
ฟีเจอร์ความปลอดภัยใหม่ล่าสุดจาก Google ที่ชื่อว่า Identity Check ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกบน Pixel ใน December 2024 Pixel Feature Drop กำลังถูกนำมาใช้งานอย่างรวดเร็ว โดย Samsung ได้รวมฟีเจอร์นี้เข้ากับ One UI 7 ที่พัฒนาบนพื้นฐานของ Android 15 แล้ว อย่างไรก็ตาม สำหรับอุปกรณ์ Android อื่นๆ ทั่วไป จะต้องรอการอัปเดตเป็น Android 16 จึงจะสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้
Identity Check คืออะไร? เมื่อเปิดใช้งาน ฟีเจอร์นี้จะบังคับให้ผู้ใช้ต้อง ยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ (ลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า) ก่อนที่จะอนุญาตให้เปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความปลอดภัยที่สำคัญ หรือเข้าถึงรหัสผ่านที่บันทึกไว้และข้อมูลสำคัญอื่นๆ ที่น่าสนใจคือ ระบบจะไม่ยอมให้ใช้ PIN หรือรหัสผ่านสำรอง ในการยืนยันตัวตนสำหรับ Identity Check คุณจำเป็นต้องใช้ไบโอเมตริกซ์เท่านั้น
แนวคิดเบื้องหลังฟีเจอร์นี้ชัดเจน นั่นคือ ป้องกันไม่ให้มิจฉาชีพที่ขโมยอุปกรณ์ของคุณไป สามารถเข้าถึงข้อมูลความปลอดภัยที่สำคัญได้ เว้นแต่พวกเขาจะบังคับให้คุณให้การยืนยันไบโอเมตริกซ์ด้วยตัวเอง ซึ่งในกรณีนั้น สถานการณ์จะร้ายแรงกว่าการโจรกรรมไปมาก

เนื่องจาก Identity Check จำเป็นต้องมีการเขียนโค้ดระบบยืนยันไบโอเมตริกซ์ใหม่ทั้งหมด เพื่อไม่ให้มีตัวเลือกในการใช้ PIN หรือรหัสผ่านสำรอง ทำให้ฟีเจอร์นี้จึงสามารถมาพร้อมกับการอัปเดต Android เวอร์ชั่นใหม่เท่านั้น Samsung เป็นหนึ่งในผู้ผลิตที่นำฟีเจอร์นี้ไปใช้งานใน One UI 7 อย่างรวดเร็ว และคาดหวังว่าผู้ผลิตรายอื่นๆ จะเพิ่ม Identity Check เข้าไปในการอัปเดต Android 16 ของตนด้วยเช่นกัน
การมาถึงของ Identity Check ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการยกระดับความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ Android โดยการเพิ่มชั้นการป้องกันที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นสำหรับการเข้าถึงข้อมูลสำคัญบนอุปกรณ์ ผู้ใช้งาน Android ทั่วไปจึงควรเตรียมพร้อมสำหรับการอัปเดตเป็น Android 16 เพื่อสัมผัสประสบการณ์การใช้งานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นนี้