จับมือสอนดาวน์เกรด iOS 26 สู่ iOS 18 รุ่นปกติ สายลองกลับใจต้องรู้

หลังจากที่ Apple ได้ปล่อย iOS 26 Beta และ iPadOS 26 Beta ให้นักพัฒนาให้นักพัฒนาได้ลองเอามาปรับกับของตัวเอง แต่ก็มีผู้ที่เป็นสายอยากลองได้ติดตั้งมาเพื่อใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ กันไปแล้ว หลายคนอาจกำลังเผชิญกับปัญหาคลาสสิกของซอฟต์แวร์เวอร์ชันทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นแอปเด้ง, แบตเตอรี่ไหล, เครื่องค้าง หรือฟีเจอร์ทำงานไม่เสถียร หากอยากกลับใจวันนี้เรามีวิธี Downgrade มาบอกกัน
ความอันตรายของเวอร์ชั่นนักพัฒนา
ก่อนอื่นต้องบอกแบบนี้ครับ iOS 26 เวอร์ชั่นนี้มีเรื่องของความไม่สมบูรณ์เพราะเป็นการให้นักพัฒนาได้ทดลองเพื่อหาจุดบกพร่องก่อนที่จะทำให้เวอร์ชั่นดังกล่าวสมบูรณ์แบบและพร้อมใช้งาน ทำให้คุณเจอปัญหาเยอะไม่ว่าจะเป็น แอปเด้ง ใช้งานไม่ได้, แบตเตอรี่ไหลเป็นน้ำตก, เครื่องค้าง หรือฟีเจอร์ทำงานไม่เสถียร และบางทีเจอโรคประหลาดแลกกับได้ลองก่อน ซึ่งคนที่มีหลายเครื่อง ก็ลองได้ แต่ถ้าเอามาใช้เครื่องหลัก อันนี้ไม่แนะนำเลย
สิ่งที่ก่อนจะติดตั้งต้องทำ
ก่อนจะไปดูขั้นตอนการทำ Downgrade หรือติดตั้งเวอร์นนักพัฒนาเช่นกัน มีเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณต้องทราบก่อนดังนี้
-
เรื่องการ Backup ข้อมูล (สำคัญที่สุด!)
- ถ้าคุณได้สร้างไฟล์ Backup แบบ Archive ไว้บน Mac/PC ก่อนอัปเดตเป็น iOS 26 ยินดีด้วยครับ! คุณจะสามารถ Downgrade และกู้คืนข้อมูลทั้งหมดกลับมาได้เหมือนเดิม
- ถ้าคุณไม่ได้สร้าง Backup ไว้ คุณยังสามารถ Downgrade ได้ แต่ข้อมูลทั้งหมดบนเครื่องจะถูกลบหายไป และไม่สามารถกู้คืนได้ ต้องเริ่มต้นตั้งค่าเครื่องใหม่ทั้งหมด
-
คำเตือนสำหรับผู้ใช้ Apple Watch
- หากคุณได้อัปเดต Apple Watch ของคุณเป็น watchOS 26 Beta ไปแล้ว เมื่อคุณ Downgrade iPhone กลับมาเป็น iOS 25 (เวอร์ชันเสถียรล่าสุด) คุณจะไม่สามารถเชื่อมต่อและใช้งาน Apple Watch เรือนนั้นได้อีกต่อไป
- ที่สำคัญคือ ผู้ใช้ไม่สามารถ Downgrade watchOS ได้ด้วยตนเอง หากต้องการนำ watchOS 26 Beta ออก คุณต้องส่ง Apple Watch ของคุณไปให้ทาง Apple ดำเนินการให้เท่านั้น
ขั้นตอนการ Downgrade iOS 26 / iPadOS 26 Beta
เมื่อเข้าใจคำเตือนทั้งหมดแล้ว เรามาเริ่มย้อนกลับกันเลย เพราะทำได้ทั้ง Mac และ Windows อาจจะต่างกันเล็กน้อย เริ่มจาก
- เปิดโปรแกรม Finder บน Mac ของคุณ (หรือโปรแกรม iTunes สำหรับผู้ใช้ PC Windows)
- เชื่อมต่อ iPhone หรือ iPad ของคุณเข้ากับคอมพิวเตอร์ผ่านสาย Lightning หรือ USB-C
- ทำการ "เข้า Recovery Mode" บน iPhone หรือ iPad ของคุณ (วิธีการในแต่ละรุ่นจะแตกต่างกัน ดูได้ที่หัวข้อถัดไป)
- เมื่อเข้าสู่ Recovery Mode สำเร็จ บนหน้าจอคอมพิวเตอร์จะปรากฏหน้าต่าง Pop-up ขึ้นมา ให้คลิกที่ปุ่ม "Restore" (กู้คืน)
- ขั้นตอนนี้ Finder (หรือ iTunes) จะทำการลบข้อมูลทั้งหมดในเครื่องของคุณ และติดตั้ง iOS หรือ iPadOS เวอร์ชันล่าสุดที่เป็นเวอร์ชันทางการ (Public Release) ให้โดยอัตโนมัติ
- รอจนกว่ากระบวนการ Restore จะเสร็จสิ้นสมบูรณ์
วิธีเข้า Recovery Mode ในแต่ละรุ่น
-
iPad รุ่นที่มี Face ID
- กดแล้วปล่อย ปุ่มเพิ่มเสียง
- กดแล้วปล่อย ปุ่มลดเสียง
- กด ปุ่มด้านบน (Top Button) ค้างไว้จนกว่าเครื่องจะเริ่ม Restart และกดค้างต่อไปเรื่อยๆ จนกระทั่งหน้าจอแสดงผลเข้าสู่ Recovery Mode
-
iPhone XS หรือใหม่กว่า
- กดแล้วปล่อย ปุ่มเพิ่มเสียง
- กดแล้วปล่อย ปุ่มลดเสียง
- กด ปุ่มด้านข้าง (Side Button) ค้างไว้จนกว่าจะเห็นหน้าจอ Recovery Mode
ขั้นตอนสุดท้าย การเรียกคืนข้อมูล
หลังจากที่เครื่องของคุณ Downgrade และกลับมาเป็น iOS/iPadOS เวอร์ชันเสถียรเรียบร้อยแล้ว หากคุณมีไฟล์ Backup ที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ ก็สามารถทำการกู้คืนข้อมูลผ่าน Finder, iTunes หรือผ่านทาง iCloud เพื่อให้ข้อมูลทั้งหมดของคุณกลับมาทั้งหมด และใช้งานได้เหมือนเดิม
เอาจริงๆ ขั้นตอนเยอะกว่าตอนติดตั้งอีก ฉะนั้นคิดให้ดีก่อนลงจะดีที่สุดนะ เตือนแล้ว!!! ฟังกันหน่อยเถอะ!