3 เทคนิคลับปลุกชีพมือถือเครื่องเก่าให้แรงเหมือนใหม่ ประหยัดเงินไม่ต้องซื้อรุ่นใหม่

3 เทคนิคลับปลุกชีพมือถือเครื่องเก่าให้แรงเหมือนใหม่ ประหยัดเงินไม่ต้องซื้อรุ่นใหม่

3 เทคนิคลับปลุกชีพมือถือเครื่องเก่าให้แรงเหมือนใหม่ ประหยัดเงินไม่ต้องซื้อรุ่นใหม่
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

หลังจาก 12 กันยายนที่ผ่านมา iPhone 17 Series ได้เปิดจองแล้วแน่นอนว่าคนที่สนใจก็คงกดจ่ายเงินมัดจำเป็นที่เรียบร้อยด้วยคำถามที่หลายคนตั้งไว้ว่ามือถือของเรายังไม่เก่ามาก (สัก iPhone 15 และ iPhone 16) เห็นแบบนี้เราไม่อยากเปลี่ยนขอลากอีกสักปี อยากจะ"คืนชีพ" มือถือเครื่องเก่งของคุณให้กลับมาทำงานได้ดีใกล้เคียงของใหม่จะทำได้ไหม วันนี้ Sanook Hitech จะมาแนะนำวิธีฟื้นฟูมือถือใหม่กันครับ

ปล. แต่ iPhone 14 และที่เก่ากว่านั้นแนะนำให้เปลี่ยนเถอะครับ ของใหม่เขาพัฒนาไปถึงไหนแล้วอย่างกเลยครับ

iphone-16-pro-models-1

3 เทคนิคเปลี่ยนมือถือเก่าให้แรงเหมือนเดิม

เทคนิคที่ 1: ล้างบางข้อมูลขยะ คืนชีพความเร็ว 

เคยรู้สึกไหมว่ามือถือของคุณเริ่มอืดอาด ไม่ทันใจเหมือนตอนซื้อมาใหม่ๆ สาเหตุหลักอย่างหนึ่งมาจาก "ข้อมูลขยะ" ที่สะสมอยู่ในเครื่องโดยที่เราไม่รู้ตัว ทั้งไฟล์ Cache จากแอปต่างๆ, แอปที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว, และไฟล์ขนาดใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในเครื่องนั่นเอง

วิธีจัดการ

  • จัดการพื้นที่เก็บข้อมูล (Storage): เข้าไปที่ Settings > General > iPhone Storage (การตั้งค่า > ทั่วไป > พื้นที่จัดเก็บข้อมูลของ iPhone) ในหน้านี้ iOS จะวิเคราะห์และแนะนำสิ่งที่คุณควรจัดการ เช่น "Offload Unused Apps" (เอาแอปที่ไม่ได้ใช้ออก) ซึ่งจะลบตัวแอปแต่ยังเก็บข้อมูลไว้ หรือ "Review Large Attachments" (ตรวจสอบไฟล์แนบขนาดใหญ่) เพื่อให้คุณเลือกลบวิดีโอหรือไฟล์ที่ไม่จำเป็นทิ้งไป
  • เคลียร์ Cache ของ Safari: ท่องเว็บทุกวัน Cache ก็เพิ่มขึ้นทุกวัน เข้าไปที่ Settings > Safari > Clear History and Website Data (การตั้งค่า > Safari > ล้างประวัติและข้อมูลเว็บไซต์) เพื่อลบข้อมูลสะสมและเพิ่มความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ
  • ลบแอปที่ไม่ใช้งานจริง: ลองเลื่อนดูหน้าจอ Home Screen ของคุณ มีกี่แอปที่คุณไม่ได้เปิดใช้งานมานานกว่า 3-6 เดือนแล้ว? การลบแอปเหล่านี้ทิ้งไม่เพียงแต่จะได้พื้นที่คืนมา แต่ยังลดกระบวนการเบื้องหลัง (Background Process) ที่อาจแอบทำงานและทำให้เครื่องช้าลงอีกด้วย

สำหรับแอปโซเชียลอย่าง LINE หรือ Facebook ที่มักมี Cache ขนาดใหญ่ ให้ลองเข้าไปที่การตั้งค่าภายในตัวแอปนั้นๆ เพื่อมองหาเมนูล้าง Cache โดยเฉพาะ จะช่วยคืนพื้นที่ได้มหาศาลโดยที่ข้อมูลแชทหรือรูปภาพสำคัญไม่หายไป

iphone-15-general-feature-pin 

เทคนิคที่ 2: ปลุกพลังแบตเตอรี่ให้กลับมาอึดเหมือนใหม่

ปัญหาใหญ่ของคนใช้มือถือเก่าคือเรื่องแบตเตอรี่ที่ไหลเป็นน้ำคือสัญญาณความชราที่ชัดเจนที่สุด จากที่เคยใช้งานได้เต็มวัน ตอนนี้อาจจะต้องชาร์จระหว่างวันถึง 2-3 รอบ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดที่สุด

วิธีตรวจเช็คและจัดการ

  • เช็คสุขภาพแบตเตอรี่ (Battery Health) สิ่งแรกที่ต้องทำ เข้าไปที่ Settings > Battery > Battery Health & Charging (การตั้งค่า > แบตเตอรี่ > สุขภาพแบตเตอรี่และการชาร์จ) ดูที่ "Maximum Capacity" (ความจุสูงสุด) หากตัวเลขต่ำกว่า 80% นั่นคือสัญญาณชัดเจนว่าแบตเตอรี่ของคุณเสื่อมสภาพแล้ว ลองหาโปรเปลี่ยนคุ้มๆ หรือดูที่ศูนย์บริการก็ได้ การเปลี่ยนแบตฯ ราคานั้นจะถูกกว่า แต่ก็มีราคาแอบคิดว่ามันคือ 1 ใน 3 ของราคาเครื่อง
  • เปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่: หากสุขภาพแบตต่ำกว่า 80% การ "เปลี่ยนแบตเตอรี่" ก้อนใหม่คือการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด การจ่ายเงินหลักพันเพื่อเปลี่ยนแบตที่ศูนย์บริการที่เชื่อถือได้ จะทำให้คุณได้มือถือที่ใช้งานได้ยาวนานเต็มวันเหมือนตอนซื้อใหม่ทันที ซึ่งดีกว่าการทนใช้แบตเสื่อมไปวันๆ หรือซื้อ Power Bank ใหม่ไม่รู้จบ

ปรับการตั้งค่าเพื่อยืดอายุการใช้งาน กับฟีเจอร์ดังนี้

  • ปิด Background App Refresh: สำหรับแอปที่ไม่จำเป็นต้องอัปเดตตลอดเวลา ให้เข้าไปที่ Settings > General > Background App Refresh แล้วเลือกปิดเป็นรายแอป
  • จัดการ Location Services: แอปบางตัวขอเข้าถึงตำแหน่งที่ตั้งของคุณตลอดเวลาโดยไม่จำเป็น เข้าไปที่ Settings > Privacy & Security > Location Services เพื่อตรวจสอบและเปลี่ยนสิทธิ์ของแต่ละแอปให้เป็น "While Using the App" (ในระหว่างใช้แอป) หรือ "Never" (ไม่เลย)
  • ใช้ Wi-Fi แทน Cellular Data: เมื่ออยู่ในบ้านหรือที่ทำงาน การเชื่อมต่อ Wi-Fi จะใช้พลังงานน้อยกว่า 4G/5G อย่างมีนัยสำคัญ

 iphone-16-apple-store-levels

เทคนิคที่ 3: Refresh หน้าตาและประสบการณ์ใช้งาน 

แม้เครื่องจะเร็วและแบตจะอึด แต่หน้าตาที่จำเจและสภาพภายนอกที่ดูเก่าก็ทำให้เรารู้สึกเบื่อได้ การปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ สามารถสร้างความรู้สึก "เหมือนใหม่" ได้อย่างไม่น่าเชื่อ โ

วิธีแก้ไข

  • รีเซ็ต Home Screen Layout: จัดระเบียบหน้าจอใหม่ทั้งหมดให้กลับสู่ค่าเริ่มต้นจากโรงงาน ไปที่ Settings > General > Transfer or Reset iPhone > Reset > Reset Home Screen Layout จากนั้นค่อยๆ จัดเรียงแอปที่คุณใช้บ่อยๆ กลับมาใหม่ จะช่วยให้คุณรู้สึกเหมือนได้เริ่มต้นใช้งานเครื่องใหม่อีกครั้ง
  • เปลี่ยน Wallpaper และจัด Widget ใหม่: หารูป Wallpaper สวยๆ ความละเอียดสูงมาเปลี่ยนใหม่ และลองใช้ Widget ที่มีประโยชน์มาจัดวางบนหน้าจอ เพื่อให้การใช้งานดูทันสมัยและเข้าถึงข้อมูลได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
  • ทำความสะอาดครั้งใหญ่และเปลี่ยนเคส/ฟิล์ม: สิ่งที่หลายคนมองข้าม ใช้ผ้านุ่มชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดรอบตัวเครื่อง ใช้แปรงขนนุ่มปัดฝุ่นตามร่องลำโพงและพอร์ตชาร์จ การลงทุนซื้อเคสใหม่สวยๆ และเปลี่ยนฟิล์มกันรอยที่ใสปิ๊ง จะเปลี่ยนโฉมมือถือเครื่องเก่าของคุณให้ดูใหม่ขึ้นจนเพื่อนทัก
  • อย่าลืมอัปเดตเวอร์ชั่นใหม่ อันนี้ก็ช่วยให้มือถือดูใหม่ไปเลยได้เช่นกัน

ดังนั้นแล้วการที่ iPhone 17 ใหม่จะมานั้นถือว่าเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ถ้าคุณอยากให้มือถือฟิตอยู่ตลอดการหมั่นดูและตัวเครื่องจัดการให้เครื่องอยู่ในสภาพใหม่ทั้งภายนอกและภายใน เป็นเรื่องที่ดีและประหยัดเงินได้ในระยะยาวด้วยครับ ก็ลองทำกันดู แต่ถ้ามือถือมันเก่าเกินไป แนะนำลองเอาไปทำเก่าแลกใหม่ เพื่อลดราคาของเครื่องใหม่ลงก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายและให้มือถือเก่าของคุณมีที่ไปก็ดีเหมือนกันนะครับ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล