HMD Global เปิดตัว Nokia 8.3 5G ครั้งแรกที่รองรับ 5G และ Nokia 2.4 / 3.4 สเปกคุ้มราคาประหยัด

หลังจากเงียบไปนานพอสมควรล่าสุด HMD ได้กลับมาแล้วกับการเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งในครั้งนี้มาพร้อมกับ 1 มือถือ 5G ครั้งแรกและ 2 มือถือราคาในกลุ่มเริ่มต้นที่ให้คุณเข้าเจ้าของได้ง่ายมากขึ้น
Nokia 8.3 5G
เริ่มต้นกับมือถือรุ่นแรกที่รองรับ 5G ของค่ายหลังจากดีเลย์การเปิดตัวมานานแล้วพร้อมที่เป็นเจ้าของแทบจะทันทีผ่านทาง Amazon ในสหรัฐอเมริกาในราคา 699 ดอลล่าร์สหรัฐฯ รุ่นนี้มีจุดเด่นที่ขนาดหน้าจอ 6.81 นิ้ว แบบ LCD ความละเอียด 1080+ พร้อมกับขุมพลัง Snapdragon 765G มีกล้องหลัง 4 ตัวพร้อมกับเลนส์ ZEISS และมีกล้องหลักความละเอียด 64 ล้านพิกเซล และเลนส์มุมกว้าง 12 ล้านพิกเซล พร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh ชาร์จไฟกำลัง 18W
ส่วนราคานั้นในยุโรปเคาะไว้ที่ 580 ยูโรโดยคาดว่าจะขายในทั่วโลกพร้อมกับราคา 600 ยูโร หรือ 22,000 บาท พร้อมให้ Google One พื้นที่ 100GB เป็นระยะเวลา 6 เดือน ทั้งนี้มือถือรุ่นนี้จะแสดงร่วมในหนัง James Bond ภาคล่าสุด No Time to Die เช่นเดียวกัน
Nokia 3.4
ถัดจากรุ่นแพงแล้วเรามาดูมือถือแบบมหาชนใช้กันบ้าง โดย Nokia 3.4 จะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.39 นิ้วความละเอียด HD+ หรือ 720P+ ทั้งนี้มาพร้อมกับความสว่าง 9 nits และมีกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ด้านขุมพลังเลือกใช้ Snapdragon 460 ที่เร็วกว่า Nokia 3.2 รุ่นเดิมพอสมควร รุ่นนี้รองรับ Android 10 และคาดว่าจะไปต่อกับ Android 11 ได้เช่นเดียวกัน ด้านความจำมี RAM 3GB และความจำ 64GB สามารถเพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 512GB พร้อมกับช่องเสียบ USB-C พร้อมกับแบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ USB-C ในการชาร์จไฟ รองรับกำลัง 10W และมีช่องเสียบหูฟังที่รองรับการฟัง FM Radio
ทั้งนี้กล้องหลังยังให้มาทั้งหมด 3 ตัวประกอบด้วย 13 ล้านพิกเซลแบบ ปกติ, 5 ล้านพิกเซล Ultra Wide และ 2 ล้านพิกเซลสำหรับละลายหลัง ส่วนระบบความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบสแกนใบหน้าและลายนิ้วมือที่ด้านหลัง
ทั้งนี้ Nokia 3.4 จะวางจำหน่ายในเดือนตุลาคม โดยราคาเริ่มต้นกับรุ่น RAM 2GB / 32GB จะอยู่ที่ 160 ยูโร หรือ 5,900 บาท ส่วน RAM 3GB / 64GB ยังไม่เปิดราคา ณ ตอนนี้
Nokia 2.4
มาถึงอีกรุ่นที่มีการต่อยอดจากรุ่นตระกูล 2 มาตลอด โดยครั้งนี้มีการเปลี่ยนหน้าจอมาใช้ขนาด 6.5 นิ้วแบบ LCD ความละเอียด 720p และให้แบตเตอรี่ใหญ่ระดับ 4500 mAh รองรับการชาร์จไฟผ่าน Micro USB และมีกำลังชาร์จไฟแค่ 5W
ขุมพลังขชองเครื่องเลือกใช้ MediaTek Heilo P22 Octa Core พร้อมกับ RAM 2GB และความจำ 32GB เพิ่มความจำ microSD รองรับ Dual SIM ทั้งนี้มือถือทั้งหมดมาพร้อมกับ Android 10 และสามารถอัปเกรดไปที่ Android 11 ได้ โดยมีการยืนยันว่าอัปเดต 2 ปี รวมถึง Security Patch 3 ปี
ส่วนกล้องหลังให้ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล, และ 2 ล้านพิกเซลสำหรับ Depth Sensor และกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลที่ด้านหน้าตรง Notch พร้อมกับมีช่องเสียบหูฟัง และยังรองรับ NFC เช่นเดียวกัน
และราคาเปิดตัวเริ่มต้นที่ 120 ยูโร หรือประมาณ 4,500 บาท เริ่มขายสิ้นเดือนหน้าแต่ว่าจะเข้าจำหน่ายในประเทศไทยหรือไม่ต้องรอดูกันต่อไป