Facebook กล่าวหา Apple ออก Guideline ใหม่ ตัดรายได้ค่าบูสต์โพสต์ของ Facebook

Apple ได้ปล่อยซอฟต์แวร์ iOS 16.1 ออกมา ซึ่งมีการอัปเดต App Store Guideline (แนวทางการตรวจสอบแอปใน App Store ของ Apple) ใหม่โดยระบุชัดเจนให้แอปอย่าง Facebook ที่มีบริการบูสต์โพสต์หรือโฆณาเนื้อหา จะต้องดำเนินการผ่านการซื้อภายในแอป หรือที่เรียกว่า In-App Purchase ซึ่งเป็นส่วนเสริมของ App Store เพื่อใช้ฟีเจอร์ดังกล่าว

นั่นทำให้ Meta บริษัทแม่ของ Facebook แสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวทางของ Apple และได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า Apple กำลังสร้างนโยบายเพื่อสนับสนุนธุรกิจของตัวเองในขณะที่ตัดรายได้จากแอปอื่น

“Apple ยังคงพัฒนานโยบายของบริษัทเพื่อให้ธุรกิจของตนเติบโตต่อไป ในขณะที่ตัดรายได้ของแอปอื่นที่อยู่ในเศรษฐกิจดิจิทัล ก่อนหน้านี้ Apple ได้กล่าวว่าไม่ได้ตัดส่วนแบ่งใด ๆ มาจากรายได้จากการโฆษณาของนักพัฒนา และตอนนี้ Apple ก็ได้เปลี่ยนใจ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอวิธีง่ายๆ ให้กับธุรกิจขนาดเล็กได้แสดงโฆษณาและขยายธุรกิจของพวกเขาในแอปของเรา”

Facebook นั้น อนุญาตให้บริษัทและภาคธุรกิจต่าง ๆ จ่ายค่า “บูสต์โพสต์” เพื่อให้บริโภคเห็นหรือเข้าถึงโพสต์หรือโฆษณานั้น ๆ บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียได้มากขึ้น โดยเป็นการตัดค่าบริการผ่านบัตรเครดิต, Paypal หรือบัญชีธนาคารของผู้ใช้โดยตรง ซึ่งหมายความว่า Apple จะไม่ได้รับส่วนแบ่งใด ๆ ที่ภาคธุรกิจและโฆษณาจ่ายให้ Facebook แต่อย่างใด ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ อย่าง Instagram, Twitter และ TikTok ก็ใช้นโยบายเช่นเดียวกันนี้ด้วย

ทั้งนี้ ก่อนที่ Apple จะอัปเดต Guideline ใหม่นั้น Apple ได้กล่าวหลายครั้งแล้วว่าเนื้อหาดิจิทัลทีขายภายในแอปนั้นจำเป็นต้องข่ายผ่าน In-App Purchase แต่ Facebook ได้แสดงความเห็นแย้งมาโดยตลอด โดยทั้ง Apple และ Meta เคยเข้าหารือกันในประเด็นการแชร์รายได้นี้เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาด้วย

ทางเว็บไซต์ TheVerge ได้รายงานเสริมว่า ปีเตอร์ อะจีเมียน (Peter Ajemian) โฆษกของ Apple ได้ออกมาแนะนำกฏใหม่ของ App Store และยืนยันว่า Apple แจ้งใน Guideline ให้ทราบชัดเจนว่าสินค้าดิจิทัลและบริการดิจิทัลจำเป็นต้องใช้ in-App Purchase

เขากล่าวว่า การบูสต์ซึ่งอนุญาตให้บุคคลหรือองค์กรจ่ายเงินเพื่อเพิ่มการเข้างถึงโพสต์หรือโปรไฟล์ได้มากขึ้นนั้นก็คือบริการดิจิทัลอย่างหนึ่ง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องใช้ In-App Purchase โดยทาง Apple ได้ดำเนินการเช่นนี้มาโดยตลอด และมีตัวอย่างแอปมากมายที่ประสบความสำเร็จจากการดำเนินตามนโยบายนี้