
ดร.ศักดิ์สิน โรจน์สราญรมย์ อดีตกรรมาธิการปฏิรูปการศึกษา ออกโรงวิพากษ์วิจารณ์ระบบการศึกษาไทยอย่างตรงไปตรงมา โดยเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงหลักสูตรเป็นการ "เปลี่ยนหน้าปกหนังสือ" เท่านั้น แต่เนื้อหาและวิธีการสอนในห้องเรียนยังคงรูปแบบเดิม ส่งผลให้เด็กไทยยังคงประสบปัญหาในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา
ดร.ศักดิ์สิน ชี้ให้เห็นว่า ระบบปัจจุบันเน้นการ "จำ" มากกว่า "คิด" ทำให้เด็กไทยสอบเก่ง แต่ไม่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้ สะท้อนจากคะแนน PISA ที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำมาตลอด 20 ปี และคะแนน O-NET ที่ลดลงอย่างต่อเนื่องตลอด 22 ปี ซึ่งเป็นผลจากการที่ระบบไม่ได้ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงกระบวนการเรียนรู้ แต่เน้นเพียงการเปลี่ยนแปลงชื่อหลักสูตรเท่านั้น

ครูยุคใหม่ต้อง "จุดไฟความคิด" ไม่ใช่แค่ "ป้อนเนื้อหา"
ท่ามกลางความท้าทายนี้ กลุ่มครูระดับปฐมวัยจากโรงเรียนคาทอลิก 12 แห่ง ได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงแนวทางการสอน โดยนำแนวคิดมอนเตสซอรี่ (Montessori) ผสานกับ Active Learning และกระบวนการคิดขั้นสูงเชิงระบบ GPAS 5 Steps มาใช้ เพื่อเน้นให้ครูเป็น "ผู้อำนวยการเรียนรู้" (Learning Facilitator) มากกว่าเป็นเพียงผู้ถ่ายทอดความรู้แบบเดิม
ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กฤษเจริญ ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี กล่าวว่า ระบบการศึกษาแบบเดิมที่ให้ครูยืนบรรยายหน้าห้องและให้นักเรียนนั่งฟังอย่างเดียว เปรียบเสมือน "โรงงานผลิตซ้ำทางความคิด" ที่ไม่สอดคล้องกับศักยภาพที่แตกต่างกันของเด็กแต่ละคน
"เด็กแต่ละคนมีความถนัดและความสามารถที่แตกต่างกัน บางคนอาจเป็นนักคิด บางคนอาจเป็นนักประดิษฐ์ แต่ระบบปัจจุบันกลับจับพวกเขามาเรียนรู้ในกรอบเดียวกันและวัดผลด้วยข้อสอบชุดเดียวกัน ซึ่งไม่ใช่การเรียนรู้ที่แท้จริง" ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ กล่าว
พลิกโฉมห้องเรียน: จากพื้นที่สั่งสอน สู่พื้นที่แห่งการค้นพบ
ผู้อำนวยการโรงเรียนดรุณาราชบุรี ย้ำว่า ห้องเรียนในยุคปัจจุบันต้องเปลี่ยนแปลงไปเป็นพื้นที่แห่งการค้นพบ ที่เปิดโอกาสให้เด็กได้เรียนรู้ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง (Hands-on Learning) โดยใช้มือเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงจิตใจผ่านประสาทสัมผัสและความสนใจเฉพาะตัว ครูจึงต้องเปลี่ยนบทบาทจาก "ผู้สอน" ไปเป็น "ผู้เข้าใจเด็ก" อย่างแท้จริง

อนาคตการศึกษาไทย เริ่มต้นที่ "ใจครู" และ "พื้นที่ให้เด็กคิด"
ดร.ศักดิ์สิน และ ผศ.ดร.อภิสิทธิ์ เห็นพ้องต้องกันว่า การเปลี่ยนแปลงอนาคตของการศึกษาไทยไม่ได้เริ่มต้นที่การปรับปรุงหลักสูตรบนโต๊ะทำงานของนักวิชาการ แต่ต้องเริ่มต้นจากการ "เปลี่ยนหัวใจของครู" และ "การเปิดพื้นที่ให้เด็กได้คิด ได้ลงมือทำ ได้ลองผิดลองถูก และได้เติบโต"
บาทหลวงเดชา อาภรณ์รัตน์ หัวหน้าเขตการศึกษาที่ 6 อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้กล่าวขอบคุณ ดร.ศักดิ์สิน ที่เป็นผู้จุดประกายแนวคิดสำคัญในการจัดการศึกษาให้กับโรงเรียนในเครือคาทอลิก โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางรากฐานการศึกษาตั้งแต่ระดับปฐมวัยด้วยกระบวนการคิด เพื่อนำไปสู่ Active Learning
บาทหลวงเดชา ยังกล่าวถึงความท้าทายในสังคมปัจจุบันที่เด็กต้องเผชิญกับการล่อลวงและสิ่ง distractions ต่างๆ มากมาย การให้การศึกษาที่เน้นทั้งความรู้และคุณธรรมจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งเป็นสิ่งที่โรงเรียนคาทอลิกให้ความสำคัญมาโดยตลอด
การเปลี่ยนแปลงแนวทางการสอนในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการศึกษาไทยให้ก้าวทันโลกที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมุ่งเน้นการสร้าง "นักคิด" ที่สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้และเติบโตเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต