Smart Display Zoom ฟีเจอร์อัจฉริยะใน iOS 26 ที่ปรับจอ CarPlay ให้พอดีกับจอรถยนต์ทุกคัน

ในระบบปฏิบัติการ iOS 26 ยังมีเรื่องที่เรียกว่าลึกลับอยู่พอสมควร โดยเฉพาะฟีเจอร์ของ CarPlay ใหม่ ซึ่งใครที่มีปัญหาตัวอักษรใน CarPlay เล็กไปมองไม่เห็น รอบนี้เราพาคุณมาพบกับ "Smart Display Zoom" ซึ่งเป็นถูกออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาความหลากหลายของขนาดหน้าจอในรถยนต์แต่ละรุ่นโดยเฉพาะ และทำให้คุณมองเห็นได้ง่ายขึ้น

"Smart Display Zoom" คืออะไร?

ในปัจจุบัน หน้าจอแดชบอร์ดของรถยนต์ที่รองรับ CarPlay นั้นมีรูปทรงและขนาดแตกต่างกันอย่างมาก ทำให้ในบางครั้ง User Interface (UI) ของ CarPlay อาจแสดงผลได้ไม่เต็มศักยภาพ Apple จึงได้พัฒนา Smart Display Zoom ขึ้นมาเป็นโซลูชัน

เมื่อผู้ใช้งานเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ในเมนู Settings ของ CarPlay ระบบจะทำการปรับขนาดการแสดงผลทั้งหมดโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นไอคอนแอป, เมนู หรือองค์ประกอบอื่นๆ ให้เล็กลงอย่างพอดีกับหน้าจอของรถยนต์รุ่นนั้นๆ ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดคือ ผู้ใช้จะสามารถแสดงไอคอนแอปบนหน้าจอ Home ได้เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งแถว ทำให้เข้าถึงแอปต่างๆ ได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

โอลิเวีย เฮสส์ วิศวกรซอฟต์แวร์ CarPlay ของ Apple กล่าวในวิดีโอสำหรับนักพัฒนาว่า "หน้าจอรถยนต์มีรูปทรงและขนาดที่หลากหลายมาก ใน iOS 26 การตั้งค่าบางรูปแบบจะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถปรับสเกลการแสดงผลได้ด้วย Smart Display Zoom เมื่อเปิดใช้งาน แอป CarPlay ของคุณจะถูกปรับขนาดให้เข้ากับสเกลใหม่โดยอัตโนมัติ"

CarPlay ใน iOS 26 ยกเครื่องใหม่ จัดเต็มฟีเจอร์อื่นๆ อีกมากมาย

นอกเหนือจาก Smart Display Zoom แล้ว CarPlay ใน iOS 26 ยังได้รับการอัปเกรดครั้งใหญ่พร้อมฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกหลายอย่าง ได้แก่:

• ดีไซน์ Liquid Glass: ปรับโฉมหน้าตา UI ใหม่ให้มีความโปร่งแสงและดูมีมิติมากขึ้น
• Live Activities บน Dashboard: แสดงผลกิจกรรมสดๆ เช่น ผลการแข่งขันกีฬา หรือสถานะการจัดส่งอาหาร บนหน้าจอหลักของ CarPlay ได้โดยตรง
• หน้าจอวิดเจ็ตใหม่ (New Widgets Screen): เพิ่มพื้นที่สำหรับวิดเจ็ตโดยเฉพาะเพื่อให้ผู้ใช้ปรับแต่งและเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น
• อัปเดตแอป Messages: รองรับการส่ง Tapbacks และการปักหมุด (Pin) บทสนทนาได้แล้ว
• Multi-touch ในแอปแผนที่: รองรับการสัมผัสหลายจุดพร้อมกันในแอปแผนที่ เพื่อการซูมหรือหมุนแผนที่ที่ง่ายดายยิ่งขึ้น
• AirPlay Video: สามารถเล่นวิดีโอจาก iPhone ขึ้นจอรถยนต์ผ่าน AirPlay ได้ (ขณะที่รถจอดอยู่)

สำหรับผู้ที่สนใจทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ เหล่านี้ จะต้องใช้ iPhone ที่ติดตั้ง iOS 26 ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเวอร์ชั่นนักพัฒนา หรือ Developer Beta แล้ว โดยจะเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปได้ทดลองในเวอร์ชัน Public Beta ในเดือนกรกฎาคม และคาดว่าจะปล่อยเวอร์ชันเต็มอย่างเป็นทางการในเดือนกันยายนนี้ รองรับตั้งแต่ iPhone 11 เป็นต้นไป