กรมการขนส่งปลดล็อก Grab ถูกกฏหมาย คาดมีผลใช้เดือนมีนาคม 2563!

กรมการขนส่งปลดล็อก Grab ถูกกฏหมาย คาดมีผลใช้เดือนมีนาคม 2563!

กรมการขนส่งปลดล็อก Grab ถูกกฏหมาย คาดมีผลใช้เดือนมีนาคม 2563!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ปัจจุบัน Grab เป็นบริการยอดนิยมไม่ว่าจะสำหรับสั่งอาหาร เรียกมอเตอร์ไซค์ หรือแม้แต่เรียกแท็กซี่ที่ไม่ปฏิเสธ ล่าสุดมีประกาศจากเพจ กรมขนส่งทางบกว่า Grab กำลังจะถูกกฏหมายแล้วครับ

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าของการให้บริการรถรับจ้าง (Grab) ซึ่งเป็นหน้าที่ตรวจสอบของ กรมขนส่งทางบก โดยคาดว่า กรมขนส่งทางบกจะร่างกฎกระทรวงเสร็จและเสนอกระทรวงคมนาคมในต้นเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แล้วจึงเสนอคณะรัฐมนตรีในเดือนธันวาคม และส่งไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยคาดว่าจะดำเนินการตามขั้นตอนและกระทรวงคมนาคมสามารถลงนามประกาศได้ภายในเดือน มีนาคม 2563

ปัจจุบันการนำรถส่วนบุคคลมาเข้ารับบริการขนส่ง (Grab) ถือว่าผิดกฏหมาย รายงานข่าวแจ้งว่า การพิจารณาแนวทาการกำหนดรถส่วนบุคคลที่ให้บริการผ่านแอปลิเคชั่น ให้เป็นรถสาธารณะที่ถูกกฎหมายนั้น คณะทำงานฯ ได้กำหนดแนวทางโดยมีการยกร่างกฎกระทรวง 2 ฉบับ

1487689-thumbnail

ร่างกฎกระทรวง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การนำรถยนต์ส่วนบุคคลมาใช้ในการรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน พ.ศ. …. ร่างกฎกระทรวงกำหนดการขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต และการต่ออายุ ใบประกอบการรถยนต์ส่วนบุคคลรับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน พ.ศ. …. กฏเกณฑ์เบื้องต้น

ตอนนี้มีกฏเกณฑ์เบื้องต้นที่บังคับใช้สำหรับผู้ที่ต้องการเอารถส่วนบุคคลมาให้บริการรับจ้างสาธารณะผ่าน Grab ได้แก่ ต้องมีใบขับขี่รถยนต์สาธารณะ, เป็นรถส่วนบุคคลไม่เกิน 7 คน อายุไม่เกิน 9 ปี, ให้บริการผ่านแอปเท่านั้น, ต้องติดเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์ตามกำหนด, มีเครื่องสื่อสารแสดงชื่อ นามสกุล เลขที่ใบอนุญาตขับรถ, แสดงค่าโดยสารให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ภาษา (ไทย อังกฤษ จีน), มีประกันภัยเพิ่มเติมจากภาคบังคับ

นอกจากนี้ยังมีมาตรการสำหรับช่วยเหลือผู้ประกอบการแท็กซี่ โดยการปรับอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสม, โฆษณาบนตัวรถได้, กำหนดให้รถที่มีขนาดเล็กสามารถใช้เป็นแท็กซี่ได้, บุคคลธรรมดาสามารถนำรถมาจดทะเบียนเป็น รถ TAXI VIP ได้, ขยายอายุการใช้งานของรถ, นำเทคโนโลยีใหม่ มาใช้ทดแทนอุปกรณ์ TAXI OK ได้

อ้างอิง เพจกรมขนส่งทางบก

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook