สัมผัสแรก iPhone Air ที่ทุกคนเมิน! แต่ของจริง ดีจนเซอร์ไพรส์

วันนี้ Sanook Hitech พาคุณไปดู iPhone ใหม่โดย Apple ประเทศไทยจัดรอบพิเศษให้ไปดูก่อนวางจำหน่าย ครบหมด แต่สำหรับรอบนี้ขอแนะนำกับ iPhone Air รุ่นที่หลายคนเมิน แต่อยากจะบอกว่าอย่าเมินน้องเลย น้องมีดีนะ พร้อมแล้วมาดูกันครับ
แรกเห็น iPhone Air

ก่อนที่จะบอกว่าบางขนาดไหนเรามาดูหน้าจอกันก่อน โดยรุ่นนี้จะได้หน้าจอ OLED ขนาด 6.5 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี ProMotion เพื่อความลื่นไหลในการใช้งาน และมีความสว่างสูงสุดเมื่ออยู่กลางแจ้งถึง 3,000 nits ซึ่งสูงที่สุดในบรรดา iPhone ทุกรุ่น นอกจากนี้กระจกหน้ายังเคลือบสารกันแสงสะท้อนถึง 7 ชั้น ช่วยลดแสงจ้าและทำให้มองเห็นหน้าจอได้ชัดเจนยิ่งขึ้นในที่สว่าง และนอกจากนี้ยังติดตั้งกระจก Ceremic Shield 2

บอดี้รอบตัวเป็นแบบไทเทเนียมแค่รุ่นเดียว โดย Apple เคลมว่าทนทานกว่าเดิม คือกดน้ำหนักได้มาก และไม่งอ โดยรุ่นนี้จะมีปุ่มกดเหมือนกับรุ่นปกติทุกอย่างและมีช่อง USB-C แต่ว่าลำโพงของตัวเครื่องมีแค่ด้านบน ไมโครโฟนมีแค่ด้านล่าง

ด้านหลังที่เห็นกล้องที่นูนแบบนี้เพราะว่าเมนบอร์ดจะอยู่ด้านบนทั้งหมด ด้านล่างคือแบตเตอรี่นั่นเอง แต่รองรับ MagSafe ด้วย แถมมีให้เลือก 4 สีแต่ว่าสีที่โดดเด่นคือสีฟ้าอ่อน Sky Blue แต่สีดำก็ดูเท่ห์ไปอีกแบบ และน้ำหนักเบาจริง ทำให้เมื่อคุณถือจะดูพรีเมียมและดูแพง
อะไรที่เด่นใน iPhone Air
ระบบกล้องเดี่ยวแต่ทรงพลัง
แม้จะมีกล้องหลังเพียงตัวเดียว แต่เป็นกล้อง Fusion Camera ความละเอียดสูงถึง 48MP ที่สามารถถ่ายภาพได้ทั้งในระยะ 1x และ 2x คุณภาพระดับออปติคัล ส่วนกล้องหน้าก็ไม่ธรรมดาด้วยความละเอียด 18MP พร้อมฟีเจอร์ Center Stage ที่ใช้ AI ช่วยขยายมุมมองและหมุนเฟรมให้อัตโนมัติเมื่อมีคนเข้ามาในภาพ และด้วยเซ็นเซอร์ทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส ทำให้สามารถถ่ายเซลฟี่แนวนอนได้โดยไม่ต้องเอียงโทรศัพท์
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ถ่ายวิดีโอแบบ Dual-capture ที่บันทึกภาพจากกล้องหน้าและหลังได้พร้อมกันอย่างลงตัว เรียกได้ว่าสเปกไม่ได้ลดจากเดิมเลย
ขุมพลังระดับโปรและการเชื่อมต่อยุคใหม่
iPhone Air ใช้ชิปเซ็ตระดับเรือธงอย่าง A19 Pro (CPU 6-core) ที่มาพร้อม GPU รุ่นที่ 2 ซึ่งอัปเกรด Dynamic Caching ให้ประสิทธิภาพกราฟิกสูงขึ้น ด้านการเชื่อมต่อก็ล้ำหน้าด้วยโมเด็ม C1X ที่เร็วขึ้น 2 เท่า และชิป N1 ที่รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 6 และ Thread โดยรุ่นนี้จะรองรับเฉพาะ eSIM เท่านั้น เป็นที่มาของแตเตอรี่ที่เยอะ เหลือแค่แบตเตอรี่ให้เท่านี้จะพอไหม
สรุปหลังสัมผัสแรก iPhone Air
โดยรวมแล้ว iPhone Air เป็นอีกรุ่นที่จุดกระแสของมือถือบางกลับมากับความบ่าง 5.6 มิลลิเมตร แม้จะไม่ได้ที่สุดของตลาด แต่ก็ถือว่าบางสุดอยู่ดีมาพร้อมกับลูกเล่นที่ครบเหมือนกับรุ่นปกติ แต่ว่าอาจจะไม่ได้กล้องที่ครบเพราะขาดระยะมุมกว้าง แต่ว่าก็เพียงพอสำหรับคนที่ต้องการความหรูหรา และประสิทธิภาพต้องมาก่อน
iPhone Air จะมีให้เลือก 4 สี ได้แก่ Space Black, Cloud White, Light Gold และ Sky Blue โดยจะเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ และวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่ 19 กันยายน ในราคาเริ่มต้น 39,900 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่าย 19 กันยายน
อัลบั้มภาพ 12 ภาพ
ดาวน์โหลดสนุกแอปฟรี







