[รีวิว] "HUAWEI FreeBuds 4" หูฟังเอียร์บัด ที่มาพร้อมเสียงระดับ Hi-Res ในราคา 4,499 บาท

[รีวิว] "HUAWEI FreeBuds 4" หูฟังเอียร์บัด ที่มาพร้อมเสียงระดับ Hi-Res ในราคา 4,499 บาท

[รีวิว] "HUAWEI FreeBuds 4" หูฟังเอียร์บัด ที่มาพร้อมเสียงระดับ Hi-Res ในราคา 4,499 บาท
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เปิดตัวอย่างเป็นทางการอีกรุ่นแล้วครับ สำหรับหูฟังไร้สายรุ่นใหม่ล่าสุดของทางหัวเว่ยอย่างเจ้า HUAWEI FreeBuds 4 เป็นหูฟัง Open-Fit หรือเอียร์บัด (Earbuds) ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีลดเสียงรบกวน Adaptive Ear Matching มอบคุณภาพเสียงระดับ Hi-Res รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทดีไวซ์ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน

 

untitled-11

หูฟังไร้สายแบบ Open-Fit ที่ชูความโดดเด่นด้านประสบการณ์เสียงสมจริง ด้วยเทคโนโลยี Open-Fit ANC 2.0 ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุด 25 เดซิเบล พร้อมไดนามิกไดรเวอร์ 14.3 มม. ตอบสนองย่านความถี่สูงสุด 40kHz เชื่อมต่ออัจฉริยะได้ถึงสองอุปกรณ์พร้อมๆ กัน สวมใส่สบาย พกพาสะดวกด้วยน้ำหนักเบาเพียง 4.1 กรัม รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว

19

และถือเป็นความโชคดีที่หลังงานเปิดตัวทีมงาน Sanook! Hitech ได้รับโอกาสจากหัวเว่ย ประเทศไทย ในการได้ทดลองเล่นผลิตภัณฑ์ใหม่รุ่นนี้และนำมาเขียนรีวิวเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันว่าสรุปแล้ว  HUAWEI FreeBuds 4 รุ่นใหม่และราคาที่เปิดขายเราควรเสียเงินหรือไม่? ก่อนเริ่มรีวิวเราก็ต้องทำความรู้จักกับสเปกของหูฟังไร้สายรุ่นใหม่กันก่อน

คุณสมบัติของ HUAWEI FreeBuds 4

  • ขนาด:  หูฟัง 41.4 มม. X 16.8 มม. X 18.5 มม. ,  เคสชาร์จ เส้นผ่านศูนย์กลาง 58 มม. หนา 21.2 มม.
  • น้ำหนั: หูฟัง 4.1 กรัม, เคสชาร์จ 38 กรัม
  • สี: Silver Frost, Ceramic White
  • ขนาดไดรเวอร์14.3 มม. ไดนามิกไดรเวอร์แบบ LCP ไดอะแฟรม
  • ระบบตัดเสียงภายนอกระหว่างการฟัง
  • ระบบตัดเสียงภายนอกระหว่างโทรศัพท์
  • ระบบต้านทานเสียงลม
  • ประเภทแบตเตอรี่: Lithium polymer แบบถอดออกไม่ได้
  • ความจุแบตเตอรี่: 30 mAh (หูฟัง), 410 mAh (เคสชาร์จ)
  • ระยะเวลาการใช้งาน 4 ชั่วโมง เมื่อปิดการใช้งาน ANC และ 22 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ 2.5 ชั่วโมง เมื่อเปิดการใช้งาน ANC และ 14 ชั่วโมงเมื่อใช้ร่วมกับเคสชาร์จ
  • เทคโนโลยีและระยะเวลาชาร์จ: ชาร์จแบบมีสาย: USB Type – C, ระยะเวลาชาร์จเต็ม 1 ชั่วโมงสำหรับหูฟังไร้สาย และ 50 นาทีสำหรับเคสชาร์จ
  • มาตรฐานการกันน้ำ: IPX4
  • บลูทูธ: Bluetooth 5.2

เริ่มกันด้วยรูปร่างและการดีไซน์ของ HUAWEI FreeBuds 4

แกะกล่องส่องอุปกรณ์ที่ให้มาในกล่อง    

  • หูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 4
  • เคสชาร์จ
  • สายชาร์จ USB-C
  • คู่มือการใช้งาน
  • ข้อมูลความปลอดภัย
  • ใบรับประกันสินค้า

24

23

หน้าตาของตัวกล่อง HUAWEI FreeBuds 4 นั้นจะมาในทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็กง่ายต่อการพกพาหรือเก็บไว้ในกระเป๋า

5

ดีไซน์ของ Huawei FreeBuds 4 

7

 ขอเริ่มที่ตัวเคสก่อน ยังคงเป็นแบบทรงกลม พกพาง่าย หากใครเคยใช้ Huawei FreeBuds 3 จะพบว่าดีไซน์ของมันนั้นคล้ายกันกับรุ่นเดิมทุกประการ มีปุ่มกดฝั่งซ้ายไว้สำหรับเชื่อมต่อ (Pairing) กับอุปกรณ์ใหม่ แถมยังรองรับระบบ Wireless Charging ตำแหน่งที่ชาร์จจะอยู่ที่ด้านหน้าของเคส ด้านหน้าจะมีไฟบอกสถานะการชาร์จไฟ และแสดงว่ามีไฟกี่เปอร์เซ็นต์โดยแบ่งออกเป็นสีดังนี้

  • เขียว = 80 - 100%
  • เหลือง = น้อยกว่า 80% แต่มากกว่า 50% 
  • แดง = ต่ำกว่า 50% 
  • ขาว = กำลังเชื่อมต่อ หรือ Pairing Mode

27

25

ส่วนล่างของตัวเคสนั้นจะมาพร้อมกับช่องชาร์จ USB Type C ไว้สำหรับเสียบชาร์จไฟ และน้ำหนักของเคสอยู่ที่ 38 กรัม นับว่าน้ำหนักเบาและยังพกพาไปได้ได้ทุกที่เพราะขนาดไม่ได้หนาจนเกินไป และยังมีสีให้เลือก 2 สี 2 สไตล์ คือสีเงิน Silver Frost พื้นผิวด้าน ให้ความรู้สึกสง่างามและหรูหรา กับสีขาว Ceramic White พื้นผิวมันวาว คลาสสิกและแมทช์กันได้กับการแต่งกายทุกลุค สีสันนั้นจะสอดคล้องกับตัวหูฟังด้วยครับ

1

เมื่อเปิดหูฟังออกมาจะพบว่าฝานั้นกางได้กำลังดี แต่ว่าอาจจะต้องใช้เล็บในการช่วยสะกิดสักเล็กน้อย เพื่อให้สามารถดึงหูฟังออกไปใช้งานได้ แต่ถ้ากางได้มากกว่านี้ผมจะถือว่ามันน่าใช้มากกว่านี้ครับ

26

13

ส่วนตัวหูฟังนั้นเป็นแบบ Open-Fit (หรือคนทั่วไปจะเรียกว่า EarBuds) หมายความว่าใส่แล้วจะไม่ได้ดันหูและเหมาะกับคนที่ไม่ชอบหูฟังแบบมีจุกยางหรือ In-Ear ที่จะใส่แล้วอึดอัดเกินไป แต่สิ่งที่ต้องระวังอย่างมากคือ มันไม่ค่อยจะแน่นเท่าไหร่ดังนั้นต้องเช็คให้ดีว่าหูฟังของคุณใส่ได้ถูกตำแหน่งหรือไม่ หากไม่แน่นอาจจะหลุดได้ง่ายและเสียงไม่ดังพอ

9

ไมโครโฟนของหูฟังรุ่นนี้ติดตั้งมาให้ทั้งหมด 3 จุดไว้สำหรับลดเสียงรบกวนและเพิ่มเสียงการสนทนาให้ดีมากขึ้นกว่าเดิม และยังมีเซนเซอร์สำหรับจับเรื่องการสวมใส่ที่หน้าหูฟัง เพื่อจะหยุดการเล่นเพลง เมื่อคุณถอดหูฟังออกไป และนอกจากนี้ขั้วข้างล่าสุดไว้สำหรับชาร์จไฟหูฟัง แนะนำว่าควรทำความสะอาดแบบ แผ่วเบาที่สุด เพื่อหน้าหน้าสัมผัสกับเคส รองรับการใช้งานได้ยาวนานขึ้น 

11

12

น้ำหนักของหูฟังที่มีเพียงแค่ 1 กรัมกับการทดลองใช้งานจริง

8

Huawei FreeBuds 4 มีจุดเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่เบาเพียง 1 กรัม ซึ่งทดลองกับการใส่หูของตัวอย่างกว่า 10,000 แบบทำให้ทรงกระชับและเข้ากับหูได้ดี เมื่อทดลองใส่แล้ว ถือว่าทำได้ดี แต่ว่าเนื่องจากวัสดุของหูฟังที่ดูเงา มาเจอกับเหงื่อของคนเวลาออกกำลังกาย มันก็เลยจะทำให้หูฟังหลุดได้ง่าย ฉะนั้นต้องระวังในจุดนี้ อย่างไรก็ตาม ถ้าใส่และปรับองศาให้ถูกต้อง มันจะใส่ได้อย่างพอดี

การเชื่อมต่อครั้งแรกของ Huawei FreeBuds 4

4

หากคุณใช้งานอุปกรณ์ของ Huawei เช่นมือถือหรือ Tablet ของ Huawei นั้นจะพบว่าเมื่อเปิดฝาเคสก็จะแสดงผลตามรูปด้านบน โดยอุปกรณ์จะต้องใช้ระบบปฏิบัติการ EMUI 10.0 ขึ้นไปรวมไปถึง Harmony OS ด้วย

นอกจากนี้ Huawei FreeBuds 4 มีการปรับปรุงระบบการเชื่อมต่อ โดยเลือกใช้ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.2 ทำให้มีประโยชน์ต่อการเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ โดยรองรับการต่อเชื่อม 2 อุปกรณ์พร้อมกับ และยังทำงานกับโทรศัพท์มือถือ, Tablet ได้แบบไร้รอยต่อ แถมยังเชื่อมต่อกับ Notebook, Smart Watch, Smart TV ได้ด้วย 

แต่ความพิเศษยังมีอยู่ที่โหมดสลับการทำงานอัตโนมัติ หากคุณใช้ Tablet หรือ มือถือจาก Huawei ที่ใช้ EMUI 10.0 ขึ้นไปจะมีการแสดงผล POP-UP ว่าเชื่อมต่อได้ง่ายดาย โดยการเชื่อมต่อครั้ง

มาทดลองฟังเสียงจากระบบลำโพง Hi-Res กับไดนามิกไดร์เวอร์ขนาดใหญ่ 3 มม. ที่ตอบสนองความถี่ได้มากถึง 40 kHz กันดีกว่า

16

ในเรื่องคุณภาพเสียงถือว่าให้พลังที่ดี เกิดจากไดนามิกไดรเวอร์ขนาดใหญ่ 3 มม. ซึ่งใช้ไดอะแฟรมที่มีส่วนประกอบของพอลิเมอร์ผลึกเหลว (LCP) รองรับการตอบสนองต่อย่านความถี่สูงสุดถึง 40 kHz มอบประสบการณ์เสียงที่เก็บรายละเอียดได้ระดับมืออาชีพ มาพร้อมกับเสียงเบสอัดแน่น พร้อมช่องเสียงแบบสุญญากาศและท่อเสียงเบส

นอกจากนี้ไมโครโฟนของ Huawei FreeBuds 4 ยังรองรับการบันทึกเสียงคุณภาพระดับ HD ด้วยค่าความละเอียดในการบันทึกเสียงสูงสุดที่ 48 kHz ใช้ใส่ถ่าย Vlog เก็บรายละเอียดเสียงได้แบบมืออาชีพ แถมคุยสายชัดเจนกับคุณภาพเสียงการคุยโทรศัพท์สูงสุดที่ 32 kHz

เมื่อทดลองฟังจริงเทียบกับ Huawei FreeBuds 3 พบว่าเสียงที่ออกมานั้นจะมีมิติมากกว่าเดิมพอสมควร เช่นเสียงของนักร้องก็มาแบบอย่างต่อเนื่องคมชัด คู่กับ เครื่องดนตรีที่เก็บรายละเอียดดี แต่ว่าถ้าต้องฟังเพลงที่มีเครื่องดนตรีเยอะ Dynamic ที่ได้นั้นอาจจะดูแปลกไปหน่อย เพราะเท่าที่สังเกตคือ เครื่องดนตรีจะอยู่ไกลจากตัวนักร้องมากพอสมควร จะทำให้เสียงนักร้องดังกว่าและกลบเครื่องดนตรีไปหมด แต่ก็สามารถแก้ไขได้โดยจะต้องมีการปรับ Equalizer ช่วยสักเล็กน้อย แต่ถ้าเป็นคนฟังเพลงอาจจะต้องหาจุกยากใส่ครอบเล็กน้อยเพื่อให้เกิดความแน่นที่มากกว่านี้

เทคโนโลยี Open-Fit ANC 2.0 และไมโครโฟน 3 ตัว ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุด 25 เดซิเบล กับการทำงานจริง

11

เนื่องจาก Huawei FreeBuds 4 นั้นออกแบบหูฟังแบบ Open-Fit ถ้าปกติแล้วจะไม่สามารถตัดเสียงรบกวนได้ แต่ทาง Huawei ได้ใส่เทคโนโลยี Open-Fit ANC 2.0 ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นเทคโนโลยีชั้นนำของแวดวงอุตสาหกรรม ลดเสียงรบกวนรอบข้างได้สูงสุด 25 เดซิเบล ทำให้สามารถดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มที่ แต่ขณะเดียวกันก็ยังไม่พลาดข้อมูลสำคัญรอบด้านอย่างเสียงคนรอบตัวหรือการแจ้งเตือน ทั้งหมดจะใช้ไมโครโฟน 3 ตัวช่วยกันระหว่างคุยโทรศัพท์

โดยไมโครโฟน 2 ตัวมีระบบการตัดเสียง ANC และเมื่อทำงานจริงๆ แล้วพบว่าเสียงรบกวนทำได้ดีกว่ารุ่นเดิมอยู่พอสมควร รอบนี้ไม่ได้ปล่อยให้ AI ทำงานอย่างเดียวแต่มีการใช้ไมโครโฟนหักเหเสียงออกไปช่วยให้เสียงรบกวนนั้นลดลงได้มากพอสมควร ทั้งนี้ ถ้าได้ทดลองในสถานการณ์ต่างๆ เช่นเดินอยู่ในพื้นที่ที่มีคนไม่ได้เยอะ ได้ยินเสียงสนทนาคมชัด แต่ยังมีการเล็ดลอดของเสียงภายนอกอยู่บ้าง แต่ถ้า เป็นสถานที่มีเสียงรบกวนเยอะๆ อาจจะต้องทำใจว่ายังไงก็มีเสียงรบกวนแน่นอน แต่มันจะน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ พอสมควร

นอกจากนี้ ยังมาพร้อม Low Latency Gaming Mode ให้ผู้ใช้ได้เพลิดเพลินกับการเล่นเกมด้วยค่าความหน่วงต่ำกว่า 150 มิลลิวินาที ภาพกับเสียงสอดคล้องกันแบบไร้รอยต่อ ซึ่งเอาเข้าจริงคือ ถ้าเป็นเกมแนว Shooting ที่ได้ทดลองเล่นกับ Pubg ถือว่าทำได้ดี แต่อาจจะยังไม่สามารถระบุตำแหน่งของศัตรูได้ว่ามาจากทิศทางไหน และการเปิดโหมดนี้ทำได้ง่ายเพียงแค่แตะที่หูฟังเท่านั้น

การสั่งงานสัมผัสของ Huawei FreeBuds 4

 12

การสั่งงาน Huawei FreeBuds 4 สามารถทำได้ดีโดยการแตะที่ก้านของหูฟังรองรับคำสั่งมากมายเช่น

  • แตะ 2 ครั้งเพื่อเล่น/หยุดเพลงชั่วคราว หรือรับสาย/วางสาย
  • แตะค้างเพื่อเปิด/ปิดโหมด ANC
  • สไลด์ขึ้น/ลงเพื่อปรับระดับเสียง
  • และ สามารถตั้งค่าคำสั่งการใช้งานตามความคุ้นเคยของตนเอง 

และยังสามารถตั้งค่าได้ผ่าน Application ที่มีชื่อว่า Huawei AI Lite ที่รองรับการทำงาน เฉพาะบนฝั่งของแอนดรอยด์เพื่อปรับแต่งประสิทธิภาพเพิ่ม แต่เอาจริง ๆ แล้วหูฟังแบบนี้แกะกล่องแล้วเสียบฟังเลยก็มีคุณภาพเสียงก็ดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องปรับอะไรเพิ่ม แต่ถ้าอยากเพิ่มลูกเล่นอะไรนิดหน่อยก็สามารถดาวน์โหลด Huawei AI Life มาปรับ ๆ แต่ง ๆ ก็ได้เช่นกัน

screenshot_20210705_172059_co

เราสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นอย่าง Huawei AI Life จากใน HUAWEI AppGallery มาใช้งานได้ทันทีครับ ภายในของ Apps HUAWEI AppGallery  ก็เหมือนกับตลาดซื้อหาแอปพลิเคชั่นต่าง ๆ มาลงเครื่องเหมือนกับใน Google Play Store ของ Google นั้นแหละครับ 

page1

page2

ในส่วนของ Application Huawei AI Lite ยังมีฟีเจอร์การปรับการทำงานลูกเล่นและ Sensor ต่างๆ ของ Huawei FreeBuds 4 ได้ครบเช่น ปริมาณ แบตเตอรี่, การตั้งค่ารูปแบบของปุ่ม, การตั้งค่าเซนเซอร์ รวมไปถึงการอัปเดต Firmware พร้อมกับมีคำแนะนำในการใช้อย่าง Help เป็นต้น

page3

การใช้งานแบตเตอรี่ / ระบบชาร์จไฟ

1

ภายใน Huawei FreeBuds 4 จะแบ่งแบตเตอรี่ออกเป็น 2 ส่วนได้แก่ หูฟังมาพร้อมแบตเตอรี่ข้างละ 30 mAh และเคสชาร์จอีก 410 mAh ทำให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมง เมื่อปิดการใช้งาน ANC และนานสูงสุด 22 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และใช้ร่วมกับเคสชาร์จ ถือว่านานอยู่ครับ

ทั้งนี้ HUAWEI FreeBuds 4 รุ่นที่วางจำหน่ายในประเทศไทยจะรองรับเฉพาะการชาร์จแบบมีสายและเทคโนโลยีชาร์จเร็วเท่านั้น แต่สำหรับคนใจร้อนอยากฟังเพลงทันทีแค่เอาหูฟังใส่เคสเพียง 15 นาที ก็สามารถใช้งานต่อได้ 5 ชั่วโมงได้สบายๆ (แต่ต้องปิดระบบ ANC นะ) 

รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ใช้งานไม่สะดุดตลอดวัน

    • รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 15 นาที ก็ใช้งานต่อได้อีก 2.5 ชั่วโมง
    • นอกจากนี้ ตัวหูฟังมาพร้อมแบตเตอรี่ 30 mAh และเคสชาร์จอีก 410 mAh ทำให้เล่นเพลงต่อเนื่องได้นานสูงสุด 4 ชั่วโมง เมื่อปิดการใช้งาน ANC และนานสูงสุด 22 ชั่วโมงเมื่อปิด ANC และใช้ร่วมกับเคสชาร์จ

สรุปความน่าใช้งานของ HUAWEI FreeBuds 4 หลังได้ใช้งานอย่างจริงจัง 

 22

โดยรวมแล้ว Huawei FreeBuds 4 ถือว่าพัฒนาและลบจะอ่อนของ Huawei FreeBuds 3 ได้ค่อนข้างครบหมด อาจจะต้องมีปรับในเรื่องของก้านเล็กน้อยให้สามารถใส้ได้อย่างพอดีและไม่ไหลออกเวลาโดนเหงื่อ เพราะคาดว่ามีหลายคนก็นำหูฟังนี้ไปออกกำลังกายในบ้านอยู่ไม่น้อย แต่นอกนั้น เสียงดีขึ้น ไมโครโฟนทำงานดีขึ้น การทำงาน ANC เสถียรจนใกล้เคียงกับ Huawei FreeBuds Pro ที่จัดเป็นหูฟังเรือธงของค่ายนี้อยู่ครับ

3-2

28

สำหรับท่านใดที่สนใจหูฟัง HUAWEI FreeBuds 4 ล่ะก็ สามารถแวะเข้ามาทดลองเล่นและฟังกันได้ที่ช้อปของ HUAWEI ได้ทุกสาขาเลยครับ  โดยราคาของ HUAWEI FreeBuds 4 นั้นอยู่ที่  4,499 บาท

untitled-13

สีขาว Ceramic White และ สีเงิน Silver Frost 

สรุปว่าหากคุณกำลังมองหาหูฟังฟังไว้ใช้งานใหม่สักอัน ที่ไม่ได้เป็นรูปทรง In Ear และใส่สบายใช้งานง่าย HUAWEI FreeBuds 4 ผมว่ามันสามารถตอบโจทย์คุณได้มาก ๆ ทั้งยังคุ้มค่าเรื่องราคา และคุณภาพในตัวครับ

HUAWEI FreeBuds 4 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีเงิน Silver Frost และสีขาว Ceramic White วางจำหน่ายในราคา 5,999 บาท ลดพิเศษสำหรับโปรโมชันพรีออเดอร์เหลือเพียง 4,499 บาท พร้อมรับฟรีบริการ HUAWEI Music VIP นาน 3 เดือน รวมมูลค่า 387 บาท เมื่อซื้อระหว่างวันที่ 14 กรกฎาคม 2564 ถึง 22 กรกฎาคม 2564

โดยสามารถเป็นเจ้าของได้ที่ HUAWEI Experience Store และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ รวมถึงช่องทางออนไลน์ที่ร่วมรายการอย่าง HUAWEI Online Store, Shopee, Lazada และ JD Central

อัลบั้มภาพ 31 ภาพ

อัลบั้มภาพ 31 ภาพ ของ [รีวิว] "HUAWEI FreeBuds 4" หูฟังเอียร์บัด ที่มาพร้อมเสียงระดับ Hi-Res ในราคา 4,499 บาท

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook