Hands On | จับเครื่องจริง Galaxy Buds Pro หูฟังไร้รุ่นใหม่ล่าสุดของซัมซุง
หลังจากที่เราได้รับเครื่อง Samsung Galaxy S21 , Samsung Galaxy S21+ และพี่ใหญ่อย่าง Samsung Galaxy S21 Ultra สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของ Samsung มาทดลองเล่นและรีวิวให้แฟนๆ Sanook Hitech ได้อ่านกันไปแล้ว
วันนี้พวกเรามีผลิตภัณฑ์อีกรุ่นของ Samsung มาทดลองเล่นและเล่าให้แฟนๆ ได้อ่านกันอีกหนึ่งชิ้น...ใช่แล้วครับวันนี้เราได้หูฟัง Samsung Galaxy Buds Pro หูฟังไร้สายที่มาพร้อมกับนวัตกรรม ตัดเสียงรบกวนอย่างเทคโนโลยีอัจฉริยะ ANC หรือ Active Noise Cancelling รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมๆ Samsung Galaxy S21 มาเล่นกัน
ทั้งนี้ภายในงานนอกจากทาง Samsung จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงแล้ว เรายังได้เห็นผลิตภัณฑ์ใหม่เปิดตัวอีก 2 อย่างนั้นคือ Samsung Galaxy Buds Pro และ Samsung Galaxy SmartTags ซึ่งแน่นอนว่ามีหรือที่พวกเราจะไม่รีบเล่นและมาเล่นให้ฟัง
เริ่มกันด้วยเรื่องของรูปร่างหน้าตาและภาพลักษณ์แรกเห็นของ Samsung Galaxy Buds Pro บอกเลยว่ามันมาพร้อมกับดีไชต์ที่หลุดออกมาให้เห็นก่อนหน้านี้ทุกอย่าง แต่ภาพหลุดหรือจะสู้กับการได้เล่นของจริงวันนี้...
คุณสมบัติจำเพาะของ Galaxy Buds Pro
- ขนาดและน้ำหนัก : หูฟัง: 19.5 x 20.5 x 20.8 mm, 6.3g, เคสชาร์จ: 50 x 50.2 x 27.8 mm, 44.9กรัม
- ลำโพง: 2 ทิศทาง (11mm woofer + 6.5mm tweeter)
- ไมโครโฟน : 3 ตัว (2 ด้านนอก + 1 ด้านใน) + Voice Pickup Unit + Wind Shield
- Ambient Sound: ขยายเสียงภายนอกได้สูงสุด 20 เดซิเบล, ปรับได้ 4 ระดับ'
- ระบบตรวจจับเสียง
- ANC: ตัดเสียงรบกวนภายนอกได้สูงสุด 99%, ปรับได้ 2 ระดับ
- Voice Detect: ระบบตรวจจับเสียงเพื่อสลับโหมด ANC และ Ambient Sound โดยอัตโนมัติ
- ความจุแบตเตอรี่ : ตัวหูฟัง 61 mAh,เคสชาร์จ 472 mAh
- ระยะเวลาในการฟัง : 5 ชั่วโมง / รวม 18 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC),8 ชั่วโมง / รวม 28 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC)
- ระยะเวลาในการสนทนา : 4 ชั่วโมง / รวม 14.5 ชั่วโมง (เมื่อเปิด ANC), 5 ชั่วโมง / รวม 17.5 ชั่วโมง (เมื่อปิด ANC)
- การชาร์จ : ฟังต่อเนื่อง 1 ชั่วโมง / ชาร์จเร็ว 5 นาที รองรับการชาร์จไร้สายมาตรฐาน Qi
- การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0® Codec: Scalable (Samsung proprietary), AAC, SBC
- เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Gyro, Proximity, Hall, Touch, Voice Pickup Unit (VPU)
- การรองรับ : Android 7.0 ขึ้นไป, RAM 1.5GB ขึ้นไป
- มาตรฐานกันน้ำ IPX7
อุปกรณ์ที่มาในกล่อง
- ตัวหูฟัง Samsung Galaxy Buds Pro
- กล่องสำหรับใส่หูฟังและเป็น Charging Case
- จุกซิลิโคนสำรอง
- สายชาร์จไฟ USB-C
- คู่มือการใช้งาน
รูปร่างและการดีไซน์ของ Galaxy Buds Pro
แน่นอนว่าสิ่งแรกที่เราเห็นในหูฟังรุ่นใหม่คือมันมาพร้อมกับดีไชต์ใหม่ทั้งหมดคือไม่เหมือนกับ Samsung Galaxy Buds Live หูฟังทรงถั่วรุ่นพี่แน่นอน ซึ่งเจ้า Glaxy Buds Pro มาพร้อมรูปทรงของหูฟังสุดคลาสสิกแบบใหม่ ออกแบบมาเพื่อการสวมใส่ที่สบายมากขึ้น
แม้สวมใส่ติดต่อยาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม ที่สำคัญไม่หลุดร่วงง่ายขณะออกกำลังกาย และด้วยช่องลมที่ช่วยปรับสมดุลแรงดันและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในช่องหูของคุณ หูฟังนี้จึงพอดีกับหูของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้คุณลืมไปว่าคุณสวมใส่หูฟังอยู่
โดยในรุ่นนี้มีให้เราเลือกใช้งานด้วยกันทั้งหมด 3 สีคือ สี Phantom Silver และยังมีสี Phantom Violet และ Phantom Black ซึ่งสีที่เราได้มารีวิวในครั้งนี้คือ Phantom Violet สีที่อยากได้มาลองเล่นพอดี (ส่วนตัวผมว่าสีนี้สวยสุดแล้ว สำหรับในรุ่นนี้)
เพราะเมื่อคุณเปิดฝาสัญญาณไฟด้านหน้าของหูฟังก็จะติดเพื่อบอกว่าปริมาณไฟเหลือที่เท่าไหร่ครับ
เมื่อเราเปิดเคสออกมาก็จะพบกับหูฟังทั้งสองข้างวางชาร์จอยู่พร้อมไฟบอกสถานะแบตเตอรี่การชาร์จแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน หากเป็นสีเขียวบ่งบอกว่าแบตเตอรี่เต็ม และหากเป็นสีแดงเป็นสถานะการชาร์จแบตเตอรี่ของหูฟัง
ด้านหลังของกล้องชาร์จไฟจะมี USB-C สำหรับชาร์จไฟให้หูฟังนั่นเอง
แถบแม่เหล็กสำหรับยึดติดฝาของตัวเคส
ต่อมาเป็นส่วนของหูฟัง Galaxy Buds Pro ให้มาเป็นลักษณะ In-Ear เสียบเข้าไปในรูหูอย่างง่ายดาย และมีจุกให้ปรับขนาดได้ทั้งหมด 3 ขนาดด้วยกัน
ด้านหน้าจะมีปุ่ม Touchpad พร้อมกับไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนถือว่าตัดได้ง่าย
ตัวหูฟังสั่งงานด้วยการสัมผัส
ส่วนการวางชาร์จไฟในกล่องจะบอกว่าไฟฟ้าของหูฟังนั้นเป็นอย่างไรโดยบอกเป็นสถานะทั้งหมด 3 สีได้แก่สีเขียว, สีเหลือง และ สีแดง
หมดห่วงเรื่องน้ำเพราะ Samsung Galaxy Buds Pro มาพร้อมมาตรฐาน IPX7 จากการทดสอบในห้องปฏิบัติการ กันน้ำสะอาดลึกสูงสุด 1 เมตรนานสูงสุด 30 นาที แต่เราไม่แนะนำให้ใส่มันลงน้ำทะเลหรือใส่ว่ายน้ำครับ
เชื่อมต่อ Samsung Galaxy Buds Pro และเริ่มใช้งาน
เปิดฝาตัวหูฟังก็จะ Pairing กับสมาร์ทโฟนให้ทันทีโดยที่ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นเพียงแค่คุณต้องทำการเปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟนเครื่องที่ต้องการเชื่อมต่อ
อีกทั้งคุณยังสามารถปรับแต่ง Samsung Galaxy Buds Pro ผ่าน แอปพลิเคชัน Galaxy Wearable หรือ Samsung Galaxy Buds บน iOS
ซึ่งคุณสามารถตั้งค่าฟีเจอร์หลักอย่าง Active Noise Canceling (ANC) , Ambient Sound และ Voice Detect ได้ในนี้ครับ สำหรับการแตะค้างสามารถเปลี่ยนค่าได้ โดยเข้าไปที่ Samsung Galaxy Buds Pro สำหรับ iOS และ Galaxy Wearable สำหรับ Android สามารถเลือกเปลี่ยนได้
- การปิด-ปิด Active Noise Canceling
- คำสั่งเสียง(Voice Command)
- ปรับระดับเสียง แบ่งเป็น ข้างขวา-จะเป็นการเพิ่มระดับเสียง, ข้างซ้าย-เป็นการลดระดับเสียง
การตั้งค่าคุณภาพเสียงของ Galaxy Wearable มีให้เลือก 6 รูปแบบประกอบด้วย Normal, Bass boost, Soft, Dynamic, Clear และ Treble boost
การใส่หูฟังและใช้งาน Samsung Galaxy Buds Pro ของจริง!
หูฟังสามารถใช้งานง่าย เพียงแต่สิ่งที่ข้อสังเกตคือ ถ้าเป็นคนไม่ชอบหูฟังแบบ In Ear จะรู้สึกหูฟังรุ่นนี้ดันมากไปหน่อยเท่านั้นเอง
วิธีแตะควบคุม Samsung Galaxy Buds Pro กดแต่ใช้งานได้เบาๆ เท่านันก็สามารถสั่งงานได้ง่ายทันที และมีวิธีดังนี้
- แตะ 1 ครั้ง = เล่นเพลงหรือหยุดเพลง (Play or Pause)
- แตะ 2 ครั้ง(Double Tap) = เลื่อนเพลงถัดไป หรือ ใช้รับสายหรือวางสาย
- แตะ 3 ครั้ง(Triple Tap) = เล่นเพลงก่อนหน้า
- แตะค้างไว้(Touch and Hold) = จะเป็นการเปิด-ปิดระบบ Active Noise Canceling, ปฏิเสธการรับสาย
เล่นแล้วเล่าให้ฟังว่าควรเสียเงินกับ Galaxy Buds Pro หรือไม่?
บอกเลยว่าหากใครกำลังมองหาหูฟังที่สามารถรองรับทั้งเรื่องฟังเพลง ดูหนัง หรือแม้กระทั้งการใช้ในการใช้สาย หูฟังรุ่นนี้อาจเป็นตัวเลือกดีๆ ของคุณได้ ยิ่งมันมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่อย่าง Voice Detect จะสลับโหมดจาก ANC ไปเป็นโหมดรับเสียงรอบข้าง (Ambient Sound) ได้ในทันทีเมื่อได้ยินเสียงพูดของคุณ
ยกตัวอย่างเช่น เมื่อคุณอยู่ที่ร้านกาแฟและใช้ ANC เพื่อบล็อกเสียงรบกวนภายนอกอยู่ จะปิด ANC อัตโนมัติเมื่อคุณพูดเพื่อสั่งกาแฟกับบาริสตา นอกจากนี้หูฟังอัจฉริยะ ยังสามารถปรับลดเสียงลงขณะที่คุณสนทนา ไม่ว่าจะใช้ Ambient Mode หรือปิด ANC อยู่ก็ตาม ระบบจะปรับลดเสียงเพลงลงพร้อมเน้นเสียงจากไมโครโฟนไปยังบุคคลที่คุณสนทนาอยู่ อันนี้ผมชอบสุดนะครับ เพราะไม่ต้องปรับหรือทำอะไรให้วุ่นวายหากต้องการพูดคุยกับใคร!
ส่วนเรื่องความสามรถในเรื่องของการช่วยตัดเสียงรบกวนหรือที่เรา Active Noise Canceling ใน Galaxy Buds Pro ก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน เพราะเขาเคลมมาว่ามันสามารถช่วยตัดเสียงรบกวนได้ถึง 99% โดยที่ไมโครโฟนด้านในและด้านนอกสามารถจับเสียงรบกวนได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย(อันนี้เท่าที่ลองใช้งานคือตอนเข้าโสู่โหมด ANC ทันเงียบจริงๆ ครับ)
คุณภาพเสียง / ไมโครโฟน ตรงนี้เราทดสอบด้วยการใช้เล่นเกมและดูสตรีมมิ่งบอกเลยว่าเสียงดีมากไม่มีการ Delay ของเสียงทำให้ไม่อรรถรสขณะกำลังใช้งานเสียงออกตรงปากตลอด เท่าที่ทดลองฟังเพลงและดูซีรีย์ผมว่าโอเคเลยนะ
โดยรวมแล้วถือว่าคุณภาพเสียงที่ออกมาเมื่อฟังเบื้องต้น ให้เสียงเบสดี และเสียกลางถือว่าลงตัว เพราะรองรับกับคุณภาพเสียงที่จัดว่ารองรับรูปแบบเสียงค่อนข้างมาก จนเรียกว่าครบเลยก็ว่าได้ คุณภาพของไมโครโฟนก็มีการตัดเสียงได้ดีเพราะมีไมโครโฟนแทบจะรอบตัวหูฟังเลยครับ (ตรงนี้ผมว่าเรื่องของเสียงดีหรือไม่ดีของแต่ละคนไม่เท่ากัน)
คุณภาพไมโครโฟนหากมีสายเรียกเข้าหรือโทรออก ผมว่า Samsung Galaxy Buds Pro เป็นหูฟังอีกรุ่นที่สามารถตอบโจทย์ได้ดีมากๆ ในเรื่องของการใช้สายไม่ว่าจะเป็นการโทรออกหรือการรับสายสำคัญและต้องพูดคุยหรือประชุมสำคัญ เพราะคุณไม่ต้องกังวลถึงปัญหาของการได้ยินเสียงหรืออีกฝั่งไม่ได้ยินเสียงจนทำให้คุยกันไม่รู้เรื่องเพราะเท่าที่ผมทดลองใช้งานจริง มันสามารถใช้งานเรื่องดีได้ดีมากๆ ...และยังสามารถใช้งานหูฟังรุ่นนี้ข้างเดียวได้นะครับ เพราะบางจังหวะเราอาจต้องการใส่หูฟังเพียงข้างเดียวเท่านั้นตอนใช้งาน
เอาเป็นว่าถือว่าเป็นความเห็นส่วนตัวของผมละกันครับ ถ้าใครไม่แน่ใจก็สามารถแวะเวียนไปทดลองของจริงกันได้ที่ Samsung Shop ได้เขามีของจริงให้เราได้เล่นกัน)
แบตเตอรี่คือสำคัญมากสำหรับการมีหูฟังดีๆ ไว้ใช้งานแน่นอนว่ามันมาพร้อมกับการรองรับ Wireless PowerShare
สำหรับแบตเตอรี่ในฐานสามารถชาร์จไฟหูฟังได้ 3 รอบ เมื่อเปิดโหมด ANC ตัว Galaxy Buds Pro จะเล่นเพลงให้คุณฟังได้ยาวนานถึง 5 ชั่วโมง กับอีก 13 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคส รวมทั้งสิ้น 18 ชั่วโมง และเมื่อปิดโหมด ANC คุณจะใช้งานได้สูงสุดถึง 28 ชั่วโมง
โดยหูฟังจะเล่นเพลงได้ 8 ชั่วโมง และอีก 20 ชั่วโมงเมื่อชาร์จจากเคส ดังนั้นไม่ว่าจะวิดีโอคอล สังสรรค์กับเพื่อน หรือแค่ฟังเพลย์ลิสต์โปรดทั้งวัน Galaxy Buds Pro มีแบตเตอรี่เหลือเฟือที่จะทำให้คุณเชื่อมต่อและฟังสิ่งต่างๆได้อย่างยาวนานและเพลิดเพลิน
- ชาร์จไฟได้อย่างรวดเร็ว เพียงชาร์จ 5 นาที ก็สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 60 นาที
- Wireless PowerShare รองรับการชาร์จแบบไร้สาย ทำให้คุณชาร์จไฟได้ทุกที่อย่างสะดวก เพียงวาง Galaxy Buds Pro บนด้านหลังของสมาร์ทโฟน Galaxy
เล่นละเล่าให้ฟังหลังได้ใช้งาน Galaxy Buds Pro และประเด็นใหญ่ที่หลายคนสนใจเกี่ยวกับหูฟังรุ่นนี้กันบ้าง
เอาเป็นว่าหากพูดถึงหูฟังไร้สาย (True wireless) ของฝั่งแอนดรอยด์ตัวท็อปเราขอยกให้ Galaxy Buds คือคำตอบในดวงใจ ส่วนทางฝั่งแอปเปิลเราคงต้องยกตำแหน่งนี้ให้กับ AirPods เขาไป
อีกเรื่องที่ขอพูดถึงหน่อยละกันครับ นั้นคือเรื่องของดีไซน์ที่บอกว่าหากคุณเห็นมันครั้งแรก ตัวหูฟังรุ่นนี้อาจดูเป็นตุ่มๆ นูนๆ และไม่ถูกใจคุณหลายคนแน่นอน แต่เอาข้างจริงหากคุณได้ทดลองใส่ Galaxy Buds สักครั้งคุณจะหลงรักมันเหมือนผมแหละ คือพอใส่เข้าไปแล้วกลับดูพอดีกับใบหู ไม่ดูเทอะทะหรือยื่นออกมาจนน่าเกลียด ขณะเดียวกันก็ค่อนข้างแน่นแบบพอดีกับรูหู ไม่อึดอัดหรือเจ็บหู ใส่วิ่งหรือแม้แต่ขึ้นมอเตอร์ไซค์ที่มีลมตีแรงๆ ก็ยังไม่หลุด
และที่สำคัญหากต้องใส่เป็นระยะเวลานานๆ ก็ยังสบายหู แม้สวมใส่ติดต่อยาวนานหลายชั่วโมงก็ตาม ที่สำคัญไม่หลุดร่วงง่ายขณะออกกำลังกาย และด้วยช่องลมที่ช่วยปรับสมดุลแรงดันและเพิ่มการไหลเวียนของอากาศภายในช่องหูของคุณ หูฟังนี้จึงพอดีกับหูของคุณอย่างเป็นธรรมชาติ จนทำให้คุณลืมไปว่าคุณสวมใส่หูฟังอยู่
Samsung Galaxy Buds Pro มีให้เลือกด้วยกันทั้งหมด 3 สีสุดโมเดิร์นได้แก่ Phantom Black, Phantom Silver และ Phantom Violet และวางจำหน่ายในราคา 6,990 บาท พร้อมให้คุณเป็นเจ้าของแล้ววันนี้!