iPhone X กับ iPhone 14 Pro: คุณสมบัติใหม่ที่คาดหวังหากคุณรอถ้าต้องเปลี่ยน

iPhone X กับ iPhone 14 Pro: คุณสมบัติใหม่ที่คาดหวังหากคุณรอถ้าต้องเปลี่ยน

iPhone X กับ iPhone 14 Pro: คุณสมบัติใหม่ที่คาดหวังหากคุณรอถ้าต้องเปลี่ยน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ย้อนกลับไปในปี 2017 การเผยโฉมของ iPhone X ในเวลานั้นถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงก้าวกระโดดสำคัญของ iPhone อย่างมาก โดยตัดระบบ Touch ID และ ปุ่ม Home ออกไป ใช้การสั่งงานด้วยการปัด และจอ OLED, ฟีเจอร์ Animoji และ Wireless Charge และอื่นๆ มากมาย

และเมื่อเป็นเวลา 5 ปีที่หลายคนต้องการเห็นการเปลี่ยนอีกปีครั้ง การเปลี่ยนมาเป็น iPhone 14 Pro ตัวใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ หลายคนก็คงจับตาไม่น้อย เพราะการเพิ่มลูกเล่นแบบใหม่เกือบหมด ยิ่งกว่าทุกการเปลี่ยนแปลงที่ผ่านมา คำถามคือ มันเยอะแค่ไหน วันนี้เราจะพาคุณไปดูกันครับ

ชิปเร็วขึ้น 2 เท่าบนขุมพลัง A16

เริ่มกับเรื่องหน่วยประมวลผลที่ในชิป A15 ใน iPhone 13 Pro นั้นเร็วกว่า iPhone X มากถึง 2 เท่า (iPhone X ใช้ชิป A11) นั้นก็ว่าเร็วแล้ว แต่สิ่งที่น่าจับตามองกว่านั้นคือ iPhone 14 Pro นอกจากชิปประมวลผลเร็วแล้วคาดว่าจะมี Neural Engine มากถึง 16 Core คงจะเป็นการประมวลผลที่เร็วกว่า iPhone X ที่มี Neural Engine เพียงแค่ 3 แกนเท่านั้น

นอกจากนี้ iPhone รุ่นใหม่ๆ มาพร้อมกับชิป U1 ไว้ต่อเชื่อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ทำให้สามารถเข้ากับอุปกรณ์ใหม่ๆ ได้ทันที แต่ iPhone X ไม่มีให้

หน้าจอใหญ่ขึ้น และ สว่างมากขึ้น

iPhone X นั้นมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.8 นิ้วซึ่งมีขนาดกะทัดรัด แต่อาจะเล็กไปแล้ว เพราะ iPhone 14 Pro จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.1 นิ้วใหญ่ขึ้น และสำคัญคือหน้าจอของ iPhone 14 Pro จะสว่างกว่าเดิม โดยคาดว่าจะมีความสว่าง 375 nits ที่สู้แสงดีกว่าแน่นอน

โบกมือลา Notch ใหญ่ ๆ ไปได้เลย

iPhone 14 Pro

จากภาพหลุดของ iPhone 14 Pro เปิดเผยออกมาคือการเปลี่ยนแปลงของ Notch หรือชาวไทยคือติ่ง!!! ที่ใหญ่ๆ นั้นหายไป ฉะนั้นมีความเป็นไปได้ว่าติ่งใหญ่ๆ ของ iPhone X จะต้องโบกมือลาถ้าคุณเปลี่ยนมาใช้ iPhone 14 Pro ใหม่

น้ำหนักเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

สำหรับ iPhone X มีน้ำหนัก 0.38 ปอนด์ ในเวลานั้นถือว่าหนักแล้ว แต่ iPhone 13 Pro มีน้ำหนัก 0.45 ปอนด์ เพราะจอใหญ่ขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ว่าไม่แตกต่างกันมาก และคาดว่า iPhone 14 Pro น้ำหนักก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก

ลาก่อนระบบ 3D Touch

3D Touch ระบบสัมผัสหน้าจอที่ใช้แรงกดที่มีตั้งแต่ iPhone 6s, iPhone 7, iPhone 8, iPhone X และรุ่นสุดท้ายที่ใช้คือ iPhone XS ก็ถูกนำออกตั้งแต่ iPhone 11 Pro จะอาศัยแรงกดหน้าจอเป็นระยะเวลาแทน มาแทนที่ และใช้งานได้ง่ายกว่าเดิมแน่นอน แทบไม่ต้องออกแรงกดหน้าจอให้เปลืองแรงเลยครับ

สแกนใบหน้าเร็วขึ้น

iPhone X เป็นมือถือรุ่นแรกที่ใช้ Face ID คือการสแกนใบหน้าครั้งแรก ถ้ามองถึงเวลานั้นอาจจะไม่ได้สแกนใบหน้าที่เร็วขนาดนั้นหากมีการเปลี่ยนเครื่องก็จะทำงานเร็วขึ้นในส่วนของฟีเจอร์นี้

มีเทคโนโลยี Promotion (จอลื่นขึ้น)

iPhone 14

นอกจากหน้าจอใหญ่แล้ว การที่ iPhone 13 Pro เป็นต้นไปจะมีเทคโนโลยี ProMotion คือปรับ Refresh Rate ไปถึง 120Hz ความลื่นไหลของหน้าจอรุ่นใหม่เรียกไดว่าเร็วขึ้นแน่นอน

Always On Display หน้าจอเรืองแสงไม่ปิดจอก็รู้ข้อมูล

iPhone 14 Pro

หากคุณกำลังมองว่า iPhone ของเดิมไม่มีการแสดงผหน้าจอเรืองแสงบอกข้อมูลแบบ Apple Watch ก็มีข่าวดีว่า iPhone 14 Pro อาจจะติดตั้งฟีเจอร์ Always On Display มาให้ด้วยครับ

ขอบเรียบมากขึ้น วัสดุแข็งแรงขึ้น

สิ่งที่จะสังเกตได้ชัดเจนคือขอบของ iPhone 13 Pro จะมีการออกแบบให้เรียบแทนที่จะโค้งมน ประโยชน์คือ จะได้หน้าจอจับได้ถนัดมือมากขึ้นนั่นเองและยังแข็งแรงด้วยการใช้วัสดุแบบ Ceramic Shield รับรองรว่าแข็งแรงโดยเฉพาะด้านหน้า

รุ่นใหม่มีทั้ง Dual SIM, 5G และ Wi-Fi 6E

การเชื่อมต่อเป็นอีกรุ่นที่หลายคนมองหาในมือถือยุคนี้คือ จะต้องรองรับ 5G และ Wi-Fi 6E ที่รุ่นเดิมนั้นไม่มีให้แน่นอน สำหรับ iPhone 14 Series คาดว่าจะรองรับทั้ง 5G mความเร็วสูงขึ้นและ Wi-Fi6E ที่รองรับกับความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ไวขึ้นด้วยการต่อกับคลื่นความถี่ 6GHz ได้เรียกว่ารองรับอนาคต

ส่วนประเด็นของ Dual SIM (1 ซิมปกติ และ eSIM ที่ใส่เข้ามาได้อีกมากกว่า 1 ใบ) ถ้าย้อนไปถึง iPhone X ยังรองรับแค่ซิมการ์ดใบเดียวกว่า การเปลี่ยนมาใช้ iPhone 14 Pro ก็คาดว่าจะใส่ได้เหมือนกัน

พื้นที่เยอะขึ้น

ในการเปิดตัว iPhone X มีพื้นที่อยู่แค่ 64GB และมากสุด 256GB การอาจจะน้อยไปแล้ว การเปลี่ยนมาใช้ iPhone 14 Pro คุณก็จะได้ความจำที่มากขึ้นแค่เริ่มต้น 128GB แล้วครับ

แบตเตอรี่อึดขึ้น ชาร์จไฟไร้สายเร็วขึ้น และเกาะติดด้วย MagSafe

มาถึงเรื่องแบตเตอรี่กันบ้างครับ iPhone X นั้นมีแบตเตอรี่ที่อาจจะมได้เยอะพอ การเปลี่ยน iPhone 14 Pro นั้นก็สามารถใช้งานได้นานมากขึ้นเพราะแบตเตอรี่ใหญ่ นอกจากนี้มาพร้อมกับระบบชาร์จไฟไร้สายแบบใหม่ที่ยึดติด หรือ MagSafe ก็จะรองรับแล้ว แถมถ้าคิดว่าชาร์จไฟของเดิมช้าอยากได้ทันใจรุ่นใหม่ก็จัดให้ได้ด้วยการทำให้ระบบชาร์จไฟเร็วกว่าเดิม ถ้าใช้อุปกรณ์ถูกต้องตามที่ Apple ได้เปิดเผยนะ

กล้องใช้ประโยชน์ได้ดีจนลืมของเดิมไปเลย

iPhone 14 Pro

เรียกได้ว่าการเปลี่ยนแปลงกล้องของ iPhone X มาเป็น iPhone 14 Pro จะได้ทั้งกล้อง 3 ตัวที่เก่งขึ้นรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็น มุมกว้างมากขึ้น, ซูมแบบ Telephoto ไกลยังไงก็ไม่แตก (Optical 3X), และกล้องตัวหลัก 48 ล้านพิกเซลตามข่าวลือเรียกได้ว่าจัดเต็มมาก แถมยังมี Night Mode ที่ปรับแต่งได้ดีกว่าเดิมเก็บรายละเอียดดีมากขึ้น

ที่สำคัญคือมี LiDAR Sensor ทำให้วัดเรื่องความลึกของภาพเราต้องการถ่ายได้ด้วยจึงไม่แปลกใจว่าถ้าใครใช้รุ่นใหม่ๆ จะชอบในเรื่องของการวัดความชัดตื้นและลึกของภาพ Portrait หรือ ภาพบุคคล นั่นเอง

นอกจากกล้องหลังที่มาเต็มขนาดนี้แล้วกล้องหน้าก็เพิ่มความละเอียดเป็น 12 ล้านพิกเซล ที่ตั้งแต่ iPhone 11 Pro แล้ว การถ่ายภาพ Selfie ที่ละเอียดมากกว่าเดิมแน่นอน และไม่แน่ถ้ารุ่นใหม่ใส่ Auto Focus มาให้ด้วย แทบไม่ต้องคิดเลยครับ

สะดวกสบายผ่าน Wallet Apps

iPhone 14

ใน iPhone XS จะเริ่มมี Wallet Apps ให้บริการ เผื่อใครลืมสารพัดบัตร ก็สามารถมือถือแสดงได้ หรือจะใช้กุญแจรถหรือกุญแจบ้านใช้งานในรูปแบบของ Digital Key ได้เลยถือว่าสดสวกสบาย และยังมสามารถเปิด Express Mode เหมาะกับคนที่ต้องการเดินทางในระยะไกลที่สามารถประหยัดไฟมือถือของคุณได้

กันน้ำได้ดีกว่าเดิม

สำหรับ iPhone X จะมาพร้อมกับมาตรฐานกันน้ำแบบ IP67 เท่านั้น ซึ่งอาจจะน้อยไปแล้วแต่สำหรับ iPhone 12 Pro ขึ้นไปจะเพิ่มเป็น IP68 สามารถกันน้ำได้ลึกกว่าในระยะเวลาเท่ากัน

นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนเท่านั้นที่การเปลี่ยนแปลง iPhone X มาเป็น iPhone 14 Pro ที่เรียกได้ว่าเห็นได้ชัดเจนที่สุด เห็นแบบนี้ต้องมาติดตามกันต่อไปว่า iPhone ใหม่นี้จะเป็นแบบไปตามข่าวหลุดก่อนหน้านี้หรือไม่กันต่อไป

 

อัลบั้มภาพ 26 ภาพ

อัลบั้มภาพ 26 ภาพ ของ iPhone X กับ iPhone 14 Pro: คุณสมบัติใหม่ที่คาดหวังหากคุณรอถ้าต้องเปลี่ยน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook