สงกรานต์มือถือเปียกน้ำ น้ำเข้ามือถือ ทำยังไงดี? เปิดวิธีกู้ชีพมือถือด่วน

มือถือเปียกน้ำช่วงสงกรานต์ 2568 กลายเป็นปัญหาคลาสสิกที่หลายคนเผชิญ โดยเฉพาะกับมือถือที่กันน้ำไม่ได้หรือเจอน้ำเข้าแบบไม่ตั้งใจ หลายคนยังเชื่อว่าการนำมือถือไปแช่ข้าวสารคือทางรอด แต่ความจริงคือ สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด! เพราะอาจสร้างความเสียหายให้กับเครื่องได้มากกว่าที่คิด Sanook Hitech จะพาไปดูทริคกู้ชีพมือถือเปียกน้ำที่ถูกต้อง พร้อมเปิดข้อควรระวังที่ต้องเลี่ยงแบบด่วนๆ หากไม่อยากเปลี่ยนมือถือใหม่เพราะความเข้าใจผิด
มือถือเปียกน้ำ ทำยังไงดี
วินาทีแรกหลังมือถือสัมผัสน้ำคือช่วงเวลาทองของการกู้ชีพ สิ่งที่คุณต้องรีบทำโดยเร็วที่สุดคือ:
- ดับเครื่องแบบไม่ต้องคิด สิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง! ห้ามแม้แต่จะพยายามกดปุ่มใดๆ บนหน้าจอ การจ่ายไฟในขณะที่ภายในเครื่องยังเปียกชื้น อาจนำไปสู่ไฟฟ้าลัดวงจรและสร้างความเสียหายถาวรได้
- ปลดเปลื้องพันธนาการ ถอดทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถถอดออกจากตัวเครื่องได้ ไม่ว่าจะเป็นถาดใส่ซิมการ์ด, การ์ดหน่วยความจำภายนอก (MicroSD Card), และเคสโทรศัพท์ เพื่อเปิดทางให้น้ำที่ขังอยู่ภายในสามารถระบายออกมาได้ง่ายขึ้น
- ซับให้แห้งภายนอก ใช้ผ้าแห้งเนื้อนุ่มค่อยๆ ซับน้ำที่เกาะอยู่บริเวณรอบนอกตัวเครื่องให้มากที่สุด ระมัดระวังอย่าให้ผ้าไปดันน้ำเข้าไปในช่องต่างๆ เช่น ช่องชาร์จแบตเตอรี่ หรือช่องเสียบหูฟัง
- เขย่าเบาๆ อย่างมีทิศทาง ลองเขย่าเครื่องเบาๆ โดยหันช่องเปิดต่างๆ ของเครื่อง (เช่น ช่องชาร์จ, ช่องหูฟัง) ลงด้านล่าง เพื่อช่วยให้น้ำที่อาจค้างอยู่ภายในไหลออกมาตามแรงโน้มถ่วง แล้วทำไมไม่เขย่าแรง เพราะถ้าน้ำเข้าไปจริงๆ อาจจะทำให้น้ำอาจจะได้รับความเสียหายได้ง่าย
- ห้ามชาร์จไฟเด็ดขาด! หรือห้ามพยายามเสียบสายชาร์จแบตเตอรี่ในขณะที่เครื่องยังไม่แห้งสนิท เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อวงจรภายในได้
วิธีดูแลหลังมือถือเปียกน้ำ
หลังจากจัดการเบื้องต้นแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณควรทำต่อไปเพื่อดูแลมือถือที่เปียกน้ำ
- ใช้ซอง Silica Gel หากคุณมีซอง Silica Gel (สารดูดความชื้นเม็ดเล็กๆ ที่มักมากับผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์หรือเครื่องหนัง) ให้นำเครื่องใส่ในภาชนะที่ปิดสนิทพร้อมกับซองเหล่านี้ Silica Gel จะช่วยดูดความชื้นได้ดีกว่าข้าวสาร
- วางโทรศัพท์ไว้บนพื้นผิวที่แห้งและสะอาด ในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หลีกเลี่ยงการวางไว้กลางแดดจัดโดยตรง หรือการใช้ความร้อนจากไดร์เป่าผมเป่า เพราะความร้อนที่มากเกินไปอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในเสียหายได้ การผึ่งลมในอุณหภูมิห้องเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด
- หัวใจของการกู้ชีพมือถือเปียกน้ำคือความอดทน รอจนกว่าคุณจะแน่ใจว่าเครื่องแห้งสนิทจริงๆ ก่อนที่จะพยายามเปิดเครื่อง อาจต้องใช้เวลาหลายชั่วโมง หรือข้ามคืน
- หลังจากที่คิดว่าเครื่องแห้งแล้ว ให้ตรวจสอบภายนอกว่ามีคราบน้ำ, รอยแตก, หรืออาการบวมของแบตเตอรี่หรือไม่
เมื่อคิดว่า มือถือแห้งสนิทแล้ว
- หลังจากรอจนมั่นใจว่าเครื่องแห้งสนิทแล้ว ให้ลองกดปุ่มเปิดเครื่อง หากเครื่องสามารถเปิดติดได้ ให้สังเกตการทำงานของเครื่องอย่างละเอียด ทดสอบการทำงานของหน้าจอสัมผัส, ระบบเสียง, กล้องถ่ายรูป, การเชื่อมต่อ Wi-Fi และ Bluetooth รวมถึงการโทรออกและรับสาย
- หากเครื่องยังไม่ตอบสนอง อย่าพยายามเปิดเครื่องซ้ำๆ การทำเช่นนั้นอาจทำให้ความเสียหายลุกลามมากยิ่งขึ้น ทางที่ดีที่สุดคือการนำเครื่องไปให้ช่างผู้ชำนาญการตรวจสอบและซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด
สิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด
- อย่าใช้ไดร์เป่าผมเป่า เพราะความร้อนที่สูงเกินไปจากไดร์เป่าผมสามารถสร้างความเสียหายให้กับชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ภายในเครื่องได้
- อย่ารีบร้อนเปิดเครื่อง การพยายามเปิดเครื่องในขณะที่ยังมีน้ำหรือความชื้นอยู่ภายใน เป็นสาเหตุหลักของการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
- อย่าเขย่าหรือกระแทกแรงๆ การกระทำดังกล่าวอาจทำให้น้ำกระจายไปยังส่วนอื่นๆ ที่ยังไม่โดนน้ำ และอาจทำให้ชิ้นส่วนภายในหลวมหรือเสียหายได้
- อย่าประมาทแม้จะมีคุณสมบัติกันน้ำ แม้ว่าโทรศัพท์บางรุ่นอาจมีคุณสมบัติกันน้ำ แต่ประสิทธิภาพในการกันน้ำอาจลดลงตามอายุการใช้งาน หรือหากตัวเครื่องมีรอยแตกหรือรอยร้าว
ต้องยอมรับว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ การที่เอามือถือสุดรักไปด้วยคือความเสี่ยงในเรื่องการโดนน้ำ อาจเป็นเรื่องที่น่ากังวล แต่การตั้งสติและปฏิบัติตามขั้นตอนการปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างถูกต้อง จะช่วยเพิ่มโอกาสให้มือถือของคุณกลับมาใช้งานได้อีกครั้ง และหากไม่มั่นใจในขั้นตอนใดๆ หรืออาการยังไม่ดีขึ้น การนำเครื่องไปให้ผู้เชี่ยวชาญดูแลคือทางออกที่ดีที่สุด เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นมากกว่าเดิม ขอให้สนุกกับสงกรานต์อย่างปลอดภัย และรักษามือถือของคุณให้ห่างไกลจากสายน้ำนะครับ!
อ่านเพิ่มเติม