สำรวจมือถือ 5G ในงบประมาณ หมื่นต้นๆ ที่น่าจับจองเป็นเจ้าของประจำเดือน พฤศจิกายน 2020
กลับมาพบกับการรวมมือถือรอบแรกในเดือนพฤศจิกายน สำหรับนี้จอแนะนำมือถือรุ่นใหม่ที่เดี๋ยวนี้จะมีในเรื่องของ 5G เข้ามา แต่ว่ารุ่นไหนที่น่าสนใจในงบไม่ถึงหมื่นจนถึง 15,000 บาท มาดูกันครับ
Motorola G 5G Plus (ราคา 9,990 บาท) | รีวิว
เริ่มต้นกับมือถือ 5G ที่มีราคาถูกที่สุดในประเทศไทยแบบยังไม่ต้องติดสัญญา กับ Motorola G 5G Plus โดยรุ่นนี้มีกล้องหลังที่มาครบเครื่องพร้อมกับดีไซน์ที่เรียบง่ายและมีกล้องหลังครบเครื่องทั้ง 4 ตัวและกล้องหน้า 2 ตัวทำให้สามารถถ่ายมุมกว้างได้อย่างดีเลยครับ
รายละเอียดของ Motorola G 5G Plus
- สัดส่วน (ยาว x กว้าง x หนา) 168 x 74 x 9 มม.
- น้ำหนัก: 207 กรัม
- การป้องกันน้ำและฝุ่น : ไม่ระบุ แต่มีการเคลือบสารกันน้ำเบื้องต้น
- หน้าจอ: AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2520x1080 พิกเซล Refresh Rate 90Hz
- ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 765 Octa-core | GPU Adreno 620
- แรม : 8 GB
- ความจำภายใน : 128GB
- ความจำภายนอก : MicroSD
- การเชื่อมต่อไร้สาย : 5G/4G LTE, WiFi 802.11 B/G/N/AC, Bluetooth 5.0, GPS, A-GPS
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10
- ระบบความปลอดภัย
- ติดตั้งระบบสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง
- ติดตั้งระบบจดจำใบหน้า
- กล้องหลัง 4 ตัว :
- กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล (f1.7) PDAF
- กล้องตัวที่ 2 ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.2, Ultra-Wide)
- กล้องตัวที่ 3 ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล (Macro Lens)
- กล้องตัวที่ 4 ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล (Detph Sensor)
- LED Flash
- กล้องหน้า:16 ล้านพิกเซล (F2.0) และ 8 ล้านพิกเซล Ultra Wide
- แบตเตอรี : 5000 mAh + Turbo Power 20W
- ช่องเสียบ ช่องเสียบ USB-C และ หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
- สี : น้ำเงิน
Samsung Galaxy A42 5G (ราคา 11,990 บาท) | พรีวิว
ต่อมาเป็นน้องใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวสดๆ เลยครับเพราะมาพร้อมกับดีไซน์ได้บางเฉียบน้ำหนักเบา ขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 750G เป็นรุ่นแรกที่ขายในประเทศไทย รองบรับ 5G และใช้ได้หมดทั้งคลื่นปัจจุบันและคลื่นในอนาคตราคาของมันถือว่าก็ไม่แพงและถูกจนเกินไป
รายละเอียดของ Samsung Galaxy A42 5G
- ขนาดตัวเครื่อง 164.4 x 75.9 x 8.6 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 193 กรัม
- หน้าจอขนาด 6.6 นิ้ว ใช้หน้าจอ Super AMOLED ในแบบ Infinity O Display
- ความละเอียดหน้าจอ : 1600x720 หรือ HD+ อัตราส่วน 20:
- กระจกหน้าจอ : Gorilla Glass 3
- มาตรฐานการกันน้ำ -
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 765G | Adreno 619
- RAM: 8GB
- ความจำในตัว :128 GB
- เพิ่มความจำผ่าน microSD ได้
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 ครอบด้วย One UI 2.5
- การเชื่อมต่อ WiFi 5 (AC), GPS, 5G, Bluetooth 5.0 NFC และรองรับ USB-C
- รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
- ระบบเสียง
- ลำโพง ด้านล่าง + Dolby ATMOS
- กล้องมีหลังประกอบด้วย 4 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล PDAF LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 FPS, Full HD 30/60)
- กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง F2.2 มุมมอง123 องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 5000 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 15W
- สี : Prism Dot Black, Prism Dot White, Prism Dot Gray
realme X50 (ราคา 12,990 บาท)
อีกมือถือที่เปิดตัวและทำให้ตลาดแตกในช่วงหนึ่ง เพราะมีการดีไซน์ดูสวยงามพร้อมกับระบบชาร์จไฟที่ทำได้รวดเร็วถึง 30W พร้อมกับขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 765G ไว้สำหรับเล่นเกมที่ดีมากขึ้นนั่นเอง อย่างไรก็ตาม realme X50 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจในงบที่ไม่แพงจนเกินไป สำหรับน้องใหม่อย่าง realme รุ่นนี้
รายละเอียดสเปกของ realme X50
- ขนาดตัวเครื่อง 163.8 x 75.8 x 8.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 194 กรัม
- หน้าจอขนาด 6.57 นิ้ว ใช้หน้าจอ IPS LCD
- ความละเอียดหน้าจอ : 2400x1080 หรือ HD+ อัตราส่วน 20:9 Refresh Rate 120Hz
- กระจกหน้าจอ : Gorilla Glass 3
- มาตรฐานการกันน้ำ -
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 765G | Adreno 619
- RAM: 8GB
- ความจำในตัว :128 GB
- เพิ่มความจำผ่าน : ไม่รองรับ MicroSD
- ระบบปฏิบัติการ : Android 10 ครอบด้วย realme UI
- การเชื่อมต่อ WiFi 5 (AC), GPS, 5G, Bluetooth 5.0 NFC และรองรับ USB-C
- รองรับ Nano SIM 2 ช่อง
- ระบบเสียง
- ลำโพง ด้านล่าง + Dolby ATMOS
- กล้องมีหลังประกอบด้วย 4 ตัวด้วยกันประกอบด้วย
- กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล PDAF LED Flash รองรับการถ่ายวิดีโอ 4K 30/60 FPS, Full HD 30/60)
- กล้องมุมกว้าง ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีค่ารูรับแสง F2.2 มุมมอง119องศา
- กล้อง Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้อง Depth Sensor ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- กล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล
- แบตเตอรี่ 4200 mAh รองรับกำลังชาร์จไฟ 30W
- สี : Jungle Green, Ice Silver
OPPO Reno 4 Z (ราคา 12,990 บาท) | พรีวิว
อีกมือถือที่เปิดตัวในปีนี้ที่ทำเวอร์ชั่น 5G ในราคาไม่แพงอย่าง Reno 4z ที่มาพร้อมกับขุมพลัง MediaTek Diemensity 720G ที่ใช้งาน 5G ได้แน่นอนและมีขนาดเครื่องที่เล็กพกพาสะดวกเช่นเดียวกัน และมีกล้องที่เก่งไม่แพ้ใคร
รายละเอียดของ OPPO Reno 4z
- ขนาด: 163.8 x 75.5 x 8.1 มิลลิเมตร
- หนัก: 184 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : LTPS LCD ความละเอียด FHD+ 20:9 (2400x1080พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.4 นิ้ว Refresh Rate 120Hz
- ชิปเซ็ต : MediaTek Dimensity 800 5G | GPU Mali G57 MC4
- RAM : 8 GB
- ROM : 128 GB
- ความจำเสริม : ไม่ได้ระบุ
- ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบบน Color OS 7.1
- WiFi 802.11 B/G/N/AC (Dual Band)
- Bluetooth 5.1
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G Dual Mode
- กล้องหลัง 4 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.7
ตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ตัวที่ สาม เป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
ตัวที่สี่เป็นเลนส์ Portrait ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 16 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D + ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง
- รองรับ : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : หูฟัง 3.5 mm. และ USB-C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4000 mAh + Super Dart Charge กำลัง 18W
- สี : Ink Black, Dew White
OnePlus Nord (RAM 8GB / ROM 128GB ราคา 14,990) | รีวิว
อีกรุ่นจาก OnePlus กับ OnePlus Nord มือถือรุ่นใหม่ที่มาพร้อมกับจุดเด่นในเรื่องของการออกแบบเครื่องที่ดูแพงเกินราคาและมีขนาดของกล้องที่ใหญ่กำลังดี และเป็นรุ่นแรกที่ใช้ Snapdragon 765G ของค่าย กับการอัปเกรดที่ยาวนาน นี่ก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ
รายละเอียดของ OnePlus Nord
- หน้าจอ Fluid AMOLED ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล ขนาด 6.44 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 90Hz
- ขนาดตัวเครื่อง: 158.3 x 73.3 x 8.2 มม.
- น้ำหนัก: 184 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: Qualcomm Snapdragon 765 | Adreno 620
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 8/12GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 128 / 256GB
- หน่วยความจำภายนอก -
- การเชื่อมต่อ: 5G (Dual Mode), WiFi 802.11 AC (WiFi 5), Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล และ 8 ล้านพิกเซลแบบ Ultra Wide
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล F1.8 omnidirectional PDAF
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มุมมอง 119 องศา F 2.2
- เลนส์ Depth Sensor ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
- เลนส์ macro ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอแบบ Optical
- แบตเตอรี่ความจุ: 4115mAh
- รองรับ Warp Charge 30W (แบบสาย)
- ระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย Oxygen OS 10.5.4
- สี: น้ำเงิน Blue Marble, เทา Gray Onyx
Huawei Nova 7 (ราคา 14,990 บาท) | รีวิว
สำหรับแฟน Huawei ตอนนี้ก็ถือว่ามีรุ่นที่แนะนำในงบนื้ ได้บอดี้สวยกล้องที่คมแต่ไม่มีบริการนของ Google Mobile Service ก็ตาม แต่ได้ในราคาถูกลงอยู่รดับ 14,9990 บาทท และถ้าไม่ได้คิดมากในส่วนนั้นก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่ดีครับ
รายละเอียดสเปกของ Huawei Nova 7
- หน้าจอ AMOLED ความละเอียด 1080x2400 พิกเซล ขนาด 6.53 นิ้ว ค่า Refresh Rate ระดับ 60Hz
- ขนาดตัวเครื่อง: 160.6 x 74.3 x 8 มม.
- น้ำหนัก: 180 กรัม
- ชิปเซ็ตประมวลผล: Kirin 985 5G| Mali-G77
- หน่วยความจำ: RAM ขนาด 8GB
- หน่วยความจำภายในความจุ: 256GB
- หน่วยความจำภายนอก Nano Memory
- การเชื่อมต่อ: 5G/4G LTE, WiFi 802.11 AC, Bluetooth 5.1, GPS, A-GPS
- กล้องดิจิทัลด้านหน้าความละเอียด 32 ล้านพิกเซล
- กล้องดิจิทัลด้านหลังจำนวน 4 ตัว แบ่งออกเป็น
- กล้องตัวหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล F1.8
- เลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
- เลนส์ Telephoto ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล Optical Zoom 3X และ Digital Zoom 20X
- เลนส์ Macro Lens ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
- ตัวเครื่องกันน้ำกันฝุ่นระดับ -
- ระบบปลดล็อค Face Recognition สแกนลายนิ้วมือในหน้าจอ
- แบตเตอรี่ความจุ: 4000mAh
- รองรับ Fast Charge 40W + Reverse 5W
- ทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย EMUI 10 ไม่มี Google Mobile Service
- สี: ม่วง Midsummer Purple, เงิน Space Sliver
Xiaomi Mi 10T Pro (ราคา 13,990 บาท) | รีวิว
อีกมือถือรุ่นคุ้มที่สุดเพราะว่าได้จอภาพที่ใหญ่กล้องหลังครบแถมยังได้ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล และมีอีกเรื่องที่แตกต่างคือขุมพลัง Snapdragon 865 ที่หาไม่ได้จากกลุ่มราคาหมื่นต้นและยังได้ Android 10 และคาดว่าจะได้อัปเกรดในไม่ช้า
รายละเอียดของ Xiaomi Mi 10T Pro
- ขนาด: 165.1 x 76.4 x 9.3 มิลลิเมตร
- หนัก: 218 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : LTPS LCD (Adaptive Sync Display) ความละเอียด FHD+ 20:9 (2400x1080พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.67 นิ้ว Refresh Rate 144Hz
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 865 | GPU Adreno 650
- RAM : 8 GB
- ROM : 128 / 256 GB
- ความจำเสริม : ไม่ได้ระบุ
- ระบบปฏิบัติการ: Android 10 ครอบบน MIUI 12.0.1
- WiFi 802.11 B/G/N/AC/6 (Dual Band)
- Bluetooth 5.1
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G NSA Only
- กล้องหลัง 4 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล F1.7
ตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล
ตัวที่ สาม เป็นเลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 20 ล้านพิกเซล
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D + ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง
- รองรับ : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : USB -C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 5000 mAh + Fast Charge กำลัง 33W
- สี : Cosmic Black, Lunar Silver, Aurora Blue
Vivo V20 Pro ราคา 14,999 บาท
ปิดท้ายกับ vivo V20 Pro น้องเล็กที่มาพร้อมกับฟีเจอร์กล้องหน้าความละเอียดสูงสุด 44 ล้านพิกเซล และยังมีกล้องหน้าเลนส์โตทำให้การถ่ายภาพทำได้ดีและดูลงตัวพอประมาณ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับขุมพลัง Qualcomm Snapdragon 765G รุ่นใหม่ พร้อมกับสเปกจัดแบบโปรในราคา 14,999 บาท
รายละเอียดของ vivo V20 Pro
- ขนาด: 158.8 x 74.2 x 7.4 มิลลิเมตร
- หนัก: 170 กรัม
- หน้าจอแสดงผล : AMOLED ความละเอียด FHD+ 20:9 (2400x1080พิกเซล) ขนาดประมาณ 6.44 นิ้ว
- ชิปเซ็ต : Qualcomm Snapdragon 765 | GPU Adreno 620
- RAM : 8 GB
- ROM : 128 GB
- ความจำเสริม : ไม่ได้ระบุ
- ระบบปฏิบัติการ: Android 11 ครอบบน FunTouch OS 11
- WiFi 802.11 B/G/N/AC
- Bluetooth 5.0
- เครือข่ายมือถือ : 2G/3G/4G/5G SA/NSA
- กล้องหลัง 3 ตัว:
ตัวแรกเป็นของ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล F1.9
ตัวที่สองเป็นเลนส์ Ultra Wide ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ตัวที่ สาม เป็นเลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล - กล้องหน้าเซลฟี่ : ความละเอียดกล้องหลัก: 44 ล้านพิกเซล เลนส์มุมกว้าง 8 ล้านพิกเซล
- รองรับ: สแกนใบหน้าแบบ 2D + ระบบสแกนนิ้วมือด้านข้าง
- รองรับ : nano SIM Dual SIM
- ช่องเสียบ : USB -C
- แบตเตอรี่ : Li-Po 4000 mAh + Fast Charge กำลัง 33W
- สี : Sunset Melody, Midnight Jazz, Moonlight Sonata
สำหรับในครั้งหน้าทีม Sanook Hitech จะนำมือถือรุ่นไหนมานำเสนอให้คุณได้รับชมอีก ต้องรอติดตามกันต่อไปครับ