นักวิเคราะห์ชี้มาตรการลงโทษชุดใหม่ของสหรัฐฯ ส่งผลรุนแรงต่อ "หัวเว่ย"

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานความเห็นของนักวิเคราะห์หลายราย ที่เชื่อว่ามาตรการลงโทษชุดใหม่ที่สหรัฐฯ นำมาใช้กับหัวเว่ย จะจำกัดการเข้าถึงชิปคอมพิวเตอร์และส่งผลกระทบรุนแรงต่อกระบวนการผลิตโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของหัวเหว่ย

เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศเพิ่มมาตรการลงโทษบริษัทเทคโนโลยีหัวเหว่ย (Huawei Technologies Co) โดยมีเป้าหมายป้องกันไม่ให้หัวเหว่ยสามารถเข้าถึงชิปคอมพิวเตอร์เพื่อการพาณิชย์โดยไม่มีใบอนุญาตพิเศษ ซึ่งรวมถึงชิปคอมพิวเตอร์ของบริษัทต่างชาติที่ใช้เทคโนโลยีหรือซอฟต์แวร์ของบริษัทอเมริกันในการผลิตหรือพัฒนาชิปด้วย

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ กล่าวว่า การปรับกฎเกณฑ์ใหม่ครั้งนี้คือการป้องกันไม่ให้หัวเหว่ยสามารถหลบเลี่ยงกฎหมายของสหรัฐฯ ไปใช้ชิปคอมพิวเตอร์ที่ผลิตโดยบริษัทอื่น หลังจากที่หัวเหว่ยพยายามทำเช่นนั้นมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม

ภายใต้กฎเกณฑ์ใหม่นี้ บริษัทที่มีชื่ออยู่ในบัญชีดำของรัฐบาลสหรัฐฯ จะต้องขอใบอนุญาตพิเศษหากต้องการขายเทคโนโลยีหรือชิปคอมพิวเตอร์ให้กับบริษัทที่อยู่ในรายชื่อถูกลงโทษจากรัฐบาลสหรัฐฯ รวมทั้ง หัวเหว่ย

กู่ เหวินจุ้น นักวิเคราะห์ของบริษัทที่ปรึกษา ICWise ในนครเซี่ยงไฮ้ เชื่อว่ามาตรการลงโทษชุดใหม่นี้จะทำให้หัวเหว่ยต้องล้มแผนซื้อชิปคอมพิวเตอร์จากบริษัทอื่น ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตชิปในเอเชียก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะส่วนใหญ่ต่างใช้ซอฟแวร์และเทคโนโลยีที่ออกแบบและพัฒนาโดยบริษัทอเมริกันในกระบวนการผลิตชิปคอมพิวเตอร์

ซึ่งรวมถึงผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง Samsung Electronics และ SK Hynix ของเกาหลีใต้ Sony ของญี่ปุ่น และ MediaTek ของไต้หวัน นอกจากนี้ยังรวมถึงบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ เอง เช่น Qualcomm และ Intel ด้วย

รอยเตอร์รายงานว่า เวลานี้ผู้บริหารของบริษัทชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่เหล่านั้นต่างกำลังกังวลว่ามาตรการลงโทษชุดใหม่นี้จะส่งผลกระทบต่อบริษัทตนอย่างไร และมากน้อยแค่ไหน