พูดคุยกับ Huawei ในเรื่อง 5G จะเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรของคุณได้อย่างไร 

พูดคุยกับ Huawei ในเรื่อง 5G จะเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรของคุณได้อย่างไร 

พูดคุยกับ Huawei ในเรื่อง 5G จะเปลี่ยนแปลงการทำงานอย่างไรของคุณได้อย่างไร 
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

 ในครั้งก่อนหน้านี้ Huawei ได้พาทีม Sanook Hitech ได้ชมนิทรรศการออนไลน์ ที่เป็นการแสดงเรื่องของ 5G และมือถือรุ่น Huawei Nova 7 Series ที่กำลังจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ก็มีอีก 1 เรื่องที่น่าสนใจคือ Tablet 5G ที่กำลังจะเผยโฉมครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน แต่ก่อนไปถึงเรื่องนี้ ทีม Sanook Hitech ได้มีโอกาสพูดคุยกับ Huawei เกี่ยวกับเรื่ององการนำ 5G ว่าตอบโจทย์เรื่องของการทำงานแบบไร้รอยต่อและ AI จะมีบทบทอย่างไร 

5G กับการทำงานทั้งขนาดเล็ก และใหญ่

hua

การทำงานในระบบอัจฉริยะที่ต้องการความหน่วงต่ำ ทำให้ต้องการนำเทคโนโลยี 5G มาทำงานเช่นเดียวกัน อย่างที่ได้บอกไปตั้งแต่บทความที่แล้วว่า เทคโนโลยี 5G นั้นทำให้การติดต่อสท่อสารทำได้ง่ายมากขึ้น และรวดเร็ว ไร้รอยต่อ ดังนั้นการจะมีระบบ AI เครื่องมือสำคัญ ที่ตอนนี้มีการหยิบยกขึ้นมาจะทำงานได้กับ 5G ได้มากไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 

  • การทำงานสำนักงาน : หากมองถึงอินเทอร์เน็ตตอนนี้การทำงานที่ต้องการประชุมหลายคน อาจจะเกิดการกระตุกและไม่ราบรื่น ยิ่งต้องมีการแชร์ข้อมูลหรือ หน้าจอ การที่ได้ 5G ซึ่งช่วยลดความหน่วงและสัญญาณที่ทำงานได้ราบรื่น จะทำให้คุณติดต่อสื่อสารกับพนักงาน หรือ เพื่อนร่วมงาน ได้มีประสิทธิภาพได้มากขึ้น รวมถึงแก้ไขงานได้แบบไร้รอยต่อตามคำนิยาม Digital Transformation
  • การทำเหมืองแร่: รถบรรทุกลากไร้คนขับ ที่ขับเคลื่อนเครื่องยนต์อัตโนมัติด้วย 5G ช่วยประหยัดเงินได้ถึง 1 ล้านหยวนต่อรถบรรทุกหนึ่งคันต่อปี และสามารถเพิ่มความเร็วในการขับขี่จากเดิมที่น้อยกว่า 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเป็น 35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง 
  • ท่าเรือ: ด้วยความกว้างของแบนด์วิดท์ 5G ขนาดใหญ่ และความหน่วงต่ำช่วยให้การทำงานระยะไกลในการควบคุมเครนยกขนตู้สินค้าเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเครนนึงจะมีกล้องติดอยู่ 10 ถึง 18 ตัว ซึ่งต้องการแบนด์วิดธ์ขนาด 60Mbps เพื่อส่งวิดีโอสดความละเอียดสูงกลับมายังห้องควบคุม  
  • ต้องขอบคุณ 5G ที่ช่วยให้เจ้าหน้าที่หนึ่งคนสามารถสลับเปลี่ยนการควบคุมเครนได้ถึง 6 ตัวจากห้องบังคับระยะไกล นำไปสู่สภาพแวดล้อมในการทำงานที่ปลอดภัยมากขึ้น 
  • การแพทย์: ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรค 5G เข้ามีบทบาทสำคัญในกลุ่มการแพทย์ 5G ช่วยแบ่งปันข้อมูลและช่วยชีวิตคนไข้ได้ แม้ว่จะอยู่ห่างไกลก็ตาม 
  • สายการผลิต: แบนด์วิดท์ 5G ที่สูง และความหน่วงต่ำช่วยให้การทำงานด้านการผลิตมีความยืดหยุ่นสูง ซึ่งทั้งเครื่องตรวจสอบคุณภาพชิ้นงานในสายการผลิตและการควบคุมแบบไร้สายล้วนต้องการแบนด์วิดท์ขนาดใหญ่และความหน่วงต่ำจาก 5G ตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรมกล้องถ่ายรูปที่อาศัยการอัพโหลดผ่าน 5G ไปยังคลาวด์เพื่อการตรวจจับคุณภาพของภาพถ่าย 

ดังนั้นนอกจากการทำงานพวกนี้แล้ว Tablet ก็เป็นอีกเครื่องมือที่เขามาช่วยในเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับการทำงานได้ เพราะเพิ่มความสะดวกและคล่องตัวมากกว่าคอมพิวเตอร์เดิมๆ  

Huawei MatePad Pro 5G Tablet 5G ครั้งแรกในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

Huawei MatePad Pro ที่เปิดตัวก่อนหน้านี้ได่รับความนิยมสูง การที่เปิดตัวในเวอร์ชั่น 5G จะถือว่าเป็นการอัปเกรด MatePad Series ให้ล้ำขึ้น  

จุดเด่นของ Tablet รุ่นนี้คือ การจำชิปเซ็ต Kirin 990 5G ที่มีความเร็วและรองรับการทำงานและเล่นเกมได้เป็นประสิทธิภาพเข้ามา พรอ้มกับติดตั้ง MeeTime เทคโนโลยีที่สามารถทำได้มากกว่าแค่เห็นหน้า แต่ยังสามารถแชร์หน้าจอได้เช่นเดียวกัน นอกจากการทำงานที่ดีแล้ว Huawei MatePad Pro 5G ยังรองรับกำลังชาร์จไฟที่สูงและยังสามารถชาร์จไฟไร้สายพร้อมกับ กระจายไฟให้กับอุปกรณ์อื่นได้ผ่านระบบ Wireless Charge

แถมยังสามารถใช้งานกับ Huawei M Pencil ที่ทำให้สามารถแก้ไขข้อมุลและเช็คอีเมลได้ง่าย แถมยังรองรับความละเอียดได้มากทำให้คุณตอบโจทย์ในเรื่องของการทำงานได้ดีมากขึ้น โดย Huawei ตั้งใจให้ Tablet รุ่นนี้ ช่วยสร้างประสบการณ์ Seamless AI Life ได้ดีมากขึ้น 

คงต้องรอลุ้นกันว่า รายละเอียดของ Huawei MatePad Pro 5G จะเหนือจากรุ่นปกติมากกว่าแค่บทความนี้หรือไม่ อีกไม่นานครับ 

ahr0chm6ly9zlmlzyw5vb2suy29tlHuawei MatePad Pro

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook