กลับมาพบกับรีวิว Gadget และมือถือกับทีม Sanook Hitech กันอีกครั้งสำหรับรอบนี้ทีม Sanook Hitech ขอนำเสนอ Go Pro Max ซึ่งเป็นรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกับ GoPro Hero 8 และมีจุดเด่นมากมายทั้งเรื่องของกล้อง 360 และไมโครโฟนรอบตัวถึง 6 ตัวด้วยกัน จะมีความโดดเด่นอย่างไรและน่าใช้งานแค่ไหน มารับชมกันเลย
สำหรับหน้าตาของ GoPro Max จะมาพร้อมกับหน้าตาที่พร้อมลุย ด้านหน้ามาพร้อมกับกล้องแบบนูน พร้อมกับสัญญาลักษณ์ยี่ห้อ GoPro ไว้ด้านล่างเครื่องจะหันคนละมุมกับกล้อง และมีไฟพร้อมกับไมโครโฟน ออกแบบให้เป็นช่องเสียง
หันมาดูด้านหลังกันก่อนเพราะว่ามีหน้าจอแบบ Touch Screen หน้าจอกว้างขนาดไม่เล็กไป พร้อมกับกล้องตัวที่ 2 และมีไมโครโฟนพร้อมกับลำโพงตัวเครื่องเช่นเดียวกัน
รอบตัวเครื่องเครื่องออกแบบเป็นแบบ Soft Touch โดยฝั่งซ้ายจะมีปุ่ม สำหรับเปิดปิดตัวเครื่อง สามารถกดเปลี่ยนโหมดได้พร้อมกับโลโก้ MAX
อีกฝั่งมาพร้อมกับช่องใส่แบตเตอรี่, USB-C และใส่ Micro SD เข้าไปได้สำหรับเป็นความจำของกล้อง
บนสุดของเครื่องมีปุ่ม Quick Shutter / ชัตเตอร์ปกติ, และมีไมโครโฟน ตัวเครื่อง
ล่างสุดของ GoPro Max จะเป็นขาพับที่เราใส่อุปกรณ์เสริมได้เช่นเดียวกัน
จากที่ได้เห็นรูปลักษณ์หน้าตาของ GoPro Max มีขนาดใหญ่เหมือนกัน เทียบเท่ากับ GoPro Fusion นั่นเอง ด้วยความที่รูปร่างใหญ่การที่จะใช้งานเกี่ยวกับแนว Action เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยถ้าปิดซิลต่างๆ ยังคงสามารถลงน้ำได้ลึกถึง 5 เมตรเลยทีเดียว
เมื่อลองเปิดกล้อง GoPro Max จะพบว่าเมนูต่างๆ ไม่ได้แตกต่างจาก GoPro Hero 7 Series และ Hero 8 Black เท่าไหร่ ทำให้ GoPro Max ยังคงใช้งานได้ง่ายทั้งเมนูการดูภาพ และการเลือกการถ่ายภาพแบบ 360 องศา หรือเป็นแบบปกติก็ได้ และสลับไปมา
ส่วนจุดเด่นในเรื่องของ GoPro Max มีดังนี้
นอกจากนี้ยังสามารถบันทึกภาพและวิดีโอเก็บเข้าไปใน GoPro PLUS ระบบ Cloud ของ GoPro โดยอัตโนมัติ
การควบคุม ผ่าน Apps GoPro สามารถปรับเรื่องรายละเอียดของกล้องรวมถึงการตั้งค่าต่างๆ และ Firmware ใหม่ต้องอัปเดทในนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีโปรแกรม Qulk ช่วยให้คุณสร้างสรรค์วิดีโอได้ง่ายมาก พร้อมเพลงประกอบสำเร็จรูป แต่ว่าเตือนไว้ก่อน เพลงในนั้นมีลิขสิทธิ์นะครับ แต่สำหรับ Android เราสามารถหาเพลงแทรกเข้าไปได้นะครับ
ตัวอย่างภาพถ่ายจาก GoPro Max ยังคงให้ความละเอียดที่ดีเหมือนกัน เพราะความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และใช้ได้สลับทั้งหน้าและหลังใหม่ แต่ว่าภาพ 360 ยังคงให้ความคมชัดถือว่าดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม แต่ถ้าถ่ายภาพแสงน้อย ซึ่งทีมของไม่ทดลองมันยังไม่ดีขนาดนั้น แต่เรื่องวิดีโอถือว่าทำได้ลงตัวมากครับและปรับมุมเลนส์ได้หลากหลายมากขึ้น
ถือว่าเป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับคนที่ชอบในการถ่ายภาพ และวิดีโอในชีวิตประจำเป็นหลักมากกว่า เพราะคุณสมบัติทั้งเรื่องการถ่ายวิดีโอและลักษณะของฟีเจอร์ต่างๆ ทีมยังคงเห็นว่ามันมากความสามารถ แต่น้ำหนักของเครื่องอาจจะมากไปสักหน่อย แต่ข่าวดีคือ อุปกรณ์ต่างๆ เกือบทุกชิ้นใช้ร่วมกับ GoPro Hero รุ่นอื่นก็ได้
ส่วนราคาของ GoPro Max จะมีราคาอยู่ที่ 17,000 บาท ถือว่าอาจจะสูงแต่ถ้าคุณชอบถ่าย VLOG เป็นประจำและต้องการถ่ายภาพที่เน้นเรื่องของการลุยไม่ได้มากเท่าไหร่ รุ่นนี้ก็ถือว่าพร้อมไปได้ แต่ถ้าเอามาติดกับอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับร่างกายแนะนำว่า ซื้อ GoPro Hero 8 ดีกว่า
อัลบั้มภาพ 6 ภาพ