![[รีวิว] Redmi Note 8 Pro มือถือในตำนาน สเปกอัดหนัก และราคาดีอีกแล้วครับท่าน](http://s.isanook.com/hi/0/ud/297/1487901/redmi_note8_proth.jpg?ip/crop/w670h402/q80/jpg)
กลับมาพบกับรีวิวมือถือและ Gadget จากทีม Sanook Hitech กันอีกครั้งหนึ่งในวันนี้ทีมได้รับ Redmi Note 8 Pro มือถือที่จัดว่าสเปกนั้นจัดหนักจัดเต็มเหมือนกัน และมันมีความดีหลายเรื่อง แต่ราคาคุ้มอีกแล้วครับท่าน มาดูกันว่ามันจะมีความสามารถพิเศษอย่างไร
ภายในกล่องของ Redmi Note 8 Pro จะประกอบไปด้วย
เริ่มต้นกับหน้าจอของเครื่องจะมีขนาดใหญ่พอสมควรถึง 6.53 นิ้ว ความละเอียด 2340x1080 พิกเซล ถือว่าละเอียดเยอะพอสมควร และเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนแล้ว หน้าจอรุ่นนี้ใหญ่ขึ้นกว่าเดิมมาก

ส่วนบนของหน้าจอมีรองบากทรงหยดน้ำที่เป็นที่อยู่ของกล้องหน้าความละเอียด 20 ล้านพิกเซล และมีเซนเซอร์ในการตรวจจับการแนบใบหน้า, และวัดแสง และมี Notch ข้างบน ข่าวดีคือ สามารถปิดได้โดยเข้าไปที่ ตั้งค่า > หน้าจอ > แถบสถานะ > ซ่อนรอยบาก

ส่วนล่างของหน้าจอ เป็นส่วนควบคุมหน้าจอ โดยสามารถสั่งทั้ง Recent สลับ Apps, Home กดเข้าหน้าจอ, และ Back สำหรับย้อนกลับ

รอบตัวเครื่องเป็นพลาสติกที่มีความเงางามและวัสดุที่ดีจับถนัดมือแต่มีโอกาสลื่นสูง มีรายละเอียดทั้งฝั่งซ้ายมาพร้อมกับช่องใส่ซิมการ์ด Nano SIM ทั้งหมด 2 ช่อง และ MicroSD ไม่ต้องถอดสลับ

ฝั่งขวามีทั้งปุ่มปรับระดับเสียง, ปุ่มเปิด / ปิดเครื่องที่กดได้ง่าย


ส่วนบนของเครื่องมีอินฟราเรดสำหรับสั่งเครื่องใช้ไฟฟ้า, พร้อมกับไมโครโฟนตัวที่ 2

ส่วนล่างสุดของเครื่องจะมาพร้อมกับ ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร, USB-C พร้อมกับไมโครโฟน และ ลำโพงของตัวเครื่อง

พลิกมาด้านหลังสำหรับตัวเครื่องจะเล่นสีด้านข้างและตรงกลางเป็นสีดำ มาพร้อมกับระบบสแกนนิ้วตรงกลางเครื่อง และมีกล้องหลังทั้งหมด 4 เรียงเป็นแบบแนวตั้ง และมี LED Flash ตัวกล้องจะปูดออกมา ต้องระวังหน่อยสำหรับคนที่วางพื้น ควรใส่เคสดีกว่า


ในภาพรวมของ Redmi Note 8 Pro มีความยาวพอสมควรเพราะหน้าจอของเครื่องรุ่นนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม มือถือตัวนี้ยังมีสีสันและมีเรื่องต้องระวังคือเรื่องของกล้องหลังที่นูนออกมาเท่านั้นเองครับ น้ำหนักเครื่องถือว่าสมเหตุสมผลกับขนาดเครื่อง
สีสันของ Redmi Note 8 Pro ที่จำหน่ายในประเทศไทยมีให้เลือกทั้งหมด 3 สีคือ Mineral Grey, Pearl White และ Forest Green
รายละเอียดของ Redmi Note 8 Pro (RAM 6GB / ROM 128GB)

คะแนนประสิทธิภาพโดยวัดจาก AnTuTU ทำได้ที่ 282,212

คะแนนประสิทธิภาพวัดจาก Geekbench 5 ทำได้ที่ Single Core = 492 คะแนน และ Multi Core = 1640

ภาพรวมของคะแนนอาจจะไม่ได้สูงมากนักแต่ก็สามารถให้การตอบสนองเล่นเกมได้ดีอยู่เพราะตัวเครื่องมีโหมดปรับประสิทธิภาพในการเล่นเกมได้ดีไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตาม แต่สังเกตว่าเครื่องร้อนง่ายไปหน่อย

นอกจากนี้ Redmi Note 8 Pro ก็มีโปรแกรมจัดการทรัพยากรเครื่องและตัดสิ่งรบกวนได้ด้วย

สำหรับการเชื่อมต่อไร้สายรองรับ 4G LTE ทั้ง 2 SIM และยังมาพร้อมกับ WiFi AC แบบ Dual Band และ Bluetooth เวอร์ชั่น 5.0 ส่วนการนำทางของ Redmi Note 8 Pro ยังคงทำได้ดีเพราะมี A-GPS และ GPS ในตัวแต่การทำงานไม่ได้เป็นแบบ Dual GPS อาจจะทำให้ไม่ได้แม่นยำเหมือนกับรุ่นบน แต่ก็ยังคงใช้ง่าย

ถึงแม้ว่าหน้าจอเลือกใช้แบบ IPS LCD แต่ก็ยังให้ความคมชัดเหมือนเดิมและความละเอียดจัดว่าทำได้ดี นอกจากนี้ยังมีการปรับโหมดอ่านหนังสือและ Dark Mode ได้
ส่วนระบบเสียงมีลำโพงให้จุดเดียวเหมือนเดิม ให้เสียงที่ดีกังวานดี พร้อมกับระบบปรับแต่งเสียงเวลาเล่นเพลงได้ด้วย และมี FM Radio ให้ได้เลือก

มาถึงเรื่องของส่วนควบคุมตัวเครื่อง เริ่มจาก Redmi Note 8 Pro เลือกใช้ Android เวอร์ชั่น 9 หรือ Android Pie มาพร้อมกับ MIUI เวอร์ชั่น 10.4 ที่ปรับปรุงในหลายเรื่องรวมถึงการปิด หรือ เปิดสถานะแจ้งเตือนได้ด้วย รวมถึงการสั่งงาน Mult Tasking ก็สามารถทำได้แล้ว

ฟีเจอร์หลักๆ ของ Redmi Note 8 Pro ยังคงมีเครื่องมือให้ครบตามแบบของ MIUI ประกอบไปด้วย เครื่องคิดเลข, เครื่องอัดเสียง, เข็มทิศ, ระบบดูแลรักษาเครื่อง และอื่นๆ รวมไปถึง Mi Remote ซึ่งเหมาะกับคนที่ชอบใช้มือถือคุมอุปกรณ์ไร้สายได้ และยังมีฟีเจอร์ Dual Apps, การดูแลรักษาสุขภาพของเครื่อง

ระบบความปลอดภัยของเครื่องมาพร้อมกับ ระบบสแกนใบหน้าแบบ 2D และมีระบบสแกนนิ้วด้านหลังตัวเครื่องแตะแล้วติดทันที

สำหรับกล้องหลังของ Redmi Note 8 Pro ยังคงมาให้ครบครันทั้งหมด 4 ตัว ถือว่ามากที่สุดในระดับเดียวกับประกอบไปด้วย
ภาพรวมของกล้องหลังนั้นถือว่าให้สเปกครบและมาพร้อมกับเซนเซอร์ PDAF และมี LED Flash มาให้ครบคัรน

เมนูกล้องของ Redmi Note 8 Pro ยังคงเหมือนกับมือถือในระบบปฏิบัติการ MIUI 10 ทั่วไป ยังคงให้ความง่ายในการทำงานต่างๆ ไม่ได้แตกต่างกันมา นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ AI Scene ซึ่งแบ่งได้ทั้งหมด หลากหลายรูปแบบทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง และมี Effect ให้เลือกมากมาย และมีโหมดขยายพิกเซลถึง 48 ล้านพิกเซลได้
ภาพกลางวันและแสงปกติ ถือว่าทำได้ดีในเรื่องของความชัดและสีสันที่สวยงาม




ภาพกลางคืนหากเลือกโหมดกลางคืนและถือกล้องนิ่งๆ ก็จะได้ภาพที่สว่างและสวย ส่วนโหมด AI อาจจะมืดกว่าเล็กน้อย



ภาพในรูปแบบอื่นๆ ข่าวดีของ Redmi Note 8 Pro มี Marco Mode ทำให้การถ่ายภาพใกล้และต้องการรายละเอียดทำได้ดีมาก และภาพอื่นๆ ก็มี AI Scene ปรับสภาพสี และการเบลอของด้านหลังได้อย่างดี



การถ่ายวิดีโอของ Redmi Note 8 Pro รองรับการถ่ายวิดีโอในแบบ 4K 30 FPS แต่ระบบกันสั่น EIS ทำงานได้ดีในแบบ Full HD และยังรองรับการถ่ายวิดีโอแบบ Slowmotion ที่ 960 FPS ถือว่าสูงสำหรับมือถือระดับนี้


กล้องหน้าของ Redmi Note 8 Pro ยังมาพร้อมกับความละเอียดสูงถึง 20 ล้านพิกเซล และยังสามารถปรับรูปแบบฟิลเตอร์ และเพิ่ม Beauty Mode รวมถึงถ่ายวิดีโอได้ที่ความละเอียด Full HD

ขนาดของแบตเตอรี่ของ Redmi Note 8 Pro จัดมาให้เต็มถึง 4500 mAh เรียกว่าใหญ่พอสมควร เมื่อลองใช้งาน แบบทั่วไปเนื่องจากขุมพลังเน้นเรื่องประสิทธิภาพ และมี AI จัดการพลังงาน ก็สามารถใช้งานได้ 1 วันถ้าใช้โหด แต่ถ้า ใช้งานไม่หนักมาก ก็สามารถเอาตัวรอดได้ ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพแบตเตอรี่จาก PC Mark ทำได้ที่ 9:34 ชั่วโมง
เมื่อใช้งานไปแล้วเรามาดูในส่วนของระบบชาร์จไฟนั้น Redmi Note 8 Pro แม้ว่าจะเป็นมือถือที่มีราคาไม่ได้แพงมากแต่ก็ให้ที่ชาร์จกำลังสูงถึง 18W กันเลยทีเดียว เรียกได้ว่าจัดหนักจัดเต็มเหมือนกันนะครับ ทำให้แบตเตอรี่ขนาด 4500 mAh สามารถชาร์จได้ค่อนข้างเร็ว

สำหรับ Redmi Note Series จัดว่าเป็นมือถือที่เน้นประสิทธิภาพในการทำงานอย่างดีและภาพรวมยังคงตอบสนองความบันเทิงและการสร้างสรรค์อย่างดี จนทำให้ คุณไว้วางใจกับมือถือรุ่นนี้ได้ดี อาจจะมีปัญหาเรื่องของการระบายความร้อนนิดหน่อย เท่านั้นเอง แต่ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้ม ตั้งแต่ระดับ Gamer เบิ้องต้นไปจนถึงคนใช้งานทั่วไป
ส่วนราคาของ Redmi Note 8 Pro เริ่มต้นที่
เมื่อเทียบกับคู่แข่งต้องยอมรับว่า Redmi Note 8 Pro ยังมีความได้เปรียบในเรื่องประสิทธิภาพและสเปกที่ให้มากกว่า แถมกล้องหลังความละเอียดเยอะ ดังนั้นถ้าใครต้องการมือถือสเปกสูงในราคาไม่ถึงหมื่น รุ่นนี้เลือกได้สบายๆ เลยครับ ถ้าซื้อกับผู้ให้บริการอาจจะได้ถูกกว่านี้ ลองพิจารณากันให้ดีนะครับ

จุดเด่น
ข้อสังเกต
อัลบั้มภาพ 18 ภาพ