เฉลยแล้ว! ทำไมมือถือของคุณบอกความละเอียดสูงปรี้ด แต่จริงๆ ถ่ายมาแค่ 12 ล้านพิกเซล
เวลาคุณเดินไปหยิบมือถือของคุณมาถ่ายภาพเพื่อแชร์ลง Social Network หรือเก็บความประทับใจไว้ดีๆ แต่รู้หรือไม่ว่าการถ่ายภาพของคุณนั้นไม่ได้ใช้ความละเอียดสูงสุดของมือถือคุณ แบบนี้มันไม่คุ้มสิ!!! และทำไมถึงเป็นเช่นนั้น วันนี้ Sanook Hitech มีคำตอบ
พิกเซลของมือถือไม่ได้มีไว้เพื่อขยายภาพอย่างเดียว
พิกเซลของกล้องดิจิทัลทั่วไปจะมีการใช้ เซ็นเซอร์รับภาพ หรือ Image Processor ทำงานรวมกับเลนส์ และส่งเข้าไปประมวลผลของภาพ ซึ่งความสามารถเก็บให้ละเอียดก็ต้องใช้เซนเซอร์รับภาพที่ แต่ด้วยถ้ามีเลนส์ที่รับแสงไม่ดีภาพก็จะมืด แต่กล้องดิจิทัลสามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ ซึ่งอาจจะมีเลนส์ขนาดใหญ่มากขึ้น
ตรงข้ามกับมือถือที่ขนาดเล็กกว่า การที่จะต้องเอาเลนส์ใหญ่ๆ คงไม่เหมาะ ดังนั้นมือถือจึงนำพิกเซลที่เยอะ มารวมกันเป็นพิกเซลเดียว หรือ Binning Pixel เท่ากับเราสามารถรวมพิกเซล ตั้งแต่ 4 ต่อ 1, 8 ต่อ 1 หรือ 16 ต่อ 1 เพื่อทำให้สามารถเก็บรายละเอียดภาพที่แสงน้อย ได้ ส่วนแสงปกติพิกเซลก็จะไม่รวมกัน ซึ่งเราสามารถเลือกขยายความละเอียดได้ แต่ถ้ากดความละเอียดสูง การรวมกันจะไม่ทำงาน ภาพที่ออกมา ก็อาจจะมืดได้ในบางสถานการณ์
เหตุผลทางการตลาด
แน่นอนว่ามันคือการ “ขิง” ของผู้ผลิตกันเองว่า ฉันได้เลนส์ละเอียดกว่า ซึ่งหลายคนเริ่มจะนำมาใช้ ทั้งๆ ที่จริงแล้วการถ่ายที่ความละเอียดสูงสุดนั้นต้องกดอะไร แต่เขาไม่ได้บอกหรอก ให้คุณไปปรับเอง จะมีค่ายเดียวที่ตั้งความละเอียดสูงสุดตั้งแต่แรก ถ่ายแล้วระวัง ความจำจะเต็มนะ นั่นคือ iPhone โดยเฉพาะ iPhone 15 Pro ที่เปิดมาที่ความละเอียดสูงสุด และเน้นการบีบอัดแทน
และเราควรเลือกถ่ายภาพด้วยมือถือที่ความละเอียดเท่าไหร่
เรื่องนี้ก็ถกเถียงมานานแล้ว สำหรับทีม Sanook Hitech แนะนำว่าถ้าถ่ายเก็บบันทึกในมือถือ ก็เอาแค่ค่าเริ่มต้น หรือ 12 ล้านพิกเซลก็พอแล้ว จะได้ไม่เปลืองพื้นที่ความจำโดยไม่จำเป็นนั่นเองครับ
สำหรับครั้งหน้าจะมีเรื่องราวอะไรมาบอกเล่ากันต่อ อย่าลืมกลับมาติดตามกันต่อไปครับ
