เกิดอะไรขึ้นกับ Yahoo? จากอดีต Search Engine เบอร์ 1 สู่แพลตฟอร์มที่ถูกลืม

เกิดอะไรขึ้นกับ Yahoo? จากอดีต Search Engine เบอร์ 1 สู่แพลตฟอร์มที่ถูกลืม

เกิดอะไรขึ้นกับ Yahoo? จากอดีต Search Engine เบอร์ 1 สู่แพลตฟอร์มที่ถูกลืม
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Yahoo เคยเป็นชื่อที่ใครๆ ก็รู้จักในโลกอินเทอร์เน็ต แต่เกิดอะไรขึ้นกับ Yahoo? และปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้าง? บทความนี้จะพาคุณย้อนรอยเรื่องราวของ Yahoo ตั้งแต่จุดเริ่มต้น ความรุ่งโรจน์ ไปจนถึงการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน

กำเนิด Yahoo: การค้นหาข้อมูลในยุคแรกเริ่มของอินเทอร์เน็ต

Yahoo! Inc. ก่อตั้งขึ้นในปี 1994 โดย Jerry Yang และ David Filo นักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด เดิมทีเว็บไซต์นี้มีชื่อว่า "Jerry and David's Guide to the World Wide Web" ซึ่งเป็นเพียงไดเรกทอรีเว็บไซต์ที่จัดหมวดหมู่ด้วยมือ Yahoo ถือเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกในยุคแรกๆ ของอินเทอร์เน็ต ที่ช่วยให้ผู้คนสามารถค้นหาและจัดระเบียบข้อมูลบนโลกออนไลน์ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

ในช่วงปลายทศวรรษ 1990 Yahoo เติบโตอย่างก้าวกระโดด กลายเป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดในโลก นอกเหนือจากไดเรกทอรีเว็บไซต์แล้ว Yahoo ยังขยายบริการไปสู่หลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น:

  • Yahoo Mail: บริการอีเมลฟรีที่ได้รับความนิยมอย่างสูง
  • Yahoo News: แหล่งรวมข่าวสารที่สำคัญ
  • Yahoo Finance: แหล่งข้อมูลทางการเงินและการลงทุน
  • Yahoo Messenger: บริการส่งข้อความโต้ตอบแบบทันทีที่เคยเป็นที่นิยมอย่างมาก
  • Yahoo Geocities: บริการสร้างเว็บไซต์ส่วนตัว

ยุคทองของ Yahoo: Search Engine อันดับต้นๆ ของโลก

ในช่วงต้นทศวรรษ 2000 Yahoo คือหนึ่งใน Search Engine ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก ผู้คนจำนวนมากใช้ Yahoo ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ในยุคนั้น Yahoo เป็นเหมือนประตูสู่โลกอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก ด้วยความหลากหลายของบริการที่ครบวงจร ทำให้ Yahoo กลายเป็นเหมือนพอร์ทัลอินเทอร์เน็ต (Internet Portal) ที่รวมทุกสิ่งไว้ในที่เดียว

ทำไม Yahoo ถึงแพ้ Google? สาเหตุที่ทำให้ตำแหน่งผู้นำเปลี่ยนไป

การล่มสลายของ Yahoo ในฐานะผู้นำตลาด Search Engine ไม่ได้เกิดขึ้นในชั่วข้ามคืน แต่เป็นผลมาจากการตัดสินใจทางธุรกิจและกลยุทธ์ที่สำคัญหลายประการ รวมถึงปัจจัยภายนอกที่ทำให้ Google สามารถก้าวขึ้นมาแทนที่ได้:

1. ความแตกต่างของเทคโนโลยีการค้นหา

ในขณะที่ Yahoo ยังคงพึ่งพาระบบไดเรกทอรีและอัลกอริทึมการจัดอันดับที่เรียบง่าย Google ได้พัฒนาระบบ PageRank ซึ่งเป็นอัลกอริทึมที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูงกว่ามาก PageRank วิเคราะห์ความสำคัญของหน้าเว็บโดยอิงจากจำนวนและคุณภาพของลิงก์ที่เชื่อมโยงมายังหน้านั้นๆ ทำให้ผลการค้นหาของ Google มีความแม่นยำและเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด ผู้ใช้งานจึงเริ่มหันไปใช้ Google มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า

2. การเน้นที่ "พอร์ทัล" มากกว่า "การค้นหา"

Yahoo มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็น "พอร์ทัล" หรือศูนย์รวมบริการทุกอย่างบนอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่ข่าวสาร อีเมล กีฬา ไปจนถึงการเงิน ทำให้ Yahoo ทุ่มทรัพยากรไปกับการพัฒนาและรวมบริการที่หลากหลายเข้าด้วยกัน แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนา Search Engine ให้ดีที่สุดเพียงอย่างเดียว ในขณะที่ Google เน้นย้ำที่ภารกิจหลักคือ "จัดระเบียบข้อมูลของโลก และทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเป็นประโยชน์และเข้าถึงได้ทั่วถึง" (to organize the world's information and make it universally accessible and useful) ซึ่งหมายถึงการให้ความสำคัญกับการค้นหาข้อมูลเป็นอันดับแรก

3. การตัดสินใจที่ผิดพลาดในการซื้อกิจการและการพัฒนา

Yahoo มีโอกาสที่จะซื้อ Google ในช่วงเริ่มต้น แต่ปฏิเสธไป นอกจากนี้ยังมีการตัดสินใจที่จะพึ่งพา Search Engine ของบุคคลที่สามในช่วงเวลาหนึ่ง (เช่น Inktomi และ Google เอง) แทนที่จะลงทุนพัฒนาเทคโนโลยี Search Engine ของตนเองอย่างต่อเนื่องและจริงจัง เมื่อตระหนักถึงความผิดพลาดและพยายามกลับมาพัฒนา Search Engine ของตนเอง ก็สายเกินไปแล้ว Google ได้สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันอย่างมหาศาลไปแล้ว

4. การบริหารจัดการและวิสัยทัศน์ที่ขาดความต่อเนื่อง

Yahoo มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารบ่อยครั้ง ซึ่งส่งผลให้กลยุทธ์และทิศทางของบริษัทขาดความต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังขาดวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต ทำให้ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเติบโตของโซเชียลมีเดียและอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร

การถดถอยและการเปลี่ยนแปลง: เมื่อ Yahoo กลายเป็นอดีต

เมื่อ Google เข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาด Search Engine Yahoo ก็เริ่มเผชิญกับความท้าท้นครั้งใหญ่ แม้จะพยายามปรับตัวและเข้าซื้อกิจการต่างๆ เช่น Flickr และ Tumblr แต่ก็ไม่สามารถกลับมายืนในจุดเดิมได้เหมือนเมื่อก่อน การแข่งขันที่รุนแรงจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหม่ๆ และการปรับตัวที่ล่าช้า ทำให้ Yahoo ค่อยๆ สูญเสียความนิยมและส่วนแบ่งทางการตลาดไป

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Yahoo มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารหลายครั้ง และเผชิญกับปัญหาด้านกลยุทธ์และการแข่งขันที่รุนแรง จนในที่สุดก็มีการขายธุรกิจหลักให้กับ Verizon Communications ในปี 2017 และต่อมาในปี 2021 Verizon ก็ขายกิจการ Yahoo และ AOL ให้กับ Apollo Global Management ซึ่งเป็นการยุติบทบาทของ Yahoo ในฐานะบริษัทอิสระ

Yahoo ในปัจจุบัน: ยังคงให้บริการอะไรบ้าง?

แม้ว่าจะไม่ได้เป็นยักษ์ใหญ่แห่งโลกอินเทอร์เน็ตเหมือนในอดีต แต่ Yahoo ก็ยังคงเปิดให้บริการในหลายๆ ส่วน และยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานอยู่ทั่วโลก บริการหลักๆ ที่ Yahoo ยังคงมีให้บริการในปัจจุบัน ได้แก่:

  • Yahoo Mail: ยังคงเป็นบริการอีเมลฟรีที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก
  • Yahoo News: แหล่งข่าวสารออนไลน์ที่ยังคงอัปเดตข่าวสารจากทั่วโลก
  • Yahoo Finance: เป็นแหล่งข้อมูลทางการเงินและเครื่องมือวิเคราะห์ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักลงทุน
  • Yahoo Sports: นำเสนอข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬา
  • Yahoo Fantasy Sports: แพลตฟอร์มเกมแฟนตาซีที่ได้รับความนิยม
  • Yahoo Life/Yahoo Style/Yahoo Entertainment: นำเสนอเนื้อหาไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และความบันเทิง

ปัจจุบัน Yahoo ดำเนินงานภายใต้บริษัท Apollo Global Management โดยมุ่งเน้นไปที่การเป็นแพลตฟอร์มสำหรับสื่อและเทคโนโลยีโฆษณา ถึงแม้จะไม่ได้มีบทบาทเป็น Search Engine หลักอีกต่อไป แต่ Yahoo ก็ยังคงเป็นส่วนหนึ่งของภูมิทัศน์อินเทอร์เน็ต และยังคงมีผู้ใช้งานประจำในบางบริการที่ยังคงแข็งแกร่ง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook
กำลังโหลดข้อมูล