีด" (Throttling) ลงมาจนประสิทธิภาพอาจไม่ต่างจาก A19 ของ iPhone 17 ก็เป็นได้! และแม้สเปคบนกระดาษ Air จะชนะ แต่ในการใช้งานจริงอาจไม่ทิ้งห่างกันมากนัก ต้องรอผลเทสต์อีกที แต่สำหรับคนทั่วไป พลังของ iPhone 17 ก็เหลือเฟือแล้ว

กล้อง (Camera)
เรื่องนี้อาจจะขัดใจคนชอบกล้องหน้าเพราะต้องยอมรับว่า
- iPhone Air: คือสิ่งที่ต้องแลกมากับความบาง... มีกล้องหลังแค่ตัวเดียว! เป็นกล้องหลัก 48MP เหมือนของ iPhone 17 แต่ไม่มีเลนส์ Ultrawide ทำให้ถ่ายภาพมุมกว้างหรือถ่าย Macro ไม่ได้!
- iPhone 17: ให้มาแบบครบๆ กล้องหลังคู่! ทั้งกล้องหลัก 48MP และเลนส์ Ultrawide 48MP ตัวใหม่ ทำให้ถ่ายภาพได้ยืดหยุ่นกว่ามาก ทั้งภาพวิว ภาพในที่แคบ และภาพมาโครสวยๆ
ดังนั้นหากเป็นเรื่องกล้องนั้น iPhone 17 ชนะขาดลอย! ถ้าคุณชอบถ่ายรูป ชอบความยืดหยุ่นของเลนส์ Ultrawide การประหยัดเงิน 10,000 บาทแล้วได้กล้องเพิ่มมาอีกตัวคือดีลที่ดีที่สุด!

แบตเตอรี่และการชาร์จ (Battery & Charging)
- iPhone Air: ยอมแลกแบตเพื่อความบาง... แน่นอนว่าแบตเตอรี่เล็กกว่า Apple เคลมว่า "ใช้งานได้ตลอดวัน" แต่ก็ไม่น่าจะอึดเท่ารุ่นอื่น แถมชาร์จไวกว่าแค่ 20W
- iPhone 17: อึดขึ้นแบบก้าวกระโดด! Apple เคลมว่าดูวิดีโอได้นานถึง 30 ชั่วโมง (จากเดิม 22 ชม.) และรองรับชาร์จไวถึง 40W!
ดังนั้น iPhone 17 ต่อยหมัดน็อคเลย! สำหรับคนที่ให้ความสำคัญกับแบตเตอรี่เป็นอันดับแรก iPhone 17 คือคำตอบที่ใช่แบบไม่ต้องคิดมาก

สรุปสเปคหมัดต่อหมัด
| ฟีเจอร์ | iPhone 17 (29,900 บาท) | iPhone Air (39,900 บาท) |
| ดีไซน์ | อะลูมิเนียม, หนา 7.95mm, หนัก 177g | ไทเทเนียม, บาง 5.6mm, เบา 156g |
| หน้าจอ | 6.3" ProMotion 120Hz | 6.5" ProMotion 120Hz |
| ชิป | A19 | A19 Pro |
| RAM | 8 GB | 12 GB |
| กล้องหลัง | คู่: 48MP Wide + 48MP Ultrawide | เดี่ยว: 48MP Wide |
| แบตเตอรี่ | อึดมาก (ดูวิดีโอ 30 ชม.) | พอใช้ตลอดวัน |
| ชาร์จไว | 40W | 20W |
แล้วรุ่นไหนดีกว่า
มาถึงตรงนี้ คำตอบน่าจะชัดเจนขึ้นแล้วใช่ไหมครับ? ระหว่าง iPhone 17 และ iPhone Air คำตอบอยู่ตรงนี้

เลือก iPhone 17 (ประหยัด 10,000 บาท) ถ้าคุณ
- คนที่เน้นความ "คุ้มค่า" เป็นหลัก
- ต้องการมือถือที่ "ครบเครื่อง" ทำได้ทุกอย่างดีเยี่ยม
- ชอบถ่ายรูปและต้องการความยืดหยุ่นจาก กล้อง Ultrawide
- ให้ความสำคัญกับ แบตเตอรี่ที่อึดถึกทน และชาร์จเร็ว
เลือก iPhone Air (จ่ายเพิ่ม 10,000 บาท) ถ้าคุณ
- สายดีไซน์ตัวพ่อ/ตัวแม่ ที่ยอมแลกทุกอย่างเพื่อความสวยงาม
- ต้องการมือถือที่ บางและเบาที่สุด เท่าที่จะเป็นไปได้
- ไม่ค่อยได้ใช้กล้อง Ultrawide หรือถ่ายรูป Macro อยู่แล้ว
- ประสิทธิภาพต้องแรงสุดบนกระดาษ และยอมรับเรื่องแบตที่อาจต้องชาร์จบ่อยขึ้น
สำหรับผมแล้ว ถ้าให้ฟันธง... iPhone 17 คือตัวเลือกที่สมเหตุสมผลและน่าจะตอบโจทย์คนส่วนใหญ่ได้ดีที่สุดครับ มันคือการนำเงิน 29,900 บาทไปแลกกับเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยมและครบเครื่อง แต่ถ้าคุณมีงบเหลือๆ และหัวใจมันเรียกร้องหาความ "ว้าว" ของดีไซน์... iPhone Air ก็พร้อมจะสั่นกระเป๋าตังค์คุณแน่นอน! ท้ายที่สุด! ก็ขึ้นกับเงินคุณและความต้องการคือคำตอบสุดท้ายนั่นเอง
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี



