หลังจากที่ เราได้ดูพรีวิวกลุ่มมือถือไปแล้ว รอบนี้มีการเปิดตัว Smart Watch ใหม่อย่าง Galaxy Watch8 Series ซึ่งในปีนี้มีข้อมูลว่าจะมาพร้อมกันถึง 3 รุ่น ได้แก่ Galaxy Watch8, Galaxy Watch8 Classic และรุ่นท็อปสายลุยอย่าง Galaxy Watch Ultra (2025) โดยแต่ละรุ่นได้รับการอัปเกรดที่น่าสนใจทั้งในด้านดีไซน์ ประสิทธิภาพ และที่สำคัญคือฟีเจอร์สุขภาพที่ขับเคลื่อนด้วย AI สุดอัจฉริยะ เรามาดูคร่าวๆ ว่ามีอะไรใหม่บ้างกันครับ
เริ่มต้นกับรุ่นมาตรฐานและรุ่นคลาสสิกในปีนี้ Samsung ได้ปรับโฉมดีไซน์ใหม่ให้ดูทันสมัยและเข้ากับสรีระข้อมือมากยิ่งขึ้น เริ่มด้วยตัวเรือน Galaxy Watch8 ถูกออกแบบให้มีความบางเพียง 8.6 มม. พร้อมปรับดีไซน์หน้าปัดให้โค้งรับกับข้อมือมากขึ้น ทำให้สวมใส่สบายตลอดวัน ออกแบบให้ Heart Rate Sensor แนบกับผิวได้อย่างดีและเปลี่ยนสายเขาว่าทำได้ง่ายกว่าเดิม ดังนั้นสายเดิมใช้ไม่ได้แล้ว
แต่ถ้าใครบอกว่ารุ่นปกติมันดูไม่หรูคราวนี้มีการนำ Galaxy Watch8 Classic กลับมาด้วยมาในลุคที่ดูคล้ายรุ่น Ultra แต่ปรับให้มีความหรูหราและดูดีกว่า เหมาะกับการใช้งานในทุกโอกาส
ด้านหน้าจอทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ที่มีความสว่างสูงสุดถึง 3,000 nits ทำให้สามารถมองเห็นข้อมูลได้อย่างคมชัดแม้ในที่กลางแจ้งหรือแสงแดดจ้า
Galaxy Watch Ultra (2025): ที่สุดของสายสุขภาพและกิจกรรมกลางแจ้ง
รุ่นท็อปสุดสำหรับสายแอดเวนเจอร์และผู้ที่ใส่ใจสุขภาพอย่างจริงจัง ครั้งนี้ Galaxy Watch Ultra (2025) ไม่ได้มาแค่ความทนทาน แต่มาพร้อมฟีเจอร์สุขภาพที่ล้ำหน้าไปอีกขั้น
ตัวเลือกสีใหม่และความจุที่เพิ่มขึ้น: เพิ่ม สี Titanium Blue เป็นตัวเลือกใหม่ที่ดูโดดเด่น และอัปเกรดหน่วยความจำภายในเป็น 64GB ให้คุณเก็บเพลงหรือแอปได้มากขึ้น
ใน Galaxy Watch8 และ Galaxy Watch8 Classic ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Exynos W1000 (Penta-Core, 3 nm) ที่เน้นการประหยัดพลังงาน ทำให้แบตเตอรี่อึดขึ้นกว่าเดิมประมาณ 10% พร้อมระบบปฏิบัติการ One UI 8 Watch ที่ปรับปรุง UX ใหม่ โดยเฉพาะ Multi-info tiles ที่ช่วยให้ผู้ใช้เห็นข้อมูลหลากหลายได้ในหน้าเดียวอย่างรวดเร็วและง่ายดาย ข่าวดี! Galaxy Watch Ultra (2025) มาพร้อม One UI 8 Watch ด้วย และมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกและสุขภาพเช่น
Gemini on Watch: ครั้งแรกกับการนำ AI อัจฉริยะอย่าง Gemini มาไว้บนข้อมือ ช่วยให้คุณสามารถสั่งการ ถาม-ตอบ หรือขอคำแนะนำต่างๆ ได้อย่างเป็นธรรมชาติและชาญฉลาดกว่าเดิม
โค้ชวิ่งส่วนตัว(Running Coach): ฟีเจอร์ใหม่สำหรับนักวิ่ง ที่จะวิเคราะห์สมรรถภาพร่างกายและออกแบบโปรแกรมการวิ่งที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล พร้อมให้คำแนะนำแบบเรียลไทม์เพื่อการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
มิติใหม่ของฟีเจอร์สุขภาพ
วัดดัชนีสารต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidant Measurement) ประเมินระดับการป้องกันเซลล์ในร่างกายจากความเสียหาย โดยรายงานเป็นกราฟ
วัดภาระการทำงานของหลอดเลือด(Vascular Load): ช่วยประเมินสุขภาพของหลอดเลือดและความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น
AGEs Index: นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยวัด "สารเร่งความชรา" (Advanced Glycation End Products - AGEs) ในร่างกาย เพื่อให้คุณดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
คำแนะนำการนอน(Bed Time Guidance): วิเคราะห์ไลฟ์สไตล์และแนะนำช่วงเวลาที่ควรเข้านอนเพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่
ตรวจจับภาวะหยุดหายใจขณะหลับ(Sleep Apnea): ฟีเจอร์สำคัญที่ช่วยตรวจจับความผิดปกติของการหายใจระหว่างนอนหลับ (แต่ขณะนี้ในประเทศไทยพี่จะนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้รออัพเดทในอนาคต)
แจ้งเตือนความเครียดและอัตราการเต้นของหัวใจ (High Stress & Alert): ระบบที่จะคอยตรวจจับระดับความเครียดที่สูง แม้จะไม่รู้สึกตัว ซึ่งทาให้เราสามารถปรับพฤติกรรมได้ทีเพื่อผ่อนคลายความเครียดเช่น พักผ่อนจากกิจกรรมที่ทาอยู่เพื่อให้คลายความเครียดเกิน
ดังนั้นถ้าต้องบอกถึงภาพรวมว่า การมาถึงของ Galaxy Watch8 Series ในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับมาตรฐานของสมาร์ทวอทช์ไปอีกขั้น ด้วยการผสานดีไซน์ที่สวยงามเข้ากับพลังของ AI และเซ็นเซอร์สุขภาพสุดล้ำ ทำให้เป็นมากกว่านาฬิกา แต่เป็นผู้ช่วยดูแลสุขภาพและไลฟ์สไตล์ที่อยู่บนข้อมือคุณตลอด 24 ชั่วโมง
อัลบั้มภาพ 21 ภาพ
